สิ่งที่มีการเจริญเติบโตได้ในโลกนี้ ล้วนมีวิญญาณทั้งนั้น จึงจะเจริญงอกงามได้ และอยู่ต่อไปได้ จะแยกแยะดังนี้
1) ต้นไม้ใบหญ้า มีเพียง 1 วิญญาณ เรียกว่า วิญญาณเกิดศีรษะจะก้มลง รู้แต่เกิดและให้ผลผลิต ไม่มีความรู้สึกทุกข์สุขใดๆ
2) สรรพสัตว์ ไม่ว่าจะมีปีกหรือไม่มีปีก มี 2 วิญญาณคือ “วิญญาณเกิด” กับ “วิญญาณรับรู้” รู้จักสุขกับทุกข์ รู้จักดีใจและเสียใจ ศีรษะขวางตรง รู้จักหลบหลีกเคราะห์ภัย รู้จักหากินรู้ร้อนรู้หนาว รู้สึกความหิวและความอิ่ม และรู้จักแยกแยะบุญคุณกับศัตรู
3) มนุษย์ มี 3 วิญญาณ นอกจาก วิญญาณดิบ วิญญาณรับรู้แล้ว ยังมีจิตวิญญาณ รู้จักคิด รู้จักค้นคว้า สามารถประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา รู้จักพัฒนาตนเอง
การที่ต้นไม้ใบหญ้ามีเพียง 1 วิญญาณ ศีรษะก้มลงสู่พื้นสัตว์เดรัจฉานมี 2 วิญญาณ ศีรษะขวางตรง ส่วนมนุษย์นั้น ศีรษะเชิดสูงสู่ฟ้า ซึ่งประกอบด้วย ฟ้า ดิน มนุษย์ ในตัว
ด้วยเหตุนี้ มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ มิใช่ต้นไม้ใบหญ้าและสัตว์เดรัจฉาน จะมาเปรียบเทียบกันได้ ดังนั้น พวกเราควรใช้สติปัญญานี้ก่อสร้างบุญกุศล เพื่อให้จิตวิญญาณสว่างไสว หมั่นบำเพ็ญตน โดยแสดงความกตัญญู จงรักภักดี พี่น้องสามัคคี มีเมตตากรุณา มีจริยธรรม มีสัจจะมารยาท เป็นคนโอบอ้อมอารีและมีหิริโอตตัปปะ อันเป็นคุณธรรมแปดประการ ซึ่งคุณธรรมนี้จะขจรขจายนานนับหมื่นปี ซึ่งไม่เสียแรงที่ได้เกิดเป็นมนุษย์
เหลาหมู่ วันที่ 20 พฤษภาคม 2522 เวลา 22.00 น.
ความเจ็บปวดรวดร้าวถูกเชือดคอ จะร้องขอความปรานีได้ที่ไหน
ต้องด่าวดิ้นหลายนาทีจึงสิ้นใจ โอ้เป็ดไก่ยามถูกเชือดเลือดไหลนอง
ช่างเป็นภาพที่เวทนาน่าเศร้านัก โปรดตระหนักภาพพจน์สยดสยอง
เมื่อรับประทานเป็ดทุกครั้งควรตรึกตรอง สัตว์ทั้งหลายคือพี่น้องร่วมเกิดตาย