mindcyber 3 weeks ago
admin #hell

ครั้งที่ 20 ตอนท่องตำหนักวิญญาณสัตว์สี่ชนิดคืนชีพ ครั้งที่ 2

 วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2520

ตอน ท่องตำหนักวิญญาณสัตว์สี่ชนิดคืนชีพ ครั้งที่ 2

ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จลงตรัสเป็นกลอนมีความว่า :

กฎแห่งกรรม ปรากฏชัด ใครใคร่เถียง

มิอาจเลี่ยง กรรมต่างกัน ร่างต่างไป

หกช่องเกิด ย่อมมีแน่ ทางสายใหม่

จงอย่าไพล่ เหมือนแมงมุม ใต้ชายคา

 

อรหันต์จี้กง :ใครหนอว่าหลักธรรมแห่งสากลโลก (หรือที่ทุกวันนี้คนทั้งหลายนิยมเรียกว่า "กฎแห่งกรรม") ไม่มีการตอบสนองนะก็ดูพวกสัตว์สี่ชนิดนั้นเถิด วัว ม้า ไก่สัตว์ปีก ปลา แมลง ยุง ตัวหนอนนั้น ชาติก่อนต่างก็สร้างเหตุต่างๆ ซึ่งไม่เหมือนกันดังนั้นชาตินี้จึงมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันไป คนเป็นสิ่งที่มีค่าสูงยิ่งในบรรดาสรรพสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายในแดนมนุษย์ที่เรียกว่า "บ่วง" (สัตว์ประเสริฐ หรือสิ่งประเสริฐแห่งนานาพันธุ์) ต้องถนอมรักที่เกิดมาเป็นมนุษย์ จงรีบแสวงหาธรรมบำเพ็ญศีลและก็ปลอบเตือนสัตว์สี่ชนิดที่เรียกอยู่ในมวลสรรพชีวิตทั้งหลายต่างเจียมตัวเจียมกาย เพื่อลบล้างบาปเวรเปิดทางเดินที่สว่างไสวจากช่องทางของสัตว์ขึ้น มุ่งหวังที่จะกลับคืนสู่ร่างมนุษย์โดยเร็ว อย่าให้เหมือนแมงมุมที่ใต้ชายคาบ้านทอใยสร้างข่ายพรางตา ขลุกตัวเองอยู่ในนั้นตลอดชาติไม่สามารถหลุดพ้นออกจากร่างแหเจ้าหยางเซิงเตรียมตัวท่องนรกได้แล้ว

หยางเซิง :ขอรับคำบัญชา กระผมนั่งลงเรียบร้อยแล้วครับ……

อรหันต์จี้กง :ถึงแล้วหละ เบื้องหน้านี้คือ "ตำหนักวิญญาณสัตว์สี่ชนิดคืนชีพ" พระพันปีและข้าราชบริพารได้ออกมาต้อนรับเราแล้ว

หยางเซิง :ขอแสดงความคารวะต่อพระพันปีกับเทวทูตทั้งหลายวันนี้เราศิษย์อาจารย์ได้มารบกวนท่านอีกครั้ง ขอได้โปรดให้การแนะนำอย่างมากด้วยครับ

พระพันปี :มิต้อง วันก่อนคุยกันไม่มาก วันนี้ขอต้อนรับท่านอาจารย์และท่านหยางเซิงที่อุตส่าห์มาเยี่ยมอีก เชิญพักข้างในสักครู่คงจะเหนื่อยอ่อนในการเดินทางนะครับ ?

หยางเซิง :ไม่รู้สึกยากลำบากแต่อย่างไร เพราะว่านั่งบนดอกบัวเพียงแต่ได้ยินเสียงลมเท่านั้น

อรหันต์จี้กง :เราตามพระพันปีเข้าไปพักในตำหนักเถิด

หยางเซิง :ขอขอบคุณที่พระพันปีให้เกียรติต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง

พระพันปี :มิต้องเกรงใจ เชิญดื่มน้ำชา

หยางเซิง :สำนักของกระผมรับเทวโองการแต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" ให้กระผมรับหน้าที่เที่ยวชมยมโลก รู้สึกเป็นเกียรติเป็นหนักหนา แต่วิชาความรู้ทางธรรมของกระผมผิวเผินตื้นเขินมาก เหตุการณ์หลายสิ่งหลายอย่างของยมโลกกระผมมิอาจเข้าใจกระจ่างแจ้ง ขอให้พระพันปีโปรดอธิบายรายละเอียดสภาพการณ์ใน "ตำหนักวิญญาณสัตว์สี่ชนิดคืนชีพ" ให้ทราบอีกครั้งเพื่อที่จะให้ชาวมนุษย์เข้าใจแจ่มแจ้งปฏิบัติตามจะได้ไม่หลงไปในทางผิดอีก

พระพันปี :ข้าพเจ้าจะพาท่านเข้าไปตรวจชมรายละเอียดถึงที่สถานที่ปัจจุบัน และจะอธิบายเสริมให้ด้วยดังนี้จะค่อยเข้าใจง่ายขึ้น

หยางเซิง :ขอขอบพระคุณพระพันปีมาก

พระพันปี :ท่านตามข้าพเจ้าไปยังห้องโถงกลางของตำหนัก

หยางเซิง :ขอรับกระผม โอ ! กวางตัวนี้ไฉนจึงสั่นหัวมายังท่านที่หน้าโต๊ะ คล้ายกับจะพูดอะไรกับท่านด้วยอย่างนั้น ?

พระพันปี :ใช่แล้ว กวางตัวนี้ชาติก่อนเป็นลูกศิษย์ของพระสงฆ์เกิดป่วยไข้อย่างหนัก ในใจจึงโกรธแค้นพระพุทธองค์ว่าไม่ช่วยคุ้มครองรักษาให้ ก็เลยแหกศีลกินของคาว (พระจีนถือนิกายมหายานห้ามฉันของมีชีวิต) สึกออกไปมีลูกมีเมีย และพูดให้ร้ายบริภาษพระพุทธเทพยดาเป็นประจำ เมื่อตายแล้วไปเกิดเป็นกวาง เกิดรอบนี้เวียนว่ายมาเป็นครั้งที่สามแล้ว กวางนั้นเกิดในภูผาเปลี่ยวลึก กินหญ้าสีเขียว ดื่มน้ำในลำธาร ตรากตรำรับทุกข์จากลมฟ้ามาตลอดชีวิต ก็เพื่อสนองรับเหตุที่ก่อไว้ในปางก่อน อยู่ในป่าเขาเปลี่ยวลึก กินแต่หญ้าดื่มแต่น้ำค้างเสมือนหนึ่งผู้บำเพ็ญธรรมคนหนึ่ง นี่แหละที่ว่าการตอบสนองเหตุแห่งกรรม เวลานี้กวางตัวนี้ได้รับกรรมตอบสนองมาหมดแล้วถูกธาตุมืดดูดมายังยมโลก สั่นหัวเหมือนดังแสดงความคารวะนั่นคือขอให้ข้าพเจ้าช่วยกอบกู้แก้ไขเพื่อให้กลับร่างเป็นมนุษย์

หยางเซิง :น่าสะพรึงกลัวเสียจริงๆ ความคิดผิดๆ ชั่ววูบเดียวได้รับการตอบสนองร้ายถึงเพียงนี้ ยมกฎรอดยากนัก แต่ว่ากระผมก็ยังไม่สู้จะเข้าใจถ่องแท้นักว่า ไฉนสัตว์สี่เท้าตายลงแล้ว ธาตุมืดจะดูดดึงมันเข้ามาในยมโลกโดยอัตโนมัติได้อย่างไร นั้นเป็นเหตุผลจากอะไร ?

พระพันปี :ข้าพเจ้าจะอธิบายให้ฟัง ความเป็นอยู่ทั่วพิภพนั้นล้วนอาศัยอากาศธาตุศักดิ์สิทธิ์เป็นพลังโคจรหมุนเวียน ดังนั้นศาสนาเต๋าจึงมีสิ่งที่เรียกว่า อากาศธาตุศักดิ์สิทธิ์ (หรือธาตุอันดับ 1) นี้แปลงออกเป็น 3 ภาค (หรือ 3 ภพ) ซึ่งความจริงแล้วธาตุอันดับ 1 นี้แปลงได้ไม่ ใช้แค่สามภาค (ภพ) เท่านั้น แต่สามารถแปลงได้เป็นหมื่นภาค เช่นนี้แล้วฟ้าก็มีธาตุฟ้า ธรณีก็มรธาตุธรณี มนุษย์ก็มีธาตุมนุษย์ ฟ้าธรณีมนุษย์มีการหายใจเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากธาตุฟ้าขาดลง ฟ้าก็ถล่มลง ธาตุธรณีขาดลง ธรณีก็จะทลายลง ธาตุมนุษย์ขาดลงมนุษย์ก็จะวายปราณ อากาศธาตุแท้อันนี้ก็คือธาตุจิต ก่อนหน้านี้ไม่นาน นักวิทยาศาสตร์เมืองมนุษย์ได้พิสูจน์แล้วปรากฏว่ามี "แรงดึงดูดของโลก" แต่ยังไม่ทราบว่ามี "แรงดึงดูดของฟ้า" "แรงดึงดูดของมนุษย์" สิ่งใดที่ลอยขึ้นฟ้านั้นก็คือเป็นผลแห่งแรงดึงดูดของฟ้า สิ่งทึบที่ถ่วงลงนั้นก็คือดินเป็นผลแห่งแรงดึงดูดของธรณี เกิดความอยากความใคร่เป็นผลแห่งแรงดึงดูดของมนุษย์ เมื่อมีแรงดึงดูดสามประเภทนี้แล้ว จึงร่วมกันสร้างให้มีสัตว์โลกทุกชนิด เพราะเหตุว่าในจำพวกสัตว์สี่ชนิด ทางเกิดของสัตว์ล้วนแล้วแต่มีกรรมเวรหนักหนาในชาติก่อนทั้งนั้นเมื่อตายลงก็ถูกความแรงแห่งธรณีดูดดึงเอา จึงต้องตกลงยมโลกรับการพิจารณาโดยอัตโนมัติ หากว่าผู้ที่ได้บำเพ็ญธรรม ดวงวิญญาณเบาและแจ่มใสเปล่งปลั่งก็ลอยขึ้นบนฟ้าโดยอัตโนมัติถึงยมทูตจะคุมตัวมาแดนนรกก็ไม่สามารถทำได้ ประหนึ่งว่าลูกโปร่งขนาดใหญ่ซึ่งมีแก๊สอัดเต็มอยู่ภายใน ลอยอยู่บนอากาศคนจะดึงมันไว้ แต่กลับถูกมันดึงลอยไป ดังนั้นชาวมนุษย์จะเป็นพระอรหันต์เทวดา เป็นภูตผี ล้วนต้องอาศัยธรรมที่ตนบำเพ็ญในมนุษยโลก ส่วนที่จะช่วยกู้วิญญาณบิดามารดานั้นต้องอาศัยบุญกุศล มิเช่นนั้นแล้วจะจ่ายเงินเป็นพันๆ ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ผู้ที่จะช่วยเหลือกอบกู้บรรพบุรุษนั้น เจ้าตัวต้องประพฤติดี บำเพ็ญธรรมในตัวเอง แล้วยังจะต้องมีการสร้างพิมพ์แจกหนังสือธรรมด้วย เป็นงานกุศลใหญ่ยิ่งอันดับหนึ่ง ดังนั้นพระอรหันต์เทวดาจุติสู่โลก จุดประสงค์ที่จะช่วยกู้มวลมนุษย์เป็นจุดใหญ่อันดับแรก และคัมภีร์หนังสือธรรมก็คือเสียงสวรรค์อรหันต์จากเทวดา เป็นหลักแก่นสำคัญในการประพฤติบำเพ็ญทางจิตใจ ฉะนั้นการเผยแพร่ตำราคัมภีร์พิมพ์หนังสือธรรมนั้น จึงเหมาะสมตรงต่อความมุ่งหมายของพระอรหันต์เทวดา มีความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่โดยอาศัยความดี กุศลกรรมนี้ส่งย้อนไปยังวิญญาณของบรรพบุรุษ เป็นทางเดินที่สะดวกในการพ้นทุกข์ ถ้าหากจะสวดมนต์กอบกู้ชักนำต้องมีตำราหนังสือธรรมเป็นที่พึ่งเสียก่อน จุดนี้แหละชาวโลกควรจะรู้ไว้ นอกนั้นเช่นช่วยเหลือจุนเจือคนยากคนจน ส่วนสาธารณกุศลก็เป็นสิ่งที่สมควรกระทำอีกอย่างหนึ่ง

หยางเซิง :พระพันปีมีเหตุผลอย่างยิ่ง อรหันต์เทวดาประกาศธรรมล้วนได้จดบันทึกลงในหนังสือ พิมพ์แจกหนังสือธรรมจึงสมดังความประสงค์แห่งสวรรค์ เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ไพศาลวิญญาณของบรรพบุรุษนั้น โดยแรงธรรมชาติดึงดูดจากฟ้าจึงขึ้นสู่สวรรค์ได้

อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเซิงพูดเข้าหลักธรรมเป็นอย่างยิ่ง "ตำราสวรรค์" ก็คือ "ความอารีแห่งธรณี" เมื่อมนุษย์สามารถใช้ความเมตตาอารีอารอบโดยหมดสิ้น ความประพฤติดีแห่งมนุษยชาติก็สมบูรณ์ ก็มีส่วนเป็นเทวดาแล้ว

พระพันปี :กวางตัวนี้เวียนมาเกิดสามชาติได้หมดเหตุปางก่อนลงแล้ว ข้าพเจ้าจะล้างโทษให้มัน ให้นายทหารนำกวางตัวนี้ไปยัง "ศาลาคืนชีพ" ให้ "น้ำคืนชีพ" มันดื่มเสีย

นายทหาร :ขอรับคำบัญชา ! เชิญท่านหยางเซิงตามข้าพเจ้าไปสังเกตดูรายละเอียด

หยางเซิง :ครับผม ขอบคุณท่านนายทหารมากด้านนี้มีศาลาอยู่ศาลาหนึ่งจริงอย่างว่า ด้านบนเขียนไว้ว่า "ศาลาคืนชีพ" ภายในศาลามีผู้เฒ่าอยู่คนหนึ่ง เอาน้ำที่อยู่ในแต่ละถ้วยให้พวกวิญญาณชีวิตดื่มกิน แต่ละคนปรากฏเป็นร่างของมนุษย์ขึ้นมามีทั้งหญิงชาย แก่หนุ่ม

นายทหาร :ท่านหยางเซิงจึงยืนดูอยู่ทางนี้ ข้าพเจ้าจะไปรับเอา "น้ำคืนชีพ" จอกหนึ่งให้กวางตัวนี้ดื่ม

หยางเซิง :ได้ครับ เชิญตามสบาย โอย ! คล้ายกับเล่นมายากลเสียจริง กวางป่าดื่มแล้วร่างกายเปลี่ยนแปลงขึ้นทันที กลับกลายเป็นคนแก่อายุประมาณ 50 เศษ ผมก็ไม่ยาว บนศีรษะมีรอยจุดแห่งการรับศีลอย่างว่าด้วย (การเป็นพระจีนนั้นต้องเข้าพิธีใช้ธูปจี้บนศีรษะ) นั่นเป็นรูปที่หลังจากสึกออกจากพระแล้วกระมัง

นายทหาร :ถูกต้อง ผู้นี้บวชแล้วสึก กินของคาวทำลายศีล ก็เลยต้องโดน 3 รอบ กลายเป็นสัตว์เดียรัจฉาน เพราะดื่มน้ำคืนชีพ เกิดการกลับกายแปรเปลี่ยน ถอดร่างลอกคราบทันทีคืนสู่ร่างเดิม

หยางเซิง :มิทราบว่าเวลานี้จะจัดการกับมนุษย์กวางผู้นี้อย่างไรบ้าง ?

นายทหาร :มนุษย์กวางผู้นี้อยู่มาจนได้คืนชีพในขณะนี้ เป็นหน้าที่รับผิดชอบของตำหนักนี้ เมื่อคืนชีพแล้วจะส่งขุมที่สิบให้พญายมบาล "จวงลุ้งอ๊วง" ตรวจเหตุปางก่อน ให้ไปเกิดเป็นมนุษย์อีก ตามที่ข้าพเจ้าทราบมา ผู้ที่ไปจากตำหนักเรานี้เมื่อหมุนเวียนไปเกิดแล้ว ล้วนเกิดในบ้านยากจนทั้งสิ้น หรือมีร่างกายพิการบางส่วน ต้องรับสนองทุกข์ยากอีก ถ้ารู้ตัวบำเพ็ญธรรมแล้วก็จะค่อยๆ เข้าสู่แดนสุขสบายขึ้น

อรหันต์จี้กง :เพราะเหตุเวลาจำกัด เราขอลาท่านนายทหารและจะไปลาพระพันปีในตำหนักด้วย

หยางเซิง :ขอบคุณที่ท่านนายทหารให้คำแนะนำ เพราะได้เวลาที่จะต้องกลับสู่แดนมนุษย์ อยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว พบกันใหม่ในวันอื่นนะครับ

อรหันต์จี้กง :ขอขอบคุณพระพันปีที่ให้การชี้แจง เนื่องจากเวลาดึกมากแล้ว เราเตรียมจะกลับสำนัก วันอื่นค่อยมาเยี่ยมคารวะใหม่

พระพันปี :มิต้อง ข้าพเจ้าก็ไม่ถ่วงเวลาของท่านละ ยินดีต้อนรับที่จะมาเยือนตำหนักใหม่

อรหันต์จี้กง :"วิญญาณสัตว์สี่ชนิดคืนชีพ" มวลมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ฉันวางแผนให้หยางเซิงตรวจเยี่ยมสังเกตการณ์ให้ละเอียดเพื่อที่จะเผยให้ชาวโลกเข้าใจ ฉะนั้นจึงขอมารบกวนอีกครั้งหนึ่ง

พระพันปี :ยินดีต้อนรับด้วย นายทหารตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์กับท่านหยางเซิง

หยางเซิง :ท่านให้เกียรติมากเกินแล้ว ขอขอบคุณท่านและเทวทูตทั้งหลาย เราลาละครับ

อรหันต์จี้กง :รีบขึ้นดอกบัวเร็ว เตรียมกลับสำนัก

หยางเซิง :กระผมนั่งเรียบร้อยแล้ว ท่านอาจารย์เชิญเริ่มได้…..

อรหันต์จี้กง :ถึงแล้ว

 

หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม

นกมาร่วมงานศพ

1654918052.jpg
mindcyber
7 months ago

ติดหนี้ไม่จ่าย ลูกเกิดมาทวงหนี้

เจ้าหลักเมือง ชิว

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ครั้งที่ 29 ตอน ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อย ครั้งที่ 3

1654918052.jpg
mindcyber
3 weeks ago
ใช้ปัญญาให้เป็นประโยชน์

ใช้ปัญญาให้เป็นประโยชน์

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ทำบุญอย่ายึดติด

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago