วันประทับทรง : วันที่ 15 มิถุนายน 2528
ผู้ยื่นคำร้อง : หลินจุ้น ชาย อายุ 43 จากเมืองไถหนาน
เทพเจ้า : พระเจ้าชาตภิบาลมหาราช (ภาษาจีน)
บทกลอน :อภิบาลประชาราษฎร์สุขสราญ
วิญญาณเกิดวนเวียนในโลกา
เต๋ายิ่งใหญ่รับได้ด้วยบุญพา
ปลุกจิตตาบรรลุแจ้งโดยฉับพลัน
ประกาศ : คืนนี้ข้ามาตามคำร้องของผู้ยื่นคำร้อง เพื่อเปิดเผยผลกรรมของเขา เบิกตัวหลินจุ้นเข้าเฝ้าได้
หลินจุ้นกราบลงที่พื้นพร้อมกับร้องไห้ว่า ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์กรุณาช่วยไกล่เกลี่ยกับเจ้ากรรมนายเวรเพื่อขออโหสิกรรม
เทพเจ้าเป็นผู้รักสัจธรรมและเปี่ยมด้วยความเมตตามีความเอ็นดูต่อชาวโลกเสมอภาคกัน หากผู้นั้นมีจิตเมตตาและคุณธรรมประสบเคราะห์กรรมจากกรรมเก่า ข้าจะพยายามไกล่เกลี่ยให้ อุบาสกหลินป่วยเป็นโรคเบาหวานอย่างร้ายแรงเป็นเวลาสิบกว่าปี เหตุใดผู้ป่วยบางคนทานยาแล้วหาย แต่เขากลับไม่มีอาการดีขึ้นเลย สาเหตุมาจากบาปกรรมที่ได้ก่อไว้ คืนนี้ห็นแก่คำร้องของอุบาสกหลินที่ได้ต้องขอให้ช่วยไกล่เกลี่ยอย่างจริงใจ และในสองปีนี้ เขาได้สำนึกผิดและได้ประกอบกรรมดีบ้าง ข้าฯ จึงมาแจ้งเหตุแห่งกรรมให้ทราบ
เจ้าเดิมทีเกิดที่ชนบท กำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เด็ก จึงเร่ร่อนไปต่างถิ่น และได้เรียนวิชากกายกรรมจากอาจารย์ท่านหนึ่งแล้วก็เที่ยวแสดงยึดเป็นอาชีพ ปี พ.ศ.2515 เมื่อเจ้ามีอายุ 27 ปี เจ้าได้เช่าบ้านอยู่ที่ตำบลเจียงฮวา เจ้าของบ้านเป็นหญิงหม้ายขณะนั้นเจ้าแต่งงานแล้วและมีบุตรชาย 2 หญิง 1 แต่เจ้าเป็นคนไม่รับผิดชอบต่อครอบครัว ออกไปเร่ร่อนเที่ยวอ้างตนว่ายังโสดส่วนหญิงหม้ายนั้นแก่กว่าเจ้าตั้ง 10 กว่าปี สามีตายไปหลายปี มีลูกชายเป็นกะลาสีเรือ เจ้ามีจิตใจไม่ซื่อ ในที่สุด เจ้าก็ใช้ความเจ้าชู้ของเจ้าจนนางตายใจอยู่กับเจ้าฉันสามีภรรยา ที่เจ้าทำแบบนี้มิใช่ว่าเจ้ารักนางจริง หากแต่อยากได้สมบัติของนางมากกว่า เมื่ออยู่กินกันได้ 3 ปีเจ้าก็หลอกลวงทรัพย์สมบัติของนางจนหมดตัว ตลอดจนบ้านของนางก็ถูกเจ้าหลอกขายไป
เจ้าเห็นนางหมดคุณค่าแล้วก็ทอดทิ้งนางไป นางเสียใจจนป่วยลง ขาดเงินรักษาและได้ตายไปเมื่อ 11 ปีก่อน วิญญาณของนางเคียดแค้นเจ้ามากไปร้องเรียนต่อยมบาล และท่านยมบาลได้อนุญาตให้นางแก้แค้นได้ ดังนั้นสิบกว่าปีมานี้เจ้าเริ่มป่วยเป็นโรควิบากกรรม เช่น เจ้าเคยป่วยเป็นโรคกระเพาะ โรคตับแข็ง ไตเป็นนิ่ว และก็เกิดอุบัติเหตุรถชนถึง 4 ครั้ง บัดนี้เจ้าก็สิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว โรคเบาหวานก็ตามรุมเร้าหาหมอเยียวยากี่คนก็ไม่หาย นั่นเป็นวิบากกรรมเก่า อันที่จริงข้าไม่อยากเปิดเผย แต่ข้าเห็นว่า 2 ปีนี้ เจ้าได้สำนึกผิด และอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า เจ้ายินดีอุทิศร่างกายให้กับวงการแพทย์เป็นวิทยาทาน และเจ้ายังคอยเที่ยวเก็บตะปูเศษแก้วตามถนนโดยเกรงว่าจะทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ อาการป่วยจึงได้ทุเลาลงบ้าง บัดนี้วิญญาณนางตามเจ้ามาถึงที่ศาลเจ้านี้ ข้าจึงแนะนำว่า เจ้ารีบเตรียมเครื่องเซ่นไหว้เพื่อกราบขอขมาที่หน้าหลุมฝังศพของนาง ขอให้นางอโหสิกรรม และเจ้าจะประกอบแต่กรรมดีเพื่อจะอุทุศผลบุญที่จะกระทำทั้งหมดให้แก่นางไป ถ้าเจ้าปฏิบัติเช่นนี้ได้ โรควิบากกรรมจึงมีโอกาสหายขาด เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะ