เอาเปรียบคนอื่นไปส่วนหนึ่ง ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปส่วนหนึ่ง

พระโอวาทพระพุทธจี้กง

ที่จริงคนที่ถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์ ก็เพื่ออโหสิกรรมให้กับสัตว์วิธีหนึ่ง ยิ่งมีใจเมตตากรุณาเป็น

เพื่อนที่ดี ผู้ถือศีลไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่รับเนื้อ สวดมนต์ไหว้พระทุกๆ วัน แผ่ส่วนกุศลไปยังสัตว์เดรัจฉานจะได้ลดโทษลงด้วยวิธีนี้ชีวิตของสัตว์ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ถือศีล ไม่เพียงแต่ลดโทษยังได้บรรลุธรรมอีกด้วย สามารถพ้นจากทุกข์ทรมานได้เร็วขึ้น ทำไมต้องกินเนื้อที่มีบาปโดยไม่คาดคิด เราก็ไปแปดเปื้อนบาปด้วย ยังทำให้บุญกุศลที่มีอยู่ลดน้อยลงไป ไม่มีทางได้กินฟรีหรอก กินเนื้อไปชิ้น

หนึ่งต้องจ่ายบุญกุศลไปส่วนหนึ่ง มีคำกล่าวว่า :

“เอาเปรียบคนอื่นไปส่วนหนึ่ง

ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปส่วนหนึ่ง ”

อันนี้ยุติธรรมดี เพราะฉะนั้น กินเจ กินเนึ้อ แล้วแต่คนเลือกเอา ผู้ที่กินพืชผักชึ่งได้รับพลังจากแสงอาทิตย์ กินแล้วไม่ต้องสูญเสียบุญกุศล ถ้ากินเนื้อ เพราะสัตว์มีวิญญาณ พวกมันอุทิศร่างกายให้เราสามมึ้อ เธอกินเนื้อเขาเธอก็ต้องอุทิศกุศลไปให้เขา เพื่อคนจะได้พ้นโทษ อันนี้เป็นทางยุติธรรมที่สุด กินเนื้อเขาแล้วก็ต้องชดใช้เงินเป็นไปได้หรือ ?  สัตว์ถูกแยกร่าง ถ้ามันพูดได้ มันคงต้องฆ่าเธอแน่ ๆ

ตัวหนังสือที่เขียนว่า “เนื้อ” ประกอบด้วย อักษร “คน” 2 ตัว นอกประตูมีคนหนึ่ง ในประตูมีคนหนึ่ง มองดูแล้วก็เหมือนคนกินคน

ถ้าหากผู้ใดนิยมกินเนื้อ อาตมาจะบอกให้ฟัง คนที่กินมากเกินไปก็มีแต่โทษมากกว่าประโยชน์ ถ้าหากไม่เชื่อก็ให้ถามนายแพทย์ดู ยิ่งคนอายุมาก ความต้านทานลดลงกินเนื้อมากไปร่างกายก็มีโรคมากขึ้น เช่น คอเลสเตอรอลในเลือด จึงทำให้เกิดความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มีไขมันไปเกาะมากขึ้น และอื่นๆ อีกมาก คนที่ฉลาดบริโภคน้อยลงหน่อยจะดีกว่า ตอนนี้อาตมาจะเล่าเรื่องสัตว์ 6 ประเภท

ให้ ฟัง

ประเภทที่ 1. วัว ควาย

ในสมัยโบราณวิทยาการไม่ก้าวหน้า สวรรค์เมตตาให้วัว ควาย เป็นสัตว์ช่วยทำไร่ไถนา เป็นเพื่อนที่มีคุณที่สุดของมนุษย์ นอกจากนี้ยังให้น้ำนม ช่วยเลี้ยงดูบุตร พอแก่ลงคนก็เนรคุณด้วยการจับไปฆ่ากินเนื้อ ไม่สงสารเขาบ้างหรือ ?

ประเภทที่ 2. ม้า

ม้าเกิดมาเพื่อการเดินทางของมนุษย์บรรทุกของ มิใช่ใว้ในสวนสัตว์ให้คนดูเล่น แต่ปัจจุบันวิทยาการก้าวหน้าทำให้ม้าหมดหน้าที่ไป

ประเภทที่ 3. แพะ

แพะช่วยถางหญ้าให้กับชาวนา และเป็นการชี้ทิศทางให้คนอีก จะได้ไม่เดินทางไปในที่มีอันตราย มิโช่เป็นเครื่องสังเวยในการหาลูกสะใภ้ หรือเป็นยาบำรุงของคน

 

ประเภทที่ 4. สุนัข

ทำหน้าที่เฝ้าดูแลบ้าน เป็นบ่าวที่ชื่อสัตย์ที่สุดของคน มันจะไม่ทิ้งนายของมันไปเพราะความมีจนของนายแต่คนสิกลับไม่เห็นใจมัน กลับเอามันไปทำ “เนื้อหอม” เฮ้อ !... น่าสงสาร เนื้อหมูนั้นหอมจริงหรือเปล่า ถ้าหากเอาเนื้อเพื่อนที่ชื่อสัตย์ของเธอมากิน แล้วบอกว่าห้อมหอมละก็ คงจะไม่ใช่จิตคนแล้วกระมัง !

ประเภทที่ 5. ไก่

ได้รับหน้าที่อันสำคัญ ขันในตอนเช้าตรู่ ไม่ว่าฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าใส หรือเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร มันก็ยังคงทำหน้าที่ไม่รู้จบของมัน บำเพ็ญประโยชน์ให้คนมามากแล้ว แต่คนก็เลี้ยงอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เพื่อประโยชน์ในทางกอบโกย อย่างนี้จะให้เรียกว่ามีเมตตาหรอกหรือ ?

ประเภทที่ 6. หมู

คนเราไม่ควรเทข้าวที่เหลือทิ้ง แล้วจะให้ทำอย่างไรเล่า?  สวรรค์เลยให้หมูรับหน้าที่กินของเหลือเดน เพื่อคนจะได้ไม่บาปในการทิ้งขว้างอาหารที่เหลือ แต่คนคิดว่าหมูเป็นสัตว์ที่คนเลี้ยงไม่มีคุณค่า ควรตอบสนองในการกินเนื้อเป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้จึงกินได้โดยชอบธรรม ยิ่งกินใหญ่

ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นหน้าที่และความเป็นมาของสัตว์เลี้ยง อยากให้ผู้คนได้ไตร่ตรองดูให้ดีๆ

หลายคนเห็นว่า เป็ด ไก่ หมู วัว ควาย ฯลฯ สัตว์เหล่านี้เกิดมาเพื่อเป็นอาหาร พูดตามเหตุผลต้องได้รับ

โทษตอบสนองเป็นอาหารของคน ทำไมจึงบอกว่าคนฆ่าสัตว์ไม่ได้ ?

จะยกตัวอย่างให้เห็น ถ้ามีคนหนึ่งเป็นหนี้เธอ เธอก็ไม่สามารถฆ่าเขาเพื่อชดใช้หนี้ ควรให้เป็นหน้าที่ของศาลเพี่อชดใช้ให้ตามแต่ศาลสั่ง จิตโพธิสัตว์อาสัยเมตตาเห็นใจเขา ไม่อยากให้วิญญาณรับโทษ ก็เหมือนปฏิบัติต่อผู้พิการ ได้แต่บริจาคด้วยใจรักอย่างเดียว

ผู้บำเพ็ญก็เช่นเดียวกัน ต้องฝึกจิตใจให้มีเมตตา กรุณา พุทธจิตจะได้ใสสะอาด ผู้ที่กินเนื้อของวิญญาณบาปเหล่านี้ (เนื้อสัตว์) โดยไม่ได้ตั้งใจ ก็จะเปื้อนราคีของวิญญาณบาป ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการบำเพ็ญ ถ้าหากทานมังสวิรัติแล้วก็ทำให้จิตใจใสสะอาด เกื้อหนุนการบำเพ็ญเพียร ผู้ที่ทานเนื้อสัตว์มากๆ จิตใจจะขุ่นมัว เป็นการเพิ่มพูนกิเลสตัณหา ตั้งแต่โบราณมาผู้ที่บำเพ็ญมักตัดสินใจทานมังสวิรัติเพื่อตัดความอนาถทางโลกีย์

โบร่ำโบราณมาแล้วมีร่องรอยหลักฐานมากมาย วันนี้จะเล่าเรื่องให้ฟังเรื่องหนึ่ง...

ในสมัยราชวงศ์ถังมีผู้ถือศีลคนหนึ่งชื่อ อุ้ม แช่หลง ครอบครัวร่ำรวยมาก มีความรู้สูง ชื่อเสียงเป็นที่ล่ำลือ บรรลุธรรมตั้งแต่ยังเยาว์วัย ตั้งจิตอธิษฐานขอพบแต่สัจธรรม เริ่มแรกก็ไปคารวะอาจารย์สือโตว ต่อมาก็มาคารวะอาจารย์ม้าโจว  ตั้งแต่นั้นมาก็บรรลุจิตเดิม เข้าถึงหลักอนัตตา ปกติคุณหลงเป็นคนที่มีจิตใจชอบช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ประกอบกรรมดี บริจาคอยู่เนืองนิจ

วันหนึ่งมีพ่อค้า 2 คนมาหา ต้องการยืมเงินหนึ่งพันตำลึงไปทำการค้า ท่านหลงก็ยินดีให้ยืมทันที เมื่อพ่อค้าทั้ง 2 คนได้เงินแล้วก็คิดว่าจะเข้าเมือง แต่มีสัมภาระที่ติดตัวมามาก ท่านหลงจึงให้เอาลาที่เลี้ยงไว้ให้ยืมไปขนของ

ครั้งนั้น... พ่อค้าทั้งสองเดินทางมาถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งก็หยุดพัก พ่อค้าคนหนึ่งได้พูดขึ้นมาว่า

“ ท่านหลงใจดีให้ยืมเงิน แต่ลืมจดลงในสมุด ถ้าหากเราเอาเงินนี้ไปโดยไม่ใช้คืน ก็ไม่มีใครรู้ ”

พูดจบ... เจ้าลาก็พูดขึ้นทันทีว่า...

“ ฉันชาติก่อนได้ยืมข้าวโอ๊ตไป3 ขีด แล้วก็ไม่ได้ใช้คืน ชาตินี้เกิดมาเป็นลาต้องขนของให้ท่านเดินทางมาไกลถึง 30 ลี้ เพื่อเป็นการใช้หนี้เก่า  ตอนนี้ฉันใช้หนี้ท่านหมดแล้ว ฉันเห็นทีจะต้องกลับก่อน ”

พ่อค้าทั้งสองตกใจมาก เมื่อได้ยินเสียงลาพูดออกมาเป็นภาษาคนได้ ก็เลยรีบเอาเงินที่ยืมมานั้นไปคืนให้ท่านหลง ท่านหลงแปลกใจมากเลยถามว่า...  “ ทำไมรีบคืนเงินมาให้เล่า ? ”

พ่อค้าทั้งสองจึงเล่าเรื่องที่ได้ยินจากลาพูดให้ฟังว่า

“ พวกเรากลัวว่าจะต้องไปใช้กรรมชาติหน้า เลยรีบนำเงินมาคืนให้ ” พูดแล้วก็ลาจากไป

พอตกกลางคืน ท่านหลงก็เดินไปที่คอกม้า บังเอิญได้ยินม้ากับลาสนทนากันว่า...

“ ชาติก่อนเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ ชาตินี้ก็เลยมาใช้หนี้เขา ”

เมื่อท่านหลงได้ยินแล้วก็แหงนหน้าขึ้นเปรยว่า... “ฉันตั้งใจจะช่วยคน คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นเพิ่มภาระให้กับพวกเขา ”

เมื่อปลงไม่ตก ต่อมาไม่นานคุณหลงก็รวบรวมทรัพย์สมบัติทั้งหมดนำขึ้นเรือออกไป คิดจะทิ้งลงทะเล ขณะเดียวกันนั้นมีเรือโจรสลัดแล่นมาเข้าเทียบ พวกโจรสลัดปีนขึ้นเรือมาจะเข้าปล้น ท่านหลงเลยเล่าเรื่องลากับพ่อค้าสองคนให้ฟัง และตนเองคิดจะเอาเงินทั้งหมดนี้มาทิ้งทะเล

ปรากฏพวกโจรสลัดได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว จิตใจเกิดสำนึกผิดพูดว่า...

“พวกเราจะออกบวช ยอมติดตามท่านถือศีลกินเจ”

สุดท้ายท่านหลงได้เอาเงินทั้งหมดนั้นบริจาคเพื่อเป็นค่าอาหารสำหรับโจรสลัดทั้ง 500 คน ต่อมาพวกโจรสลัดทั้ง 500 คนก็บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จบรรลุอรหันต์ เลยได้ชื่อว่า “อรหันต์ 500 องค์”

ครั้งนั้น... ท่านหลงได้ละทิ้งสมบัติ บุตรีก็ถือศีล ทอเสื่อยังชีพไปวันๆ หนึ่ง ลูกชายก็ทำไร่ไถนา ทั้งครอบครัว สามี ภรรยา บุตร สี่ชีวิต ตั้งใจบำเพ็ญเพียร ภายหลังที่ท่านหลงได้ช่วยโจรสลัดกลับใจได้ จิตใจอิ่มเอิบยิ่งเพิ่มความเพียรมากขึ้น ในที่สุดก็บรรลุสำเร็จเป็นอรหันต์ทั้งครอบครัว

มีผู้คนแต่งกลอนสรรเสริญว่า :

สำนึกผิด          คิดกลับใจ         เพราะทำชั่ว

เกิดเป็นวัว        เป็นควาย          เพื่อใช้หนี้

อกุศลจิต           ยากนัก             จะพ้นทุกข์

ไม่สัตยซื่อ        ทุนรอน            หาไม่ได้

 

ท่านทั้งหลายเห็นแล้วใช่ไหมว่า พวกเป็ด ไก่ วัว ควาย ต่างก็เกิดมาชดใช้กรรมเก่า ซึ่งเป็นการยืนยันถึง “กฎแห่งกรรม” รีบๆ กลับใจประพฤติตนให้ถูกต้อง ตั้งใจบำเพ็ญเพียร เพื่อไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

ครั้งที่ 6 สัมภาษณ์โจรปล้นฆ่าในอเวจี

1654918052.jpg
mindcyber
11 months ago

คติพจน์อนุตรเทพไท่สั้งเหล่าจวิน

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ครั้งที่ 5 ท่องแดนนรกขุมที่ 1 สนทนากับยมบาลชิ่งก้วงอ๊วง

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ปฐมสาธุการพจน์ของ

เทพเจ้าฝูอี้ว

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

แก้หนี้กรรมด้วยการสวดพระนาม

1654918052.jpg
mindcyber
6 months ago