บันทึกอานิสงส์ผลบุญจากการนับถือ หนังสือเทวราชโองการ

สำนักธรรมเคอยุ่นถัง

2024-05-04 07:48:41 - mindcyber

สำนักธรรมเคอยุ่นถัง มีจดบันทึกไว้ว่า ในอำเภอบ้านเรามีท่านเฉินจ้งฉาง เลื่อมใสหนังสือเทวราชโองการมานานแต่ติดขัดที่โรงพิมพ์ละแวกใกล้เคียงนี้ไม่มี แม่พิมพ์ของหนังสือเล่มนี้ ทำให้หาซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ยากมาก

ต่อมามีโอกาสไปทำธุระในเมืองซูเฉิง พักในอารามเก่าแห่งหนึ่ง ได้พบหนังสือเทวราชโองการเล่มหนึ่งอ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจ ขนลุกซู่ ท่านเฉินกล่าวกับพระสงฆ์ ในวัดว่า“หนังสือดีในโลกนั้นจะหาเทียบหนังสือเล่มนี้ ไม่มีอีกแล้วหนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแต่ผู้ชาญฉลาดอ่านแล้ว สามารถเข้าใจ และสำนึกได้ทันที ผู้ที่ด้อยการศึกษา ถ้าได้อ่านได้ฟังก็จะเกิดการสะพรึงกลัว” ท่านสำนึกในความผิดที่เคยก่อโดยไม่ตั้งใจ เพื่อให้หนังสือเทวราชโองการเล่มนี้ สามารถสืบทอดไปยาวนาน และเพื่อให้คนทั้งประเทศหันมามุ่งสู่ธรรมมรรค จึงตั้งปณิธานจะพิมพ์หนังสือเล่มนี้ออกแจกจ่ายทั่วไป เลยขอหนังสือเทวราชโองการที่มีอยู่เล่มเดียวในวัด นำไปให้โรงพิมพ์แกะแม่พิมพ์ตามแบบฉบับของหนังสือ จ่ายค่าแกะแม่พิมพ์ และพิมพ์หนังสือออกเผยแผ่

จากนั้นอีก 3 ปีต่อมา ปีกุ่ยอิ่ว บุตรชายของท่านเฉินจ้งฉางชื่อเป่าเจี่ยน สอบติดบัณฑิตอำเภอ

ปีถัดมาเจี่ยซี สอบเข้าบัณฑิตมณฑลได้เป็นที่ 1 ของมณฑล ชื่อเสียงระบือไปทั่วมณฑลอันเฟย

ที่กล่าวมานั้น เป็นหลักฐานอันประจักษ์ของคำว่า“สวรรค์ประทานพรแก่ผู้สร้างกุศลกรรม”

ในบทบันทึกสำนักธรรมเคอยุ่นถัง ยังมีบันทึกตอนหนึ่งว่า เสนาบดีอิ้ง ในเมืองไถโจว ช่วงที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนชนบท มีอยู่คืนหนึ่งซึ่งเขากำลังคัดลอกหนังสือเทวราชโองการอยู่ใต้แสงเทียน ได้ยินเสียงผีคุยกันว่า “ภรรยาของบ้านนาย ก.เนื่องจากสามีไปทำมาหากินต่างถิ่นเป็นเวลายาวนาน ไม่เพียงไม่ส่งเงินทองกลับบ้านเลี้ยงครอบครัว แม้แต่ข่าวคราวความเป็นอยู่ก็ไม่มี พ่อผัวแม่ผัวคิดว่าลูกชายเขาคงไม่มีชีวิตอยู่ จึงบังคับให้ลูกสะใภ้ไปแต่งงานใหม่แต่ภรรยานาย ก. ไม่ยอม นางคิดจะผูกคอฆ่าตัวตายในคืนพรุ่งนี้ คืนพรุ่งนี้จะมีผีใหม่มาแทนที่ผีตายโหงอย่างข้า”

วันรุ่งขึ้น ท่านอิ้งได้ออกจากโรงเรียนไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่เช้า พบว่ามีครอบครัวนาย ก. จริงอย่างเช่นผีพูดจึงรีบกลับเข้าโรงเรียน แล้วแอบนำแท่นฝนหมึก และพิณโบราณมีชื่อ ซึ่งเป็นสมบัติที่ตกทอดจากบรรพบุรุษของเขานำไปขายได้เงินมา 4 ตำลึง แล้วปลอมจดหมายลงนามนายก. แสร้งทำเป็นว่านาย ก. ได้ฝากจดหมาย และเงิน 4 ตำลึงมาให้

เมื่อพ่อแม่นาย ก. ได้รับเงิน และจดหมาย เชื่อว่าบุตรชายยังมีชีวิตอยู่ และสบายดี จึงไม่บังคับลูกสะใภ้ต้องแต่งงานใหม่ หญิงคนนั้นก็รอดพ้นจากความตาย

ไม่นานนาย ก. ผู้เป็นสามีก็กลับมาบ้านอย่างไม่คาดคิดและทั้งครอบครัวได้อยู่อย่างพร้อมหน้า

ต่อมายามราตรีหนึ่ง ท่านอิ้ง ได้ยินเสียงผีสนทนาอีกว่า“ตามหลักข้าพเจ้าควรมีผีใหม่มาแทนที่ข้า แต่น่าเสียดายนักศึกษาท่านนี้ทำให้เสียการ” ผีข้างเคียงฟังแล้วพลันยุส่งว่า“เมื่อเขาทำให้เสียเรื่อง นายทำไมไม่จัดการกับนักศึกษาท่าน

นั้นเสีย?” ผีตนนั้นตอบว่า “นักศึกษาท่านนี้หมั่นคัดลอกหนังสือเทวราชโองการแจกเพื่อน และมีใจเมตตาช่วยเหลือคนเวลานี้สวรรค์เบื้องบนได้ลิขิตมาว่า นักศึกษาท่านนี้ให้มีตำแหน่งขุนนางถึงขั้นเสนาบดี แล้วผีอย่างข้าจะกล้าไปทำร้ายเขาหรือ” ต่อมาท่านอิ้งก็สอบเข้าขุนนางสุดท้ายได้รับตำแหน่งเสนาบดี

ท่านโจวเจ๋อฟู ชาวเมืองหลูโจว เรียนหนังสือจนถึงอายุ 40 ปี ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ (ไม่สามารถสอบเข้าเป็นขุนนาง)

บังเอิญไปเห็นคนฆ่าวัว รู้สึกเป็นการเข่นฆ่าที่ทารุณมาก ยิ่งได้มาอ่านหนังสือเทวราชโองการ ตอนนรกตำหนักที่6 มีข้อความว่า ถ้าไม่งดเว้นทานเนื้อวัว และเนื้อสุนัข จะต้องมารับโทษในนรกขุมนี้ ทำให้เกิดความสะพรึงกลัว เลยนำทั้งครอบครัวสาบานว่าต่อจากนี้ไป จะงดเว้นกินเนื้อวัว และเนื้อสุนัข และจะคัดลอกหนังสือเทวราชโองการออกเผยแผ่ กลางปีนั้นเอง ท่านโจวเจ๋อฟูสอบได้ราชบัณฑิต เข้ารับราชการเป็นขุนนาง

ปัจจุบันบุตรหลานท่านต่างมียศศักดิ์ มีชื่อเสียงอันรุ่งโรจน์

ที่บันทึกมาทั้ง 3 รายการ ล้วนเป็นเรื่องจริงที่ได้ฟังได้พบเห็นมา มิใช่นั่งเทียนเขียนขึ้น ทั้งสามเรื่องเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า ความรุ่งโรจน์หรือต่ำต้อย ร่ำรวยมีจนล้วนเกิดจากจิตสำนึกของเรา จิตมุ่งไปทางกุศล ฐานบุญก็จะถูกสร้างขึ้น ฉะนั้นจึงยกเป็นตัวอย่างมาให้ชาวโลกที่มีความจริงใจปฏิบัติตามคำสอนของหนังสือเทวราชโองการรับทราบ

More Posts