ตำหนักที่ 1 ฉินกว่างหวัง

ตำหนักที่ 1 ฉินกว่างหวัง ปกครองจัดการอายุขัยมนุษย์ทะเบียนสูติมรณะ ควบคุมคุณโทษทั่วแดนนรก ตำหนักพิพากษ์วิญญาณ ตั้งอยู่นอกโคกถ่านหินใต้มหาสมุทรด้านตรงของปัจฉิมทิศ มีเส้นทางมรณะหวงเฉวียน สาธุชนเมื่อสิ้นอายุขัย จะถูกนำพาไปจุติ ณ ภพใหม่ บุรุษเพศ หรือสตรีเพศที่มีกุศลกรรม และอกุศลกรรมเท่ากัน จะถูกส่งต่อไปตำหนักที่ 10 เพื่อจัดการให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ เหมือนเดิม แต่อาจเปลี่ยนจากเดิมเป็นบุรุษเพศให้ไปเกิดใหม่เป็นสตรีเพศบ้าง จากเดิมเป็นสตรีเพศให้ไปเกิดใหม่เป็นบุรุษเพศ และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างวรรณะสูงศักดิ์หรือต่ำต้อย ฐานะร่ำรวยหรือยากจน เพื่อสนองบุญและกรรมที่เขาสร้างไว้ บรรดาวิญญาณที่ทำบาปมาก สร้างกุศลน้อยให้เข้าสู่หอสูงซึ่งตั้งอยู่ทางขวามือของตำหนัก มีชื่อว่า“หอกระจกส่องกรรม” หอสูงขนาด 10 ฟุตจีน กระจกใหญ่ราว 10 คนโอบ แขวนหันไปทางทิศตะวันออก ด้านบนกระจก มีอักษรจีนเรียงขวางอยู่ 7 คำ เขียนว่า “หน้ากระจกส่องกรรมไร้คนดี” พวกวิญญาณบาปเมื่อถูกควบคุมตัวมาถึงหน้ากระจก ก็จะปรากฏภาพจิตใจอันเหี้ยมโหด และพฤติกรรมอันชั่วร้ายต่างๆ เมื่อช่วงมีชีวิตอยู่ออกมา และภาพอันตรายเมื่อตกนรก ถึงเวลานั้นวิญญาณจึงรู้ว่าทองคำหมื่นตำลึงที่มีอยู่นำติดตัวมาไม่ได้ ชั่วชีวิตเหลือแต่บาปกรรมเกาะติดตัว เมื่อเข้าหอกระจกส่องกรรม สะท้อนภาพกรรมชั่วแล้ว วิญญาณจะจัดส่งไปตำหนักที่ 2 เพื่อรับโทษทัณฑ์ ณขุมนรก

ชาวโลกคนไหน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของฟ้าดินที่กำเนิดมนุษย์ บุญคุณของพ่อแม่ซึ่งเลี้ยงดูเรามาด้วยความยากลำบาก บุญคุณทั้งสี่นี้ยังไม่ได้ทดแทน ตัวเองไม่ได้รับหมายเรียกมรณะ ก็ด่วนตัดช่องน้อยโดยการฆ่าตัวตาย ผูกคอตาย กินยาพิษ หรือกระโดดน้ำตาย เป็นต้น ผู้คิดฆ่าตัวตาย ยกเว้นคนที่ตายเพื่อจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ตายเพื่อกตัญญูต่อพ่อแม่ ตายเพื่อรักษาความซื่อสัตย์บริสุทธิ์ ตายเพื่อรักษาสัตย์ธรรม ซึ่งคนเหล่านี้ตายแล้วได้เป็นเทพ ถ้าหากฆ่าตัวตายด้วยเหตุคับแค้นใจเล็กน้อย หรือทำความผิดแล้วถูกจับได้ โดยโทษยังไม่ถึงที่ตายแต่ด่วนชิงตายก่อน หรือพวกหาเรื่องกลั่นแกล้งใส่ร้ายผู้อื่น จากการแกล้งตายจนกลายเป็นตายจริง วิญญาณเหล่านี้ จะถูกเทพเจ้าเตา หรือเทพเจ้าทวารจับส่งมาตำหนักนี้ เข้าสู่โรงหิวกระหาย เมื่อถึงยามซีไห้ (ยามหนึ่งทุ่มถึงห้าทุ่ม)ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานก่อนสิ้นใจ จะปรากฏขึ้นมาอีกเหตุการณ์เช่นนี้จะดำรงอยู่ประมาณ 70 วัน หรือ 1-2 ปี จึงจะคุมวิญญาณไปไว้ ณ ที่ที่ฆ่าตัวตาย ห้ามรับของเซ่นไหว้ไม่ว่าอาหารหรือกระดาษเงินกระดาษทอง ถ้าหากวิญญาณอัตวินิบาตกรรมนี้สำนึกผิด ไม่ปรากฏร่างทำให้ผู้คนตกใจไม่เที่ยวจับมนุษย์มาทดแทนวิญญาณตัวเอง อยู่ ณ ที่นั้นเพื่อรอวันเวลาผู้ถูกรบกวน ผู้รับทุกข์หมดวันผูกพัน เทพเจ้าเตาหรือเทพเจ้าทวารจึงจะนำวิญญาณนักโทษส่งกลับมาตำหนักนี้ เพื่อจ่ายต่อไปตำหนักที่ 2 ตรวจสอบบาปบุญคุณโทษเพิ่มโทษให้หนัก จึงจัดส่งไปรับทุกข์ตามขุมนรกต่างๆ

ถ้าหากผู้ใดมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย หรือใช้คำพูดและการกระทำฆ่าตัวตายมาข่มขู่ผู้อื่น ถึงแม้ไม่ตายจริง แต่เมื่อสิ้นชีพแล้วกุศลกรรมต่างๆ ในช่วงที่มีชีวิตอยู่จะนำมาลดหย่อนผ่อนโทษไม่ได้

บรรดามนุษย์ที่ไม่รักชีวิต เมื่อฆ่าตัวตายแล้ว วิญญาณยังไปเที่ยวหลอกหลอนมนุษย์จนเกิดการช็อคตาย จะถูกยมทูตหน้าตาดุร้ายน่าเกลียดน่ากลัว จับมาลงโทษตามนรกขุมต่างๆ จนครบกำหนดโทษ แล้วยังจะถูกส่งไปลงนรกอเวจีถูกคุมขังไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดตลอดไป

พระภิกษุหรือนักพรต ที่รับจ้างสวดพระอภิธรรมแทนผู้อื่น เกิดคำสวดตกหล่น หรือสวดผิดหน้าผิดเล่มมรณภาพแล้วมาตำหนักนี้ จะถูกส่งไปยังสถานสวดพระอภิธรรมชดเชย ณ สถานที่นั้น จะมีห้องทึบมืดข้างในมีคัมภีร์พระสูตรวางอยู่ คำศัพท์หรือวรรคตอนที่พระภิกษุหรือนักพรต ท่านใดที่เคยสวดตกหล่นจะถูกระบุให้ต้องสวดชดเชย ในห้องมืดทึบนั้นได้ตั้งตะเกียงน้ำมัน ซึ่งบรรจุน้ำมันไว้หลายสิบชั่ง แต่มีไส้ตะเกียงแค่เส้นนิดเดียวไว้จุดให้สว่างเลยทำให้แสงสว่างในห้องสลัวๆ เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง ทำให้พระภิกษุ หรือนักพรตที่ถูกทำโทษมาสวดชดเชย ไม่สามารถสวดรวดเดียวให้จบ การลงโทษนี้ แม้แต่พระภิกษุ หรือนักพรตที่ปฏิบัติธรรมโดยปลีกวิเวก แต่ได้รับปัจจัยเงินทองจากมนุษย์ก็ไม่ได้ละเว้น หากบุรุษเพศสตรีเพศที่ตั้งใจสวดภาวนาคัมภีร์พระสูตร และพระนามพระพุทธตถาคตเจ้า ณที่บ้านด้วยจิต และปากของตนเอง ถึงจะมีตกหล่นผิดพลาดก็มิต้องโทษ เพราะการสวดมนต์ภาวนาในบ้าน เน้นที่ความตั้งใจ และจิตบริสุทธิ์ ไม่เน้นความถูกต้องของประโยคอักขระแม่ชีก็ถือเฉกเช่นเดียวกัน พุทธประสงค์ไม่ต้องการให้สวดชดเชย วันขึ้น 1 ค่ำของทุกเดือน ให้คัดลอกบันทึกชื่อหนังสือธรรมะ

ทุกวันขึ้น 1 ค่ำ ของเดือน 2 (ตามปฏิทินจีน) ชาวโลกท่านใดสามารถถือศีลกินเจ และหันหน้าไปทางทิศเหนือภาวนาสาบานตนว่าต่อจากนี้ไป จะละเว้นการสร้างบาปและจะตั้งจิตนี้ตลอดไป ก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องตกนรก

พระโอวาทอันเปี่ยมด้วยเมตตานี้ ถ้าคัดลอกเป็นหนังสือแจกจ่ายเผยแผ่ไปทั่วโลกมนุษย์ หมั่นแนะนำให้บุรุษเพศสตรีเพศรู้สำนึกบาปกลับตัวเป็นคนดี ถ้าสิ้นอายุขัยจะมีกุลบุตรเสื้อเขียว (เด็กรับใช้ของเทพหรือพระอมิตาภะพุทธเจ้า)มานำพาไปสู่แดนสุขาวดี ณ ปัจฉิมทิศ