พระวิสุทธิเทพโง้วมั่งอู้
มนุษย์หากสามารถรู้สึกสำนึกด้วยตนเองเป็นประจักษ์แจ้งยิ่งใหญ่ใจประจักษ์แล้วปฏิบัติตรง ทำกุศลฉุดช่วยโลกตามความตรง เช่นนี้ คือ การ “ไม่ข่มเหง” รู้จักความดีแต่ไม่ปฏิบัติจะทำต่อเมื่อเห็นแก่ผลปรโยชน์เรียกว่า “กุศลลวง” เป็นความชั่วเอย
เหมือนผู้มีใจหลอกล่อคนโง่ก็ได้เพียงครั้งเดียว เช่นนี้จะสามารถเสพบุญมีโชคลาภตลอดชีวิตหรือ กล้าที่จะพูดเด็ดขาดเลยว่า เมื่อดวงชะตาหมดสายฟ้าคงผ่าตัวแน่ ลูกหลานกลายเป็นวัวควาย ผู้ที่ซื่อตรงนานไปก็สุขสบาย ส่วนใหญ่จะปีติยินดี ที่เศร้าก็เพราะไม่มีกำลังพอที่จะให้ความช่วยเหลือได้ดังใจหวัง แต่ฟ้าเบื้องบนก็มีบันทึกไว้ก่อนแล้วค่อยตอบแทนภายหลัง เป็นจุดงดงามอันมีค่าท่ามกลางหลักฐานแห่งกุศลนี่คือความแตกต่างของกุศลและบาป
ขยันในวัยหนุ่มสาว สะสมในวัยชรา
ขวบปีที่ผ่านรวดเร็ว อารมณ์คนไม่เหมือนกัน ฤดูใบไม้ร่วงในหนึ่งปี ไม่ช้าไม่นานก็จะอ้างว้างในบัดดล น่าเสียดายชีวิตคนผ่านไปไม่กี่ขวบปีก็ชราแล้ว โดยไม่รู้ตัวสำนึกได้ก็สายเสียแล้ว ควรกลับตัวพิจารณาตนด้วยพลังปัญญา อย่าไให้ขาดที่พึ่งยามชรา มักโกรธแค้นที่สุรุ่ยสุร่ายยามหนุ่มสาว เมื่อผมหงอกขาวโพนจะโทษใคร ขอให้ชาวโลกจงขยันหมั่นเพียรในยามหนุ่มสาว เมื่อชราภาพก็เลี้ยงตนด้วยทุนสะสม ถึงแม้จะไม่ได้เสพสุขยามร่ำรวย ก็ไม่ต้องทุกข์ร้อน อบรมบำเพ็ญความสุขในบั้นปลาย หวังให้ชาวโลกพิจารณาคำกล่าวนี้ไว้