ครั้งที่ 54 วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2521
ตอน ท่องนรกใหญ่อาปี้ (นรกโลกันตร์)
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จลงตรัสเป็นกลอนมีความว่า :
ในสำนัก ดังกังวาน เสียงสวดมนต์
ปลุกมวลชน ให้ละยศ อำนาจรู้
สร้างกันใหญ่ ตึกระฟ้า สูงสุดกู่
แต่ที่อยู่ ในบั้นปลาย ใต้แผ่นดิน
อรหันต์จี้กง :เบื้องหน้าสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งได้สร้างอาคารใหญ่ขึ้นแล้ว ผู้คนในสมัยนี้นับว่ามีโชคดีมากทีเดียวที่ได้กินยู่หลับนอนกันบนเวหา แต่ว่าความสุขใจยังอยู่เหนือกว่าความสุขกาย ถ้าหากว่าใจนั้นไม่มีความสงบมั่นคง แม้ว่าจะอยู่ในอาคารใหญ่โตเช่นใดก็ไม่นับว่าเป็นผู้มีโชค มนุษย์เรามีความสำคัญมากอยู่ที่จิตใจได้รับความสงบสุข มิเช่นนั้นแล้วแม้ว่าจะอยู่ในปราสาทราชวัง ก็ยังรู้สึกไม่เป็นอันกินอันนอน จะมีความสนุกหรรษาได้อย่างใด?
หยางเซิง :ท่านอาจารย์พูดอย่างสมเหตุผลมาก!
อรหันต์จี้กง :รีบขึ้นบนดอกบัวเร็ว เตรียมท่องนรก
หยางเซิง:กระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์ออกเดินทางได้....
อรหันต์จี้กง :ถึงแล้ว เจ้าจงลงจากดอกบัวเสีย
หยางเซิง:กระผมลงมาแล้ว ที่มาวันนี้เป็นสถานที่ใดมิทราบ
อรหันต์จี้กง :วันนี้เราจะท่องชม “นรกโลกันตร์”
หยางเซิง : “นรกโลกันตร์” ทำให้คนเกรงขามน่าสะพรึงกลัวมากกระผมว่าเปลี่ยนไปชมแห่งอื่นกันเถิดครับ
อรหันต์จี้กง :เจ้าอย่ากลัวไปเลย มีข้าอยู่เป็นเพื่อนด้วยคนแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะเรียบร้อยไปเอง หากว่าเจ้ามีความหวั่นกลัวฉันจะให้ยาตั้งสติสักเม็ดหนึ่ง เอ้ารีบกลืนเร็วเข้า ตามอาตมาคืบหน้าไป
หยางเซิง :ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ได้ให้ยาทิพย์ กระผมกลืนลงไปแล้ว ในใจรู้สึกว่าเกิดความมั่นคงขึ้นเป็นอย่างมาก พัศดีได้มาต้อนรับเราอยู่เบื้องหน้าแล้ว
พัศดี :ขอต้อนรับท่านอาจารย์และท่านหยางเซิงที่ได้มาเยี่ยมชมให้การชี้แนะ คุกนี้คือ “นรกโลกันตร์” อยู่ในความปกครองของขุมที่ 9 รู้สึกยินดีที่ได้มีท่านทั้งสองมาเยี่ยมเยียน
หยางเซิง :ขอขอบคุณในความจริงใจของท่านพัศดี เหตุไฉนอาณาบริเวณของคุก “นรกโลกันตร์” แห่งนี้จึงกว้างใหญ่ไพศาลถึงปานนี้
พัศดี : “นรกโลกันตร์” เสมือนจมูกของมนุษย์จะว่าใหญ่โตนักก็ไม่เชิง แต่สามารถทะลุไปยังทั่วร่างกาย และเป็นช่องทางสำคัญของการหายใจ ดังนั้น พวกที่ถูกจองจำอยู่ใน “นรกโลกันตร์” นี้ล้วนเป็นวิญญาณโทษที่มีโทษฐานอุกฤษฎ์อุกฉกรรจ์ทั้งนั้น
หยางเซิง :ข้างหน้ามีหลุมใหญ่อยุ่หลุมหนึ่ง ข้าพเจ้ามิกล้าชะโงกดูเห็นเพียงแต่ภายในมืดดำมากและได้ยินเสียงน้ำร้อนเดือดพล่านกับเสียงร้องคร่ำครวญเท่านั้น จะเป็นที่ที่พวกวิญญาณโทษถูกแช่ขังไว้หรือไฉน?
พัศดี :ภายในหลุมล้วนเป็นพวกวิญญาณโทษ คุกนี้สูง 18 ชั้น ภายในคุกมีคมมีดทุกแห่งหน วิญญาณโทษที่ถูกคุมตัวมานั้น จะโดนนายทหารผลักตกเข้าไป และโดนแรงดึงดูดจาธรณี จะได้ยินเสียงร้องอย่างทรมานแวบเดียว แล้วก็หยุดไปพักหนึ่ง จากนั้นจึงส่งเสียงคร่ำครวญไม่ขาดสาย ภายคุกมืดจึงมองนิ้วมือของตัวเองไม่เห็น ผู้ที่ถูกลงโทษอยู่ภายในนั้น ได้รับความทรมานเป็นอย่างยิ่ง นับได้ว่าเป็นที่สุดยอดแห่งการลงโทษ
หยางเซิง :ที่ชาวโลกมักจะพูดว่ากลัวที่สุดเมื่อตอนตายแล้วต้องตกเข้า “นรกโลกันตร์” นั้น เนื่องมาจากเหตุใดมิทราบ?
พัศดี :บรรดาที่ตกเข้าไปในนรกโลกันตร์นั้นส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้อีก จึงมีสภาพคล้ายกับการถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตของศาลในแดนมนุษย์
หยางเซิง:จะให้วิญญาณโทษสัก 2-3 ตนมาทำการซักถามความเป็นไปได้หรือไม่ประการใด?
พัศดี :สำนักของท่านรับโองการให้แต่งหนังสือ “เที่ยวเมืองนรก” ท่านยมบาลได้มีคำสั่งให้ปล่อย 2-3 ตนออกมาเล่าความเป็นไปเพื่อเป็นข้อมูลได้ มิเช่นนั้นเมื่อตกเข้า “นรกโลกันตร์” แล้วตามปกติจะให้ออกมามิได้ ข้าพเจ้าจะใช้เครื่องวิเศษ....ท่านจงดูที่เครื่องวิเศษนี้ ส่องเข้าไปในคุก จะเกิดความสว่างไสวขึ้นเครื่องไม้เครื่องมือในการทำโทษนั้นหยุดชะงักลงหมด นายทหารรีบพาตัวขึ้นมาสัก 2-3 ตนเถิด
นายทหาร :ขอรับคำบัญชา ....ได้คุมตัวออกมาแล้วครับ
หยางเซิง :แต่ละตนมีบาดแผลมากมาย ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเลนตม รอยเลือด ตาทั้งสองข้างก็ถลนปลิ้นออก สารรูปไม่เป็นตัวเป็นตนเลย น่าสมเพชเวทนาเป็นยิ่งนัก
อรหันต์จี้กง :ข้าฯ จะแสดงอำนาจอภินิหารย่อยๆ ให้ดูสักนิด เพื่อทำให้พวกมันมีสติกลับคืนมา และลดความเจ็บปวดทางร่างกายให้น้อยลง เพื่อสะดวกแก่การบอกเล่าถึงเรื่องคดีที่ตนทำขึ้น!
หยางเซิง :อิทธิฤทธิ์ของท่านอาจารย์พิสดารยิ่งนัก พวกมันที่รูปร่างเหมือนภูตผีปีศาจสามารถที่จะพูดจากันได้แล้ว
พัศดี :ต่อหน้าอาจารย์ใหญ่สองท่านในที่นี้พวกเอ็งจงรีบเล่าตอนที่มีชีวิตอยู่นั้นได้ก่อกรรมทำเข็ญอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้เอาไปเผยแพร่ปลอบเตือนชาวโลก
วิญญาณโทษ :ตอนมีชีวิตอยู่นั้นผมได้กระทผิดในเรื่องอกตัญญูโดยปกติแล้วผมไม่ยอมทำมาหากิน เอาแต่เที่ยวเตร่ หากครั้งใดที่ขอเงินจากบิดามารดาไม่ได้แล้ว ก็จะด่าว่าท่านอย่างเสียๆหายๆ บางครั้งถึงกับลงไม้ลงมือทุบตีเอา ตลอดชีวิตไม่เคยกตัญญูต่อพ่อแม่เลย เมื่อตายลงแล้วโดนแต่ละชุมทำการลงโทษ และยังตกเข้าใน “นรกโลกันตร์” ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีก ขอวิงวอนท่านอาจารย์ใหญ่สองท่าน ได้โปรดขอร้องยกโทษให้แก่ผมขอเพียงแต่ได้หลุดพ้นจาก “นรกโลกันตร์” จะหมุนเวียนไปเกิดเป็น วัว ควาย สุนัขก็ยอม ที่นี้มันช่างทารุณทุกข์ยากเสียจริงๆ
อรหันต์จี้กง :การทำความดีต่างๆ จะถือว่า กตัญญูต่อผู้บังเกิดเกล้าเป็นเรื่องสำคัญที่ยิ่งยวด ตัวเองไม่รู้จักที่จะชุบเลี้ยงเกื้อหนุนบิดามารดา แล้วยังลงมือลงไม้ทุบตีท่านอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ชั่วร้ายสารเลวสิ้นดี กฎยมโลกถือเอาการอกตัญญูเป็นโทษที่ไม่สามารถให้อภัยได้ ฉันเองก็จนปัญญาที่จะช่วยได้
พัศดี :ชาวโลกบางคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวในเรื่องจากการเลือกคู่สมรสหรือเกี่ยวกับทรัพย์สินสมบัติ หรือความใคร่ทางส่วนตัว ถึงกับทรยศต่อบิดามารดา ไม่ให้การเคารพเทิดทูนกตัญญูต่อท่าน หากไม่รีบกลับเนื้อกลับตัวแล้ว “นรกโลกันตร์” นี้จะต้องมีส่วนได้รับใช้ ตนที่ 2 รีบเล่าเรื่องโดยเร็ว
วิญญาณโทษ :ตอนที่ผมมีชีวิตอยู่ มีนิสัยชอบมั่วกาม เคยทำการข่มขืนผู้หญิงก็หลายครั้ง และได้หลอกลวงแม่หม้ายแม่ร้างกับหญิงสาวที่ตนรับเป็นลูกเลี้ยงจนเกิดการสมสู่ขึ้น เรียกได้ว่าได้รับการเสพสุขทางกามารมณ์อย่างอิ่มแอมพอเพียง แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อตายลงแล้ว ต้องรับการลงโทษจากการทรมานทุกชนิด ในที่สุดยังถูกตัดสินให้ตกเข้า “นรกโลกันตร์” ไม่ให้ผุดเกิดอีก ขอเชิญท่านอาจารย์ช่วยด้วย ถ้าสามารถหลุดพ้นจากห้วงทุกข์นี้แล้ว จะเต็มใจไปเกิดเป็นวัวควายรับใช้ท่าน
อรหันต์จี้กง :ฉันยังไม่ต้องการวัวควายอะไร ตัวแกตอนเป็นมนุษย์ชอบมั่วกาม ไม่ประพฤติตัวอยู่ในทางที่ถูกที่ควร เรื่องมั่วกามผิดลูกผิดเมียถือว่าสุดยอดเรื่องชั่วร้ายทั้งหลาย ตกเข้า “นรกโลกันตร์” แล้วจงปลงเสียเถิด
พัศดี :ตนที่ 3 รีบเล่าเรื่องเลวร้ายในตอนอยู่ในโลกมนุษย์เร็ว
วิญญาณโทษ:ตอนที่อยู่ในโลกมนุษย์ เก่งในทางที่ทำยาปลอมต่างประเทศ ปลอมทั้งสุรา ผงชูรส เหล้าขาว น้ำส้มและของกินต่างๆ เพื่อหารายได้พิเศษให้มากขึ้นและก็ทำได้ตามที่มุ่งหมายไว้ ก็เนื่องจากทุจริตมิชอบด้วยการผิดศีลธรรมนี้แหละ จึงถูกตัดสินให้ตกเข้าใน “นรกโลกันตร์” ขอให้ท่านอาจารย์ช่วยร้องขอความปราณีจากท่านยมบาลให้ด้วย ปลดตัวผมออก เมื่อไปเกิดเป็นคนในชาติหน้า ผมจะเจียมตัวเจียมใจ หาเงินจากทางที่ถูกที่ชอบตามปรกติวิสัยของมนุษย์
อรหันต์จี้กง :การปลอมเหล้าปลอมยานั้นมีโทษฐานร้ายแรงมากไม่คำนึงถึงชีวิตคนและศีลธรรม ของปลอมเหล่านี้พอเข้าปากคนไปแล้วเหมือนกับดื่มยาพิษ ทำลายคนไปมิใช่น้อย ในเมื่อหมดความรู้สึกรับผิดชอบทางด้านจิตใจแล้ว ตัดสินให้แกตกเข้ามาอยู่ “นรกโลกันตร์” ดื่มน้ำโคลนใต้บาดาล สามารถแก้พิษต่างๆได้ รสชาติมันเป็นเช่นใด ตัวเองคงจะซาบซึ้งดี ฉันไม่สามารถจะช่วยอะไรแกได้
พัศดี :วิญญาณโทษตนที่ 4 รีบสารภาพเหตุการณ์ที่ตัวทำผิดในแดนมนุษย์อย่างไรบ้าง
วิญญาณโทษ : ผมมีอาชีพค้าของเถื่อนในแดนมนุษย์ และเสพยาเสพติด ทั้งสูบทั้งฉีดด้วย เมื่อติดยาเหล่านี้แล้ว ต้องใช้จ่ายเงินทองมากมายมหาศาล จึงแอบทำการค้ายาเสพติดให้โทษได้ทำลายชีวิตมนุษย์มิใช่น้อย เมื่อตายแล้วท่านยมบาลพิโรธยิ่งนัก ตัดสินให้ตกเข้า “นรกโลกันตร์” ตลอดชีวิต ถูกทรมานอย่างเหลือที่จะทนทานได้ จึงสำนึกตัวได้ว่าตอนเป็นมนุษย์อยู่ได้ก่อกรรมไว้มากมาย ขณะนี้ไม่มีทางที่จะช่วยเหลือได้อีกแล้ว
อรหันต์จี้กง :การขนของเถื่อน (ของหนีภาษี) นั้นผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง ค้ายาเสพติดให้โทษทำลายชีวิตมนุษย์ กฎหมายบ้านเมืองไม่อนุญาตให้ทำ ยมกฎก็ไม่ยอมผ่อนปรน บรรดาที่ทำการค้ามาก ผู้ใดที่เคยทำมาแล้วให้รีบลามือเสีย กลับเนื่อกลับตัวใหม่มิเช่นนั้น จะต้องโดนยัดเข้า “นรกโลกันตร์” เมื่อตัวได้ตายลงแล้วจะไม่มีวันได้ผุดเกิดอีกเลย
พัศดี :ทั้ง 4 ตนได้สารภาพโดยหมดสิ้นแล้ว หวังว่าชาวมนุษย์ที่ได้อ่านหนังสือ “เที่ยวเมืองนรก” แล้ว ที่เคยมีการกระทำดังกล่าวมาแล้วให้รีบกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ จะผ่อนผันยกโทษให้เป็นพิเศษ หวังว่ามวลมนุษย์จงรีบตื่นขึ้นจากความหลงผิด จกอย่าได้หวังผลกำไรจากสิ่งเหล่านี้เลย อันที่จะทำให้ตัวเองต้องตกเข้าอยู่ในห้วงหายนะ
อรหันต์จี้กง :เวลาหมดลงเสียแล้ว เราเตรียมการกลับสำนักเถิด
หยางเซิง : ขอลากท่านพัศดีและนายทหารทั้งหลาย และขอบคุณที่ให้การต้อนรับด้วย
พัศดี :ให้นายทหารทั้งหลายตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์
อรหันต์จี้กง : เจ้าหยางเซิง รีบขึ้นดอกบัวเร็ว
หยางเซิง :กระผมนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์ออกเดินทางกลับสำนักเถิด
อรหันต์จี้กง :ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว
หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม