พระอาจารย์: "ศิษย์เอ๋ยอย่าคิดเพ้อเจ้อ พระอาจารย์อยู่ข้างกายเจ้าตลอด"
ผู้น้อยคิดเพียงแค่นี้พระอาจารย์รู้ได้ทันที และมาถึงทันที อัศจรรย์จริงๆ ผู้น้อยคิดอยู่ในใจว่า
"สิงที่ควรได้เห็นก็ได้เห็นแล้ว แล้วยังจะยืนอยู่อีกนานสัก
เท่าไร่? ยังจะดูอะไรอีก?" ใจคิดเพียงแค่นี้
พระอาจารย์ ก็เอานิ้วมาจุ๊ที่ปากบอกว่า
"อย่าพูด ฟังเงียบๆ ดูเงียบๆ
ผู้น้อยคิดว่าคงจะมีรายการอื่นๆ อีก ผู้น้อยจึงดูอย่างเงียบๆผ่านไปชั่วครู่ เดิมทีเทพวินัยธรล้วนนั่งอยู่ มีแต่พลทหารเท่านั้นที่ยืนอยู่ ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระองค์อื่นล้วนนั่งอยู่ ขณะนั้นเทพวินัยธรกวนอู ได้ยืนขึ้นแล้วพูด "อิ" (ลุกขึ้น) เสียงดังมาก
ผู้น้อยตกใจ ห้องพุทธาลัยที่กว้างใหญ่ หากมีใครยืนอย่างขี้เกียจ หรือ ไม่เป็นระเบียบล้วนตื่นเต้นกัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนแท่นบัญชาการล้วนลุกขึ้นยืน ผู้น้อยไม่ค่อยตื่นเต้นนัก แต่เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมีความตื่นเต้นมาก
เวลานั้น มีสาวงามนางหนึ่งสวยมากๆ เดินออกมาจากด้าน
หลัง ผู้น้อยเห็นแล้วก็คิด "บนสวรรค์มีสาวสวยอย่างนี้ด้วยหรือ?"
เส้นผมผูกด้วยผ้าคาดผม สวมชุดสีขาว แต่งด้วยทองสวยมาก ผู้น้อยจำได้เพราะมือขวาถือแจกัน มือซ้ายถือกิ่งหลิวที่แท้คือพระโพธิสัตว์กวนอิมรูปวาดของท่านทั่วไปที่เห็นล้วนแก่ไป ลักษณะที่ผู้น้อยเห็นนั้นคือ เหมือนกับภาพองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ยืนบนหลังมังกรครั้งเกิดอุทกภัยเมื่อปี 87 สาวและสวยมาก เดินออกมามีดอกบัวรองพระบาททีละก้าว ๆ อย่าง ช้า ช้า น่าดูมากจนถึงที่นั่งของพระองค์ ต่อมาเทพวินัยธรกวนอูกล่าว
"รับเสด็จพระองค์ธรรมมารดา คารวะคุกเข่า 10 กราบ"
ขณะนั้นทุกคนก็คุกเข่าลง ผู้น้อยก็คุกเข่าลง ทุกคนทำเหมือนกันหมด "โจ้อี๋ กุย" ก็เหมือนกัน ผู้น้อยเป็นคนซื่อ เวลาผู้น้อยกราบพระหน้าของผู้น้อยหัน ไปดูบนแท่นบัญชาการมีพระศาสดาของ 3 ศาสนา
พระโพธิสัตว์กวนอิม พระพุทธเจ้า ผู้น้อยอยากจะเห็นว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์กราบอย่างไร ดังนั้นเวลาที่รับเสด็จ ผู้น้อยกราบไปด้วยเหงนมองด้านบนไปด้วย อยากจะดูว่าพระองค์กราบอย่างไร
หากไม่เงยหน้าก็มองไม่เห็น คนเหล่านั้นเอาแต่มองผู้น้อยกราบ มองผู้น้อยว่า ทำไมกราบอย่างนี้
ไม่ใช่ว่าผู้น้อยกราบไม่เป็น
แต่ผู้น้อยอยากจะเห็นที่ตัวเองกราบเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหม? เพื่อจะได้เป็นประจักษ์หลักฐานว่ากราบถูกหรือเปล่า? หากไม่ถูกกลับไปแล้วก็จะเปลี่ยนแปลง แต่โชคดีผู้น้อยได้รู้แจ้งแล้ว อาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมของผู้น้อย ได้นำมหาธรรมที่ล้ำค่าถ่ายทอดให้กับผู้น้อย สิ่งที่ พวกเราไหว้พระก็ไม่ต่างกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้กราบไหว้อยู่บนนิพพาน เทพวินัยธรทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน กราบแบบอุ้มเหอถง
ผู้น้อยรู้สึกว่าโชคดีมาก พวกเราเป็นผู้ที่โชคดีที่สุดพระองค์ธรรมเสด็จออกมาแล้ว มองไม่เห็น รูปร่างลักษณะวาเป็นอย่างไร แต่ที่พระแม่องค์ธรรมจะเสด็จมีเพียงแสงรัศมีมากมาย ผู้น้อยคิด ปกติที่เราไปดูละครก่อนทีมหาเทพจะเสด็จออกมาก็จะมีแสง รัศมีเจิดจ้าเช่นนี้ ขณะนี้มหาเทพใกล้จะออกมาแล้ว
และแล้วพระแม่องค์ธรรมก็เสด็จออกมาอย่างนี้จริงๆเป็นแสงรัศมี แต่มองไม่เห็นเป็นรูปลักษณ์ เทพวินัยธรบอกสัญญาณ "รับเสด็จองค์ธรรมมารดา 10 กราบ
หนึ่ง กราบ
สองกราบ........ เสียงดังกังวาน"
เมื่อกราบ เสร็จก็บอกว่า "ลุก" ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนเวลาที่พระแม่องค์เสด็จจะเปิดดนตรี ยิ่งเปิดก็ยิ่งเศร้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนแทนบัญชาการรีบคุกเข่าลงอีก
พวกเราที่ยืนอยู่ตรงนี้ล้วนซื่อๆ โง่ๆ ไม่ได้รีบคุกเข่าตามรวมถึงผู้น้อยด้วย ยืนเซ่อมองอยู่ตรงนั้น
พระอาจารย์ของพวกเราน่าสงสารมาก ผู้น้อยได้เห็นภาพนี้ถึงกับร้องไห้ เวลาที่พระแม่องค์ธรรมเสด็จ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ล้วนก้มศีรษะ มิกล้าเงยหน้า พระอาจารย์ของพวกเราน่าสงสารจริงๆ เอาศีรษะโขกกับพื้น โขกอยู่นั่นแหละ และพูดกับพระแม่องค์ธรรมว่า
"ลูกไม่กตัญญู ลูกไร้ความสามารถ ปลุกเหล่าพุทธบุตรไม่ตื่น ทุกคนยังลุ่มหลง ล้วนไม่ยอมกลับมา ลูกไร้ความสามารถจริง ๆ "
พระอาจารย์ของพวกเราลำบากจริงๆ
เอาแต่โขกศีรษะลงกับพื้นอยู่อย่างนั้น
รัศมีธรรมของพระองค์ธรรมมารดา ได้เปิดปาก มีเสียงดังขึ้น เสียงนั้นไม่เหมือนเสียงของผู้ชาย และไม่เหมือนเสียงของผู้หญิง ฟังไม่ออกว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง พระแม่องค์ธรรมกล่าวว่า
"ลูกเอ๋ย เจ้าพยายามถึงที่สุดแล้ว เจ้าทำสุดกำลังแล้วเจ้าทำได้มากแล้ว ลุกขึ้นๆ อย่าทำเช่นนี้"
แสงรัศมีสีขาวลำหนึ่ง แวบมาเชิญ พระอาจารย์ลุกขึ้นพระอาจารย์ก็ลุกขึ้นกราบขอบคุณ พระองค์ธรรมมารดาเมตตาเมื่อพระแม่องค์ธรรมมารดาประทานให้นั่งพระอาจารย์ก็นั่งลง
ต่อมาก็รับเสด็จพุทธะอริยเจ้า 5 กราบ
เวลานี้ก็เห็นเป็นคน มี
พระปฐมบรรพจารย์จินกง(จินกงจู่ซือ)
พระพุทธาจารย์เทียนหยาน(เทียนหยานกู่ฝอ)
พระอริยมาตาจงฮว๋า(จงฮว๋าเซิ่งหมู่)
เพราะสามพระองค์ นี้รับโองการสวรรค์ เหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องคุกเข่าลงกราบ
พวกเราก็ต้องคุกเข่าลงกราบเช่นเดียวกัน
พระอาจารย์กล่าวว่าลูกศิษย์รีบกราบลา
พวกเราจะเปลี่ยนไปสถานที่อื่น ผู้น้อยกราบลาอยู่คนเดียว เทพวินัยธรหลวี่ต้งปิน บอก 1 กราบ 2 กราบ 3 กราบเสียงมีพลังน่าเกรงขามมากหลังจากที่กราบลาเสร็จ
ก็บอกว่า "ถอย" เสียงนี้ดังกังวาลจริงๆ สะเทือนไปทั่วพุทธาลัย ผู้น้อยกราบลาเพียงคนเดียว ได้ยินเสียง อย่างนั้นรู้สึกกลัวคิดจะพูดว่า
"ผู้น้อยเพียงคนเดียวเท่านั้นไม่ต้องเสียงดังอย่างนี้ก็ได้"
จากนั้นพระอาจารย์ก็พาไปดูการมอบรางวัล โดยเทพวินัยธรกวนอู เป็นผู้ลุกขึ้นกล่าว เทพคุมสอบสามภูมิก็ก้าวออกมาจากด้านหลัง ในมือถือใบฎีกาแสวงธรรมเทวนาคราช บนโลกมนุษย์สีขาว ที่นั่นสีทอง กางออกบอก "มอบรางวัล"