mindcyber 1 year ago

ฌานสมาธิ

หลื่อโจ้ว

       ท่ามกลางชีวิตปัจจุบันที่วุ่นวาย ทุกคนควรมี “ฌานสมาธิ” ไว้บ้างจึงจะสามารถยกระดับชีวิตให้สูงขึ้น การยกคุณสมบัติของชีวิตให้สูงขึ้น ก็คือการสำแดงประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น รักษาชีวิตให้มีความสมดุลและกายใจให้มีพลานามัย เพราะว่า “ฌาน” คือศิลปะของชีวิต ยิ่งเป็นการปรุงวิญญาณของชีวิตให้กลับกลายสวยงามอย่างแท้จริง สามารถทำให้ใจมีอิสระอย่างสมบูรณ์ ไม่มีที่ ๆ ต้องตบแต่งและไม่มีที่ค้างอยู่ เข้าถึงสภาวะสูงสุดของยาน            

            ถ้าได้บำเพ็ญฌานสมาธิแล้ว เบื้องแรกสุดก็สามารถทำให้ชีวิตสุขสบาย ไม่เกิดอารมณ์โกรธง่าย ไม่ถูกความอยากภายนอกหลอกลวงจนทำให้วิถีชีวิตวุ่นวาย ก่อให้เกิดภัยเคราะห์ขึ้นได้ ขณะเดียวกันการอบรมคุณธรรมของตนก็จะค่อย ๆ เจริญพัฒนาขึ้น ก็จะถูกชาวโลกกำหนดให้สร้างสรรค์ตนจนกลายเป็นบุญกุศลอันประมาณมิได้            

            ไม่มีสายธรรมไหนที่จะไม่บำเพ็ญ “ฌานสมาธิ” เน้นเป้าหมายแรกในการฝึก โดยเฉพาะทางเซ็นจะให้ความสำคัญโดยกำหนดเป็นงานที่ต้องทำ มีเพียงสมาธิเท่านั้นที่ทำให้จิตวิญญาณเดิมของตนได้รับอิสระอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นพระโพธิธรรม (ตั๊กม้อ) ได้กำหนดไว้เป็นแนวทาง 4 ข้อให้ศิษย์ฝึกฝน ทำความสะอาดจิตตน ฟื้นฟูจิตวิญญาณ ผ่านเวลาการฝึกปรือและชำระล้างจนกว่าจะพ้นอวิชชา ให้ปัญญาเจริญออกมา จะได้ดำเนินชีวิตที่หรรษา สดใหม่ ตอนนี้ก็ขอนำแนวทาง 4 ข้อมาให้ศิษย์พิจารณาศึกษาดู            

            1. ยอมรับชะตากรรม               ชีวิตคนไม่สมหวังมีมากถึง 8-9 อย่างใน 10 อย่าง บนเส้นทางชีวิตแต่ละคนหลีกไม่พ้นจากอุปสรรค์สิ่งกีดขวาง จึงจำเป็นต้องยอมรับความจริงเหล่านี้ ซึ่งก็เป็นคุณค่าของชะตาชีวิตที่เหลืออยู่ ถือสัจธรรมของชีวิต ถึงแม้ความไม่สมหวังจะมีอยู่แต่ก็ต้องรับมันเอาไว้ ไปเผชิญหน้ามัน จึงจะสามารถสยบมันได้ จากนั้นก็ลอยพ้นมัน หลุดพ้นมัน            

            มนุษย์ถึงแม้จะไม่อาจดีพร้อมได้ หรือเป็นด้วยศักยภาพของตนหรือเป็นด้วยชีวิตแวดล้อม หรือเป็นด้วยการงานที่ฝืดเคือง แต่ละคนก็จะพบกับอุปสรรค์และกรรมกีดขวางที่ไม่เหมือนกัน แต่การจัดการสุดท้ายควรจะเป็นอย่างเดียวกันคือไปยอมรับมัน ไม่อาจที่จะหลบเลี่ยงได้ จะต้องไปเผชิญหน้าโดยไม่ต้องกล่าวโทษ อารมณ์ที่เศร้าสร้อยให้มลายหายไป ภายหลังจึงสามารถเอาใจที่สงบไปเพิ่มพลังใจให้เหนียวแน่น ไปหาวิธีแก้ไขมัน            

            อารมณ์ที่โกรธแค้นจะรบกวนรากฐานของสภาพใจ เมื่อสภาพใจว้าวุ่นก็ยิ่งกระพือให้อารมณ์รุนแรงยิ่งมากขึ้น ทำลายความใสกระจ่างของใจที่ไม่อาจชดเชยได้ ให้กล้าหาญไปแบกรับ กลับกันอาจทำให้ตนเองถูกกระตุ้นขึ้นมา ชาวเซ็นกล่าวว่า “หากสามารถมองทะลุสิ่งทั้งหลายสภาวะมีกับไม่มี คือวัชระปัญญา” แล้วสามารถทำลายสภาวะผูกมัดทั้งหลายได้ จึงจะสามารถทำลายความกังวลทั้งหลายได้ ทำให้ตนเองมีชีวิตที่งามสมบูรณ์            

            2. ปฏิบัติตามเหตุปัจจัย               แต่ละคนดำเนินชีวิตตามเหตุปัจจัย ใจก็พัฒนาไปตามเหตุปัจจัยด้วย ตลอดจนความสำเร็จของชีวิตก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยของตนเอง มนุษย์ก็ควรขยันดำเนินชีวิตแบบพุทธะ ยึดถือจิตเดิมของตนเองสำแดงปัญญาประสบการณ์ที่ตนมีอยู่แล้วให้เผยปรากฏออกมาตามความเป็นจริง ไม่เปรียบเทียบ ไม่ริษยา ไม่ให้อารมณ์สับสน ไม่แสวงหาชื่อเสียงผลประโยชน์ ไม่แสวงความรุ่งโรจน์ เผยศักยภาพที่ซ่อนเร้นให้ปรากฏอย่างมั่นคง ทำให้ตนเองได้รับการกำหนดด้วยตนเอง นี่ก็คือการปฏิบัติตามเหตุปัจจัย ภายหลังก็จะปีติยินดีต่อความสำเร็จของชีวิต            

            3. ยกย่องธรรมเดินโพธิสัตว์มรรค              มนุษย์ควรปฏิบัติตามธรรมเพื่อดำเนินชีวิตตนเอง ให้ชีวิตตนเองปรากฏขึ้น แล้วอาศัยพลังศักยภาพที่ตระเตรียม ไปกำหนดแน่นอน ไปดำเนินตามเป้าหมายคือโพธิสัตว์มรรค ขณะที่เรายังเป็น ๆ อยู่ให้ฝึกหัดฌานสมาธิโดยอิงวิธีที่ถูกต้อง เมื่อผ่านขั้นตอนการฝึกฌานสมาธิแล้วต้องรู้สึกใจนั้นเป็นสุข และได้หลักธรรม ที่เป็นการแสดงออกถึงพฤติกรรมระดับสูงของการกำหนดจิตกับความเชื่อถือ “ภายนอกพ้นจากรูปเป็นฌาน ภายในไม่สับสนเป็นสมาธิ” หากพบว่าสภาวะจิตไม่สับสนแล้วเป็นสมาธิแท้ จะไม่เกิดความเห็นอะไรหรือเห็นเพี้ยนมาเป็นอุปาทานไม่ถูกความอยากในวัตถุข่มเหงปิดบัง ไม่ถูกรูปคุกคามครอบงำ เช่นนี้จึงจะนับว่าได้ก้าวหน้ารู้ตื่น ต่อไปก็จะสมบูรณ์ในโพธิสัตว์มรรค            

            4. ไม่แสวงหาอะไรเดินพุทธมรรค              ชีวิตต้องสามารถรู้จักพอไม่แสวงหาอะไรจึงจะใส จึงจะสะอาดเริ่มต้นต้องสามารถอิสระไปแสดงให้เห็นถึงความปีติยินดีต่อความสมบูรณ์กับความสว่างไสวแท้จริงของชีวิต            

            ไม่แสวงหาอะไรคือ “ความว่าง” ก็คือความสามารถปล่อยวางความมายาสูญเปล่า เผยปรากฏจิตพุทธะดังเดิมของตนออกมา จนเข้าถึงสภาวะที่มีอยู่อย่างอัศจรรย์ของความว่างแท้ สำเร็จด้วยตนเอง “ความว่างคือมีอยู่ ความมีอยู่คือความว่าง” ท่ามกลางความว่างไปพิจารณาองคาพยพตามความเป็นจริง อาศัยความว่างไม่ยกตัวเองให้สูงขึ้นโดยไม่หยุดติดต่อกันไปจนกว่าจะเข้าสู่มหามรรคแห่งพุทธะ            

            ทั้ง 4 มรรค ดังกล่าวสามารถเข้าถึงทางกลมสมบูรณ์ของชีวิตเป็นทางโคจรจิตแท้ของคนให้สูงขึ้น เพื่อให้ชีวิตอันจำกัดได้สำแดงความสว่างถึงจุดสุด เป็นหนทางที่สว่างสวยงามจริงของชีวิตมนุษย์ มีคุณค่าที่ชาวโลกจะหวงแหนพิจารณาตรึกตรองดู


0
444

เสียเงินสะเดาะเคราะห์ ไม่สู้ทำความดี

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ศรัทธาบริจาคได้บุญมาก

พระมัญชุศรีโพธิสัตว์

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

จากเศรษฐีกลายเป็นยาจก

ที่เมืองไถหนาน นาย ก. สืบทอดกิจการโรงงานเครื่องเหล็กจากบิดา ชั่วเวลาไม่ถึง 8 ปี กิจการประส...

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ปัญญาธิคุณ

พระมหากัสสปะ

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ใจแม่ถวิลหา

พระองค์ธรรมมารดาแห่งสระทิพย์

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago