mindcyber 1 year ago

สัมมาทิฐิ

หลี่เฉินจิน

   พรุ่งนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราไม่รู้ในวันนี้ ปีหน้า ยิ่งเป็นเวลาอันยาวนานที่พวกเราในปีนี้จะรู้ถึงได้ ดีร้ายโชคเคราะห์ก็ไม่มีใครที่จะคาดเดาได้ สิ่งที่ยังมาไม่ถึงจึงคาดคะเนไม่ได้ เรื่องราวที่ผ่านพ้นไปเป็นพันปีหมื่นปียิ่งเป็นสิ่งที่ไม่รู้ได้ ผู้ที่คำนวณดวงชะตาก็ยากที่จะพยากรณ์ได้แน่นอน

    ผู้ที่บำเพ็ญธรรมควรเข้าใจเห็นถูกต้อง ควรเห็นทะลุรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ และสัญญาขันธ์ คือเห็นชัดเจนสามขันธ์ในห้าขันธ์ บุญบารมีของเขาก็สมบูรณ์พอที่จะมองเห็น เหล่าเวไนยสัตว์ที่มีอยู่ในแปดหมื่นกัปว่าเกิดจากที่ไหน และตายไปที่ไหน ตอนเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นเทพยดาหรือเป็นสัตว์ ล้วนสามารถรู้ได้ชัดเจน ตลอดจนถึงอนาคตอีกแปดกัปว่าเวไนยสัตว์จะหมุนเวียนเป็นรูปลักษณ์อะไรบ้าง ก็สามารถที่จะพยากรณ์ควบคุมได้

    เวไนยสัตว์จำนวนมหาศาลยากที่จะนับได้หมด ระหวางแปดหมื่นกัปนี้ ช่างยาวนานแค่ไหน เพียงเค่ส่องดูก็รู้เรื่องราวอย่างละเอียด พระเจ้าอะไรช่างทรงอิทธิฤทธิ์เช่นนั้น ช่างอัศจรรย์อะไรเช่นนั้น ขนาดของเหตุผลต้นกรรมที่หมุนเวียนในอดีตกับอนาคตนับพัน ๆ หมื่น ๆ ชาติ ก็ยากที่จะรอดพ้นจากทิพย์จักษุของพระเจ้าได้เลย

    ประสบการณ์ที่เพียบพร้อมเช่นนี้ ผู้บำเพ็ญที่มีบารมีธรรมสูงส่งกับนักวิทยาศาสตร์ผู้มีความรู้สูงสุดมาเปรียบเทียบความรู้กันแล้ว ความรู้เห็นของนักวิทยาศาสตร์ก็ได้เพียงหางอึ่งของผู้บำเพ็ญเท่านั้น เอาเพียงแค่การคำนวณอย่างเดียวก็เทียบไม่ได้แล้ว ประสบการณ์ที่เหนือพ้นคนเช่นนี้ ความเห็นของท่านต้องนับว่าเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว ถูกต้อง ไม่มีที่ผิดเพี้ยนถึงจะถูก แต่ทว่า พุทธองค์ก็ยังเห็นว่าท่านยังมีที่รู้ผิดเพี้ยนไป ยังห่างจากการตรัสรู้ ยังมีอีกระยะหนึ่ง

    การเพ่งพิจารณาด้วยตนเอง จึงไม่มีความคลางแคลงใจ ทบทวนกลับไปกลับมา ความไม่ถูกต้องมีอยู่ตรงไหนบ้าง ก็ประจักษ์ด้วยตนเองว่ามีข้อเคลือบแคลงเช่นนี้ จึงจัดเป็นพวกสาวก ยังมีการบำเพ็ญที่สับสนไม่ถูกต้องอยู่ จึงไม่อาจตรัสรู้ได้ ปัญหาก็เพราะขันธ์ที่สี่ยังไม่หมด คือ สังขารขันธ์ จึงรู้เพียงก่อนหลังแปดหมื่นกัปเท่านั้น เลยจากแปดหมื่อนกัปออกไปจะไม่รู้ จึงถือเอาสิ่งที่เห็นภายในแปดหมื่นกัปว่าถูกต้องมาเป็นบรรทัดฐาน เลยเข้าใจว่าเป็นกฏเกณฑ์แน่นอน เพราะสำคัญผิดคิดว่าเห็นมามากขนาดนั้นแล้ว การพยากรณ์ต้องไม่ผิดพลาดแน่นอน

    พุทธองค์มีตรัสไว้ในพระสูตรมหายานอย่างแข็งขันว่า “เวไนยสัตว์คือพุทธะ”  “กิเลสคือโพธิ”  แต่ผู้บำเพ็ญที่หมดจดเพียงสามขันธ์ เพ่งพิจารณาอดีตและอนาคตได้ภายในแปดหมื่นกัป ก็เห็นเวไนยสัตว์เวียนเกิดเวียนตายนับเป็นหมื่น ๆ ชาติ จะมองย้อนหลังไปถึงที่มาก็เป็นเวไนยสัตว์ จะมองคืบหน้าไปในอนาคตก็ยังเป็นเวไนยสัตว์อีก จึงเห็นผิดเป็นอย่างนี้ ยอมรับรู้ “ในแปดหมื่นกัป ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ้นปัจจุบันก็ยังเป็นรูปนี้ ไปเริ่มใหม่ก็เป็นเช่นนี้ โดยที่ตนเองไม่เคยพบโพธิสัตว์ แล้วจะกล่าวถึงการสำเร็จเป็นโพธิสัตว์ได้อย่างไร” จึงรับรู้เอาว่าสรรพสัตว์จะแปรเปลี่ยนไปอย่างไรก็ยังเป็นสรรพสัตว์อยู่นั่นเอง จะเปลี่ยนอีกกี่ล้าน ๆ ครั้งก็ยังคงเป็นสรรพสัตว์ พุทธศาสตร์ไม่สามารถสำเร็จเป็นพุทธะได้ อันนี้ตนเองเพ่งพิจารณาเองไม่ต้องสงสัย

    พอถึงคราว “จิตเข้มข้นตกผลึกเห็นแจ้ง” สิ้นสังขารขันธ์แล้ว กาลเวลาและอวกาศจะเพิ่มขึ้นไร้ขอบเขต ถึงตอนนั้นความเห็นก็เปลี่ยนไปแล้ว ก็จะเพ่งพิจารณาเห็นอดีตเป็นจิตวิญญาณอันสะอาด ถูกความคิดฟุ้งซ่านครอบงำ จนต้องตกสู่วงเวียนเกิดหกช่องทาง ทั้งยังเพ่งเห็นถึงสรรพสัตว์ที่บรรลุธรรมในอนาคต ความฟุ้งซ่านละลายหมดไป ฟื้นคืนจิตวิญญาณอันสะอาด สำเร็จพุทธธรรมพร้อมกัน จนบรรลุถึงการตรัสรู้ จึงจะสมบูรณ์ในสัมมาทิฐิ

    ด้วยเหตุนี้ พวกเราที่เรียนพุทธธรรม จ้องเรียนรู้สัมมาทิฐิ มิฉะนั้น ก็จะถูกมารผจญได้ง่าย ตกอยู่ในทางมารหรือนอกรีต ผู้บำเพ็ญธรรมจนได้อภิญญาก็ยังสำคัญผิดเห็นผิดไปได้ นับประสาอะไรกับท่านและฉันที่ยังเป็นเวไนยสัตว์จะไม่ระวัดระวังคำพูดการกระทำด้วยความรู้อันคับแคบหรอกหรือ


0
599

โง่ - ฉลาด

1654918052.jpg
mindcyber
9 months ago

เคล็ดการอบรม

โอวหยางซุ่น

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

เส้นทางอริยะ ตอนที่6

1654918052.jpg
mindcyber
3 months ago

สิบบำเพ็ญ

พระอาจารย์เมฆขาว

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

หันหน้าสู้กิเลส

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago