สำรวจโองการเหล่าเทพเทวดา จากหนังสือเทวราชโองการ

2024-05-04 07:26:35 - mindcyber

พระมารดาของเทพเจ้าหวุนชาง เทพเมี่ยวฮุ่ยทรงรับสั่งว่า

“มนุษย์เรา มีชีวิต อยู่ในโลก

จะอุบัติ ดับสูญ มิเที่ยงแท้

เพิ่งจะมา พลันจากไป ล้วนบ่แน่

ดั่งจันทรา เต็มดวง แรมตามแล

บุบผาชาติ เบ่งบาน ก็โรยร่วง

ชาตินี้เกิด เป็นมนุษย์ เพราะผลพวง

มาจากการ ดับสูญ ภพก่อนแท้

ไม่มีดับ ไหนเลย จะอุบัติ”

ถ้าวันนี้ การตาย มีเคลือบแคลง

แล้วชาติหน้า จะเกิด จากไหนแล

คนเรามีชีวิตอยู่ในชาตินี้ เป็นการมาอาศัยอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น จะเกิดจะตายล้วนไม่แน่นอน ดังเช่นดวงจันทร์มีทั้งเดือนมืดและเดือนหงาย ดอกไม้ถึงจะบานสะพลั่งแต่ไม่นานก็โรยรา การเกิดของชาตินี้ มาจากการตายของภพก่อน ชาติก่อนไม่ตาย ชาตินี้ไฉนจะมีเกิด ถ้าชาตินี้ตายอย่างไร้เหตุไร้ผล จะรับรองชาติหน้ามีโอกาสเกิดอีกได้หรือ?

คติพจน์ของพระบูรพาคิรีมหาราชเจ้าตรัสไว้ว่า “ฟ้าดินมิลำเอียงเทพเจ้าหมั่นตรวจตรา ไม่ประทานสุขเพราะสักการะ (เทพเจ้าประทานสุขเฉพาะคนทำความดี) ไม่ให้ทุกข์เพราะขาดสัมมาคารวะ เกิดเป็นมนุษย์ หากมีอำนาจบารมีก็มิควรนำออกใช้พร่ำเพรื่อ มีบุญวาสนา มิควรละเลยจนไม่เหลือ เห็นคนยากคนจน เอาแต่รังแกไม่เอื้อเฟื้อสามประการนี้ คือวัฏฏะแห่งฟ้า หมุนเวียน ผันแปรไม่มีสิ้นสุดฉะนั้นผู้สร้างความดี ถึงวาสนาพูนสุขยังไม่มาเยือน แต่เภทภัยก็หลีกพ้นจากเราไกลเหลือ วันหนึ่งทำบาป ถึงแม้ภัยพิบัติยังไม่ปรากฏ แต่วาสนาความสุขก็จะหนีห่างจากเราจนไม่เหลือ คนทำความดี เสมือนหญ้าในสวนช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ เห็นไม่งอกงาม แต่ก็โตขึ้นทุกวันทุกเวลาผู้สร้างความชั่วเสมือนหินลับมีด ถึงไม่เสียหาย แต่ก็สึกกร่อนอยู่เนืองๆ ฉะนั้นเรื่องทำลายผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง เป็นสิ่งควรงดเว้นอย่างยิ่ง

เทพเจ้าหวุนชางทรงตรัสว่า “เราเกิดเป็นขุนนาง 17ชาติ ไม่เคยข่มเหงรังแกประชาชน ไม่เคยโหดร้ายต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ช่วยเหลือผู้มีความเดือดร้อนสาหัส สงเคราะห์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก สงสารคนกำพร้าไร้ที่พึ่ง อภัยต่อผู้หลงผิดเป็นชอบ หมั่นสร้างกุศล (โดยไม่หวังชื่อเสียงผลบุญ) ให้สูงส่งเทียมฟ้า ชาวโลกท่านใดมีจิตใจเช่นเรา สวรรค์ย่อมประทานบุญวาสนาแก่เจ้า”

ท่านยังได้ตรัสอีกว่า “จะขยายนาบุญ ต้องอาศัยกำลังจิตเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่สรรพสัตว์เสมอ และสร้างบุญสร้างกุศลอย่างไม่ย่อท้อ”

ท่านยังตรัสอีกว่า “การช่วยผู้เดือดร้อน ต้องเร่งรีบดั่งช่วยปลาที่ค้างอยู่ในร่องล้อรถ จะช่วยผู้ประสบทุกข์ภัย ต้องฉับไวเฉกเช่นช่วยนกที่ติดอยู่ในข่ายแห”ท่านตรัสอีกว่า “หมั่นเข้าใกล้สาธุชน จะเสริมสร้างคุณธรรมศีลธรรมทั้งกายใจ ห่างไกลจากทรชน ก็สามารถขจัดภัยที่อยู่ใกล้ตัว”

ท่านตรัสอีกว่า “กรรมสนองเร็วตกที่ตัวเอง กรรมสนองช้าตกถึงลูกหลาน” ประโยคข้างต้นนี้ ล้วนยืนยันว่ามี

วัตถุประสงค์เช่นเดียวกับหนังสือเทวราชโองการ

อนุตรเทพไท่ซั่งเหล่าจวินตรัสว่า

“ทุกข์ สุขไร้ประตู แล้วแต่คนแสวงหา

กรรมสนองดีชั่ว ไวดั่งเงาตามตัว”


เทพเจ้าเจินอู่ตรัสว่า

“เหิมเกริมยโส มียศไร้เกียรติ ชื่อเสียงตกต่ำ

ตระหนี่ถี่เหนียว ร่ำรวยไร้ค่า ภัยถึงลูกหลาน

เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำบุญทำทาน ศรีสุขมาเยือน

ลดกาเม ลดรสชาติ กินน้อยใช้น้อย อายุยืนยาว

ไม่ทำบาปคิดชั่ว แม้นอยู่ที่ลับ ไร้คนรู้เห็น

ทวยเทพศักดิ์สิทธิ์ มิควรลบหลู่ มิควรมดเท็จ

จิตใจซื่อตรง สง่าผ่าเผย เทพย่อมพิทักษ์

ช่วยเหลือปัดเป่า ขจัดเภทภัย มีสุขจีรัง”

นักพรตหุย กล่าวว่า “เจ้าอยากอายุยืนยาวพึงฟังเราสรรพชีวิตย่อมอภัยแก่ตัวเอง และเห็นอกเห็นใจพวกพ้องเดียวกันเสมอ ฉะนั้น เจ้าอยากอายุยืนก็ต้องช่วยสรรพชีวิต(ปล่อยสัตว์) นี่คือสัจธรรมของวัฏจักร เมื่อเขาใกล้ตาย เจ้าช่วยเขา เมื่อเจ้าใกล้ตายฟ้าช่วยเจ้า เจ้าอยากอายุยืนหรือมีลูกหลานสืบสกุล วิธีที่ดีที่สุดคืองดเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตและช่วยเหลือสรรพชีวิต (ปล่อยสัตว์หรือช่วยเหลือชีวิตสัตว์)”


เทพสวี่เจินเหยินตรัสว่า

“สายฟ้าโครมครามดังกึกก้อง แบ่งแยกดีชั่วมิบกพร่อง

นรชาติทำดีช่วยผู้อื่น ไร้ทุกข์ไร้โศกฟ้าปกป้อง”


เทพเจ้าหุยโถวตรัสว่า

“กลับตัวเถิด กลับใจเลิศ กิเลสอามิสกวาดหมดจด

โลกียวัตร แสนยุ่งเหยิง ใจข้าสงบกิเลสหมด

โลภทั้งวัน เมื่อไรจบ เพียงห่วงสินทรัพย์ในบ้านลด

แท้จริงเพียงแค่หุ่นชักใย สายป่านหลุดขาดตัวก็มอด

สุวัณเยือน มิแบ่งแยก ไม่สนเงินทองมณีรัตน์

มิแบ่งขุนนางหรือจัณฑาล สุดท้ายมอดม้วย มรณานต์

แลเห็นอาทิตย์อัสดง ไก่ขันพลันตื่นอรุณมา

รีบกลับตัว อย่าชักช้า ทารกเติบใหญ่ก็ชรา

ปัญญาเงินทองแม้มากโข หนี้กรรมติดตัวเองนำพา

แนะชาวโลก รีบกลับตัว ถือศีลกินเจพระสูตรสวด

ชื่อเสียงลาภยศล้วนเป็นศูนย์ มีแต่พระธรรมพึงพึ่งพา”


เทพเจ้าหุยโถวตรัสอีกว่า

“เพลิงไฟโลกันตร์หล่อหลอมโลก บาปบุญดีชั่ว ท่านกำหนด

บำเพ็ญพรตเต๋าบรรลุธรรม กรรมบุญสนองมิรู้จบ”

More Posts