วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2520
ขุมที่ 4
ตอน พบปะท่านยมบาลโหงวกัวอ๊วง
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จลงตรัสเป็นกลอนความว่า :
ชีวิตคน เหมือนขี่ม้า ชมโคมไฟ
เวลาผ่านไป อย่างรีบเร่ง ไม่กลับย้อน
รูปนามใหม่ จิตวิสุทธิ์ ประภัสสร
ครบวงจร เริ่มดิถี ใคร่เหาะเหิน
อรหันต์จี้กง :ปีเก่าผ่านไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 เดือน 8 ปีมะโรงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งได้รับเทวโองการให้แต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" พริบตานั้นเวลาได้ผ่านไปแล้วครึ่งปี ชีวิตคนอุปมาเหมือนโคมไฟมีภาพต่างๆ หมุนวิ่งอยู่ตลอดเวลา วิ่งหมุนไปโดยไม่หยุดยั้ง เวลาบินหายไปทุกขณะ คนเราจะมีโอกาสได้พบวัน "หง่วนเซียว" (วันเพ็ญเดือนอ้าย) สักกี่ครั้ง ? รู้สึกอายุขัยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่เห็นอยู่ต่อหน้าล้วนเป็นพวกเด็กทั้งหลายมือถือโคมหยอกล้อวิ่งเล่นกัน ยกกระจกขึ้นส่องหน้าตัวเองเห็นหัวหงอกหน้าคล้ำ หากไม่บำเพ็ญตนโดยเร็วจะคอยเวลาใดเล่า ภายในอุ้งกลางแห่งหัวใจของฉันมียาทิพย์เม็ดหนึ่งสถิตอยู่แต่รอจนครบรอบปีใหม่ ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างในพิภพเปลี่ยนสภาพใหม่หมด ผลสุกขั้วหล่นจะได้สลัดเปลือกทิ้งบินขึ้นสู่สวรรค์แผนชีวิตเริ่มขึ้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิ เวลาอันมีค่าในชีวิตคนอยู่ที่วัยเยาว์ ถนอมรักเวลาหวงแหนชีวิต ตั้งใจแน่วแน่จะไม่หวั่นต่อยักษ์มาร แสงสว่างมองเห็นอยู่เบื้องหน้าแล้ว ก้าวตรงไปเถิดขออวยพรให้ดำเนินไปด้วยความสวัสดีมีชัย ปราศจากอุปสรรคใดๆทั้งสิน วันนี้เตรียมท่องนรก เจ้าหยางเซิงจงรวบรวมสติกำลังให้สมบูรณ์
หยางเซิง :ขอแสดงความยินดีในการร่ำรวย!
อรหันต์จี้กง :ยินดีด้วย ยินดีด้วย! แต่ว่าเราผู้เป็นอาจารย์ของเจ้านี้ไม่คิดถึงความร่ำรวยมีเงิน ฉันมีเงินทองเต็มบ้านอยู่แล้ว เพียงแต่คิดจะมีลูกแก้วลูกขวัญโดยเร็วเท่านั้น
หยางเซิง:ผู้อยู่ในบรรพชิตยังคิดจะมีบุตรโดยเร็ว จะไม่ทำให้เสื่อมเสียแก่วินัยสงฆ์หรือ?
อรหันต์จี้กง :เจ้านะเข้าใจผิดเสียแล้วละ ความคิดฉันนั้นคืออยากให้สวรรค์ท่านโปรดคลอดบุตรที่สูงศักดิ์มีปัญญาปราดเปรื่องมากๆ และคลอดพวกที่ฉลาดแกมโกงให้น้อยลง แล้วโลกนี้จะได้สงบสุข ข้าฯก็จะได้สุขสบายเลย ไม่ต้องมาท่องลุยในโลกอันเต็มไปด้วยฝุ่นกิเลส (คือโลกที่สกปรก) เพื่อกอบกู้ชักจูง(คำพระท่านว่าโปรดเวไนยสัตว์)มวลชนโดยที่ต้องทุ่มเทซึ่งกำลังน้ำใจทั้งหลาย
หยางเซิง:ท่านอาจารย์พูดได้วิเศษมาก แต่มนุษย์ในปัจจุบันนี้ที่ว่าอยากมีบุตรที่สูงศักดิ์โดยเร็วนั้น หมายถึงว่าต้องการบุตรที่คลอดออกมาแล้วต่อไปจะได้ร่ำรวยใหญ่โตรวยทางอุบาทว์ดังนั้นจึงขอแสดงความยินดีที่มีบุตรสูงศักดิ์โดยเร็ว ไม่เหมือนกับคำว่า “ยินดีที่ร่ำรวย” ชาวโลกชอบจะรับฟังมากกว่า
อรหันต์จี้กง :ที่หาเงินเก่งก็ใช่ว่าล้วนเป็นบุตรที่สูงศักดิ์เสียหมดก็หาไม่ ยังมีหญิงชั่วอีกมากนะ! ฮา! ฮา! พูดเพลินไปเลย “เวรปาก” ขอประทานโทษๆเราเตรียมท่องนรกแล้ว เจ้าจงรีบขึ้นดอกบัวเร็ว
หยางเซิง:ไฉนดอกบัวช่อนี้ในปีนี้จึงเพิ่มความใหญ่โตขึ้นเล่าครับ?
อรหันต์จี้กง :หน้าที่งานหนักและหนทางก็ไกลด้วย ช่อบัวจึงเบิกบานเปล่งขึ้น จงเคร่งธรรมปฏิบัติงาน ที่นั่งดอกบัวของเจ้ามีสัญลักษณ์บ่งบอกว่ามีความก้าวหน้าขึ้น
หยางเซิง :มิได้! รู้สึกตัวเองว่ายังมีเวรบาปอยู่มาก ไฉนจึงมีบัวอาสน์นั่งได้เล่า?
อรหันต์จี้กง:ดอกบัวเกิดจากโคลนตม “รักตนถนอมตัว”ก็จะไม่มีวันผิดได้ รีบขึ้นดอกบัวเร็ว วันนี้เราจะท่องนรกขุมที่ 4 กันละ
หยางเซิง :กระผมนั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์เริ่มเดินทางได้.....
อรหันต์จี้กง :วันนี้เกิดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาดลใจ จึงอ่านกลอนปลอบเตือนชาวโลกบทหนึ่งดังต่อไปนี้ ;
ถามชาวโลกว้าวุ่นอะไร ? วุ่นเรื่องปากท้องอยู่ร่ำไป !
ถามชาวโลกว่าอยากอะไร ? อยากได้ชื่อเสียงทรัพย์สินจึงต้องระทมไป !
ถามชาวโลกว่าหลงอะไร ? หลงเรื่องความรักร่างกายซูบผอมไป !
ถามชาวโลกว่าคิดอะไร ? ล้วนถูกความโลภปั่นหัวไป !
ถามชาวโลกว่าทำอะไร ? เรื่องชั่วร้ายผิดศีลไม่ควร (ทำ) ไป !
ถามชาวโลกว่าได้อะไร ? วุ่นวายจนตัวตายก็มิได้อะไรไป !
ถามชาวโลกว่าใคร่อะไร ? ลูกเมียโดนมั่วแค้นไป !
ถามชาวโลกว่าคอยอะไร ? จงกลับเนื้อกลับตัวมุ่งธรรมไป !
ถามชาวโลกว่าสร้างอะไร ? ออกจากตรมบ่เปื้อนท่องเที่ยวสบายไป !
ถามชาวโลกว่าเที่ยวอะไร ? เราโดยสารกันในกอปรเมตตาธรรมสุขกายสบายใจ !
ถึงแล้ว รีบลงจากดอกบัวเร็ว "นรกขุมที่ 4" ได้ปรากฏต่อหน้าเราแล้ว
หยางเซิง :อ้อ ! ขุมที่ 4 ปรากฏอยู่เบื้องหน้าจริง ๆ แฮะ
อรหันต์จี้กง :โหงวกัวอ๊วง และเทวทูตทั้งหลายได้ออกจากปราสาทแล้ว เราเข้าไปแสดงความเคารพเถิด
หยางเซิง :ขอแสดงความเคารพต่อท่าน โหงวกัวอ๊วง และเทวทูตทั้งหลาย กระผมผู้ซึ่งเป็นศิษย์สำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมืองไถ่ตง ได้รับเทวโองการแต่งหนังสือ วันนี้โดยการนำของท่านอาจารย์รู้สึกมีบุญวาสนาที่ได้มายังปราสาทของท่าน ขอได้โปรดให้การแนะนำชี้แจงด้วยเถิด
โหงวกัวอ๊วง :มิต้อง รีบลุกขึ้นเถิด ปีใหม่ก็เริ่มละเลงพู่กันมาบากบั่นพากเพียรถึงปานฉะนี้ มุ่งสู่ใต้บาดาลเพื่อการแต่งหนังสือศิษยานุศิษย์ทั้งหลายของสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งมีน้ำใจน่าสรรเสริญยิ่งนัก เชิญท่านอาจารย์และหยางเซิงตามข้าพเจ้าเข้าไปนั่งพักในปราสาทสักครู่ เพื่อสังสรรค์สนทนากันบ้าง
หยางเซิง :ขอขอบคุณท่านยมบาลที่ให้การต้อนรับอย่างดีเป็นที่ยิ่ง
โหงวกัวอ๊วง :เชิญนั่ง เชิญนั่ง นายทหารรีบเสิร์ฟน้ำอมฤตด่วน
หยางเซิง :ขอบคุณท่านยมบาลมาก
อรหันต์จี้กง :เป็นโชคลาภวาสนาของเจ้าหยางเซิงแล้ว ท่านโหงวกัวอ๊วงประทานน้ำอมฤตที่ท่านใช้ดื่มเป็นส่วนตัวนั้นให้เจ้านับเป็นสิ่งประเสริฐสุดแห่งหมู่เทพเทวดา เมื่อเจ้าดื่มแล้วสามารถจะเพิ่มพูนสติปัญญาขึ้นได้อีก
โหงวกัวอ๊วง :ท่านอาจารย์และหยางเซิงมิต้องเกรงใจรีบดื่มเสีย
หยางเซิง :รสชาติหอมหวาน ชื่นอกชื่นใจ ความรู้สึกที่เยือกเย็น และอบอุ่นรวมอยู่ในตัว ขอขอบคุณท่านยมบาลที่ประทานให้กระผมจะพยายามสุดความสามารถ เพื่อทำหน้าที่แต่งหนังสือให้สำเร็จลุล่วงไป
โหงวกัวอ๊วง :มิต้องเกรงใจ น้ำอมฤตนี้ "พระแม่แห่งสระศักดิ์สิทธิ์" ประทานให้ยมบาลทั้ง 10 ขุมได้รับกันทั้งหมด ดื่มแล้วสามารถเพิ่มพลังแห่งดวงกมลให้ช่วงโชติรุ่งโรจน์ขึ้น ถ้าเป็นตุลาการแดนนรกจะดื่มน้ำอมฤต ภูตผีปีศาจก็จะดื่มแต่น้ำชาเท่านั้นเนื่องจากตำแหน่งหน้าที่และผลบุญต่างกันนั่นเอง การเลี้ยงดูกำนัลจึงแตกต่างกันด้วยประการเช่นนี้
หยางเซิง :ขุมของท่านทำการชำระตัดสินลงโทษพวกวิญญาณโทษนั้นมีสภาพการณ์เช่นไรครับ ?
โหงวกัวอ๊วง :ข้าพเจ้าก็คุมสิบหกนรกน้อยเช่นกัน นอกนั้นยังมีคุกนรกที่สร้างเพิ่มขึ้นใหม่เพื่อป้องกันโทษที่ชาวมนุษย์กระทำขึ้นแบบพิสดารตามกาลเวลาสมัยใหม่ คุกนรกก็แยกชั้นรับหน้าที่กัน ต่างคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ บรรดาที่ประพฤติชั่วทำบาปในแดนมนุษย์ เมื่อตายลงแล้วเข้ามาจากประตูผีขึ้นบนหอกระจก (กรรม) วิเศษส่องร่างเดิมปรากฏออกมาหลักฐานที่ทำผิดพร้อมมูลแล้ว ต้องดูว่าโทษที่ทำไว้นั้นขึ้นกับความปกครองของขุมไหน ก็ส่งมอบให้แต่ละขุมรับไปจัดการ ขณะนี้ข้าพเจ้าจะชำระคดีเรื่องหนึ่ง เชิญท่านทั้งสองตามข้าพเจ้าขึ้นนั่งบัลลังก์สังเกตการณ์เถิด
หยางเซิง :ขอรับกระผม ยมบาลหัวควายหน้าม้าสองนายคุมวิญญาณโทษชายตนหนึ่งอยู่หน้าโต๊ะ ท่วงทีท่าทางคล้ายพวกผู้อำนวยการหรือประธานกรรมการ หน้าตาเปล่งปลั่งราศีดีหัวเถิกอยู่บ้างแล้ว มิทราบว่าทำผิดด้วยโทษอันใด มีอาการแสดงออกด้วยความหวาดกลัวสั่นเทา
โหงวกัวอ๊วง :วิญญาณโทษตนนี้ สมองปราดเปรื่องตอนมีชีวิตอยู่เป็นพ่อค้ายาแผนปัจจุบัน ต่อมาคิดหาเงินโดยทางมิชอบ เพราะเหตุว่าตนมีความรู้ความชำนาญเรื่องยาพอสมควร เลยทำยาปลอมออกจำหน่ายปองร้ายให้โทษชาวบ้านมากมาย วันนี้หมดอายุขัยแล้ว โดนยมทูตคุมตัวมาพิจารณาโทษ
อรหันต์จี้กง :เนื่องจากหมดเวลาลงแล้ว ข้าฯ ว่าเจ้าหยางเซิงเตรียมกลับสำนักเถิด วันหน้าค่อยมาสัมภาษณ์ที่คุกนรกนี้กันใหม่ก็แล้วกัน ขอแสดงความเสียใจต่อท่านโหงวกัวอ๊วงเป็นอย่างมากโปรดให้อภัยด้วย
โหงวกัวอ๊วง :ที่ไหนได้ นายทหารและเทวทูตทั้งหลายตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์กลับ
อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเซิงรีบออกจากปราสาทเร็ว เตรียมกลับสำนัก
หยางเซิง :ขอขอบคุณท่านยมบาลและเทวทูตที่ได้ให้เกียรติต้อนรับลาก่อนละครับ
อรหันต์จี้กง :เจ้ารีบขึ้นนั่งบนดอกบัวเร็ว เตรียมกลับสำนัก
หยางเซิง :ขอรับคำบัญชา กระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์ท่านเริ่มเดินทางได้…..
อรหันต์จี้กง :ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว
หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม