mindcyber 7 months ago
admin #hell

ครั้งที่ 51 ตอน พบปะกับเผ่งเต้งอ๊วง

ครั้งที่ 51 วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2521

ขุมที่ 9

ตอน พบปะกับเผ่งเต้งอ๊วง

ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จลงตรัสเป็นกลอนความว่า :

ชีวิตคน ไม่รอดพ้น ประตูผี

วิญญาณถี่ เป็นระลอก เวียนวนกัน

อำนาจ ราชศักดิ์ ดุจความฝัน

หมั่นขยัน มัธยัสถ สุขกายใจ

 

อรหันต์จี้กง :ผ่านไปแล้ว 8 ขุม การท่องนรกได้มาถึงด่านที่ 9 วันนี้จะไปสืบหาความลับจากขุมที่ 9 เจ้าหยางเซิงเตรียมตัวขึ้นดอกบัวได้

หยางเซิง :วันนี้จะไปท่องชมขุมที่ 9 หนังสือเที่ยวเมืองนรกใกล้ที่จะสำเร็จลงแล้ว รู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก

อรหันต์จี้กง :ถ้าหากว่าได้ผ่านด่านที่ 9 ไปแล้ว เจ้าก็จะรู้สึกสบายใจมากขึ้น แต่จงอย่าเพิ่งดีใจก่อนกาลเวลามากนักเลย งานการนั้นหนักหน่วงและหนทางนั้นแสนจะยืดยาว สมควรที่พึงระมัดระวังในการปฏิบัติดำเนินงาน หนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" เมื่อได้สำเร็จเรียบร้อย เผยแพร่ปลอบเตือนชาวโลกได้แล้ว เมื่อนั้นแหละเจ้าจะได้รับความดีความชอบอันดับ 1 จงตั้งใจทำดีต่อไปเถิด รีบขึ้นบนดอกบัวเสีย

หยางเซิง :ขอรับคำบัญชา กระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์ออกเดินทางได้แล้วครับ

อรหันต์จี้กง :ถึงแล้วละ เจ้าลงไปได้แล้ว

หยางเซิง :กระผมลงมาแล้ว เบื้องหน้าฝูงชนแออัดยัดเยียด คล้ายกับว่ามีพิธีใหญ่โตมโหฬารที่จัดขึ้นมาต้อนรับเราอย่างนั้นแหละ

อรหันต์จี้กง :ยมบาลเผ่งเต้งอ๊วงแห่งขุมที่ 9 ทราบว่าเราจะมาเยี่ยมชมขุมนี้มานานแล้ว จึงได้จัดการต้อนรับเราแบบพิเศษขึ้น เพื่อที่จะทำการรับขวัญเรา เจ้าเห็นไหมเสียงฆ้องเสียงกลองดังกระหึ่ม เครื่องดนตรีทุกชนิดต่างก็บรรเลงเพลงต้อนรับให้แซดไป

หยางเซิง :เพลงนี้คล้ายกับดนตรีโบราณพื้นเมืองของภาคใต้และภาคเหนือ

อรหันต์จี้กง :ก็ใช่น่ะซี

หยางเซิง :ได้ยินเขาพูดว่าเมื่อมีดนตรีแห่งเทวเจ้า บรรเลงให้ได้ยินแล้ว เป็นนิมิตที่มนุษย์จะได้สำเร็จเป็นเทวดา จะเป็นความจริงหรือไม่

อรหันต์จี้กง :ใช่แล้ว เมื่อมนุษย์ที่บำเพ็ญตนสำเร็จธรรม โดยสมบูรณ์แล้ว จะต้องมีสาสน์มาบอกให้รู้จากสวรรค์ ผู้ที่จะกำลังจะสำเร็จเป็นเทวดา ขณะนั้นในหูจะต้องได้ยินเสียงดนตรีแห่งเทวเจ้า แต่ว่าหากมิใช่พวกที่มีคุณงามความดีที่ใหญ่ยิ่งแล้วสวรรค์ท่านก็มิได้ให้เกียรติสูงส่งพิเศษถึงขนาดนี้หรอก ในเมืองมนุษย์ตอนที่จัดงานมอบรางวัลนั้นล้วนมีดนตรีบรรเลงขับกล่อมดังนั้นเมื่อในโลกมนุษย์มีดนตรี บนสวรรค์ก็มีดนตรีสวรรค์เช่นกัน โดยมิใช่คำลวง ถ้าหากว่าตอนเป็นมนุษย์ได้ก่อกรรมทำเข็ญสารพัด ก่อนจะสิ้นใจต้องได้ยินเสียงร่ไห้ของภูติผีปีศาจหรือเสียงโซ่เสียงตรวน เมื่อเจอสิ่งนี้แล้ว อนาคตนั้นน่าเป็นห่วงมาก คือเป็นรางแสดงที่ยมทูตจะทำการจับกุมตัว เรารีบเดินไปข้างหน้าเถิด ข้าราชการของขุมที่ 9 ได้ตั้งแถวคอยต้อนรับเราอยู่แล้ว

หยางเซิง :คำนับมายังท่านเผ่งเต้งอ๊วงและเทวทูตทั้งหลาย ข้าพเจ้าศิษย์ของพระเจ้ากวนอูแห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมืองไถ่ตงได้รับเทวโองการให้ท่องแดนนรกพร้อมกับอาจารย์ เพื่อแต่งหนังสือ ได้มายังที่นี่ในวันนี้ และได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นอย่างยิ่งรู้สึกขอบคุณมาก ขอท่านได้โปรดอำนวยความสะดวกให้ด้วย

ยมบาล :มิต้อง…ท่านหยางเซิง รีบลุกขึ้นเถิด! วันนี้ข้าพเจ้าได้รับการเลี้ยงรับรองเป็นพิเศษแก่ท่านทั้งสอง เชิญตามข้าพเจ้าเข้าไปนั่งพักในห้องรับแขกในปราสาทเถิด

หยางเซิง :ขอขอบคุณที่ให้เกียรติอย่างยิ่ง :

อรหันต์จี้กง : เราตามท่านยมบาลเข้าไปนั่งพักในปราสาทกันเถิด

ยมบาล :ท่านทั้งสองเชิญนั่งตามสบาย มิต้องเกรงใจ การท่องนรกเพื่อแต่งหนังสือท่องมาจากขุมที่ 1 มาจนถึงเรานี้นับได้ว่าแสนจะลำบากตรากตรำ ข้าพเจ้าจึงได้จัดเลี้ยงรับขวัญให้แก่ท่านทั้งสองขึ้นในวันนี้

อรหันต์จี้กง :ขอขอบคุณท่านเผ่งเต้งอ๊วงที่ได้กรุณาให้ความดูแลช่วยเหลือ นับว่าโชคดีมากที่ท่านได้ช่วยขจัดปัดเป่าฝุ่นละอองให้แก่เราศิษย์อาจารย์ มิเช่นนั้นแล้วดอกบัวของอาตมาช่อนี้คงจะเกาะเต็มไปด้วยขี้ฝุ่น

ยมบาล :ที่ไหนได้ ในดวงจิตของท่านอาจารย์นั้นสะอาดหมดจดเพียงแต่มีฝุ่นละอองจับเกาะตามร่างกายเท่านั้นเอง ! ดอกบัวเติบโตขึ้นมาจากเลนตม แต่ก็มิได้แปดเปื้อนจากเลนตมนั้นเลย จิตใจเดิมของท่านั้นผ่องแผ้วสูงส่ง เพียงแต่เท้าทั้งสองข้างที่เหยียบย่ำไปทั่วทิศ จึงต้องชำระล้างเสียบ้างเท่านั้นเอง ! ท่านทั้งสองมิต้องเกรงใจ ผลไม้ทิพย์บนโต๊ะเลือกรับประทานเองตามอัธยาศัยเถิด

อรหันต์จี้กง :ศิษย์รักอย่าเกรงใจ โอกาสนี้หาได้ยากนักกินเข้าไปเถิด

หยางเซิง :ขอบพระคุณมาก ผลไม้จานนี้คล้ายกับผลไม้ในเมืองมนุษย์ สีแดงจัด รสชาติเลิศเป็นพิเศษ หอมหวานน่ารับประทานยิ่งนัก

ยมบาล :ถูกแล้ว อันนี้คือองุ่นดำ เติบโตงอกงามขึ้นจากเทือกเขาคุนหลุน ได้รับการหล่อเลี้ยงจากดินฟ้าอากาศแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก จึงออกสีเป็นสีดำเป็นผลที่ล้ำเลิศวิเศษสุด เชิญรับประทานเต็มตามความสามารถเถิด

อรหันต์จี้กง :เรารับประทานไปคุยไป เจ้ามีปัญหาอะไรถามยมบาลท่านได้เลย !

หยางเซิง :ขอรับกระผม ขอเรียนถามว่านามที่ท่านเรียกว่า "เผ่งเต้งอ๊วง" (เจ้าแห่งภราดรภาพ) นั้นเนื่องมาจากเหตุใดมิทราบ? และจะต่างกับโลกมนุษย์ที่เรียกคำว่า"เผ่งเต้ง" (เสมอภาค) บ้างไหมมิทราบ

ยมบาล :ที่ข้าพเจ้าขนานนามว่า "เผ่งเต้งอ๊วง" นั่นก็คือว่าวิญญาณโทษที่โดนทำโทษมาจากขุมที่ 1 ถึงขุมที่ 8 นั้นได้รับการลงทัณฑ์มากพอสมควรแก่โทษฐานแล้ว บรรดาที่ส่งมอบมาให้การเสมอภาคแก่ทุกๆ คน บรรดาที่มีโทษฐานเบากว่าก็จะส่งตรงไปยังจวนหลุนหวังแห่งขุมที่ 10 จัดการให้อย่างเสมอภาคเช่นเดียวกันเป็นการเติบโตโดยธรรมชาติ การที่ให้การเสมอภาคทั่วไปจึงเรียกว่า "เผ่งเต้งอ๊วง"

หยางเซิง :ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ขอเรียนถามอีกว่าท่านยมบาลควบคุมคุกใดที่สำคัญมากที่สุด ?

ยมบาล :ขุมนี้คุมคุกสำคัญคือ "นรกใหญ่อาปี้" (นรกโลกันตร์) และนรกน้อยอีก 16 คุก เพื่อลงโทษพวกวิญญาณโทษหนัก

หยางเซิง :มีคนถามว่าเมื่อตายลงแล้วตกลงในนรก 18 ชั้นนั้น หมายความว่ากระไร ?

ยมบาล :มนุษย์มักชอบพูดหยอกกันว่า "ตายแล้วตกลงนรก 18 ชั้นไปดื่มกาแฟ" นั้น คือหมายถึง "นรกโลกันตร์" ก็เพราะเหตุว่านรกอาปี้นั้นมีถึง 18 ชั้นทะลุถึงใจกลางแห่งธรณี ในนั้นมืดมิดจนมองไม่เห็นนิ้วมือของตัวเอง มีโคลนเลนเต็มไปทุกหนทุกแห่ง ออกสีเป็นสีกาแฟ ท่านคิดจะลองสักแก้วหรือไม่ล่ะ ?

หยางเซิง :ไม่เอาครับ ไม่เอา : ข้าพเจ้าดื่มแต่น้ำชาก็พอแล้ว ไม่คิดที่จะดื่ม "ชานอก" คงจะดื่มไม่ไหวแน่!

ยมบาล :ท่านยังมัวเกรงใจอยู่ได้ เชิญรับประทานผลไม้ทิพย์เถิด

หยางเซิง :ผักเย็นชนิดนี้คล้ายกับผัก "กิ้วจั้งถะ" (ปรางค์ 9 ชั้น) ของเมืองมนุษย์ มีรสหอมอยู่บ้าง และทั้งหวานทั้งเย็นดีกว่าของเมืองมนุษย์เป็นพืชพิเศษของขุมที่ 9 นี้แหละ มีสรรพคุณทางบำรุงไตและกระดูก ทั้งบำรุงทุกส่วนของร่างกายอย่างวิเศษยิ่ง เมื่อท่านรับประทานเข้าไปแล้ว จะเกิดประโยชน์ยิ่งนัก

อรหันต์จี้กง :ฮา! ฮา! ขึ้นพระเจดีย์ 9 ชั้น ให้มาก ลงนรก 18 ชั้นให้น้อยลงจะดีนะ !

ยมบาล :หากท่านทั้งสองไม่รังเกียจ ในการเลี้ยงรับรองอันย่อยๆ ของข้าพเจ้านี้ เมื่อทานเสียให้อิ่มแล้ว แต่ฝุ่นละอองยังจับเกาะเต็มกายอยู่ ณ บัดนี้ข้าพเจ้าจะพาท่านหยางเซิงไปชำระล้างยังที่น้ำตกบาดาล ท่านจะว่าประการใด ?

หยางเซิง :กระผมมีความหวั่นกลัวอยู่บ้าง เชิญท่านอาจารย์ไปพร้อมกับผมด้วยนะครับ!

อรหันต์จี้กง :เอาเถิด ! ไปก็ไป

ยมบาล :ท่านทั้งสองจงตามข้าพเจ้ามา!

หยางเซิง :ขอขอบคุณท่านยมบาลและเทวทูตทั้งหลายที่เป็นไปเพื่อนด้วย หนทางก็สะอาดสดชื่นดี ในแดนนรกจะหาที่สะอาดเรียบเช่นนี้ได้น้อยมาก !

อรหันต์จี้กง :ถนนสายนี้ให้ใช้เฉพาะผู้บำเพ็ญธรรมเท่านั้นและบรรดาเทพที่จะเดินทางไปแดนมนุษย์ เพื่อรับการสืบต่อตำแหน่งเจ้าประจำศาล ล้วนต้องมารับการชะล้างที่นี่ เสร็จแล้วจึงสามารถไปรับการกราบไหว้บูชาจากชาวมนุษย์ วันนี้เป็นโชคของเจ้าที่ได้มายังที่นี้ ให้ได้ลิ้มรสจากสิ่งนี้เสียก่อน เจ้าจงมองดูเทพยดา 3 ท่านเบื้องหน้าซิ ที่มุ่งมายังทางนี้ พวกเขาล้วนได้รับการชะล้างแล้วซึ่งฝุ่นละออง เพื่อจะรับเทวโองการไปดำรงตำแหน่งเจ้ายังแดนมนุษย์!

หยางเซิง :หน้าตาพวกเขายิ้มแย้มแจ่มใส รัศมีเปล่งปลั่งทั่วหน้าทั่วตา!

ยมบาล :ท่านทั้งสองจงรีบเดินเถิด!

หยางเซิง :ข้างหน้ามีภูเขาสูงตระหง่านมากอยู่ลูกหนึ่ง บนนั้นมีต้นไม้เขียวชะอุ่ม ลำน้ำที่ราดลงมาจากภูผา มีลักษณะเหมือนน้ำตกค้ำฟ้า อากาศร้อนอบอู้เช่นนี้ได้อาบน้ำเย็นๆ คงจะชื่นอกชื่นใจเป็นแน่แท้

ยมบาล :ถึงน้ำตกบาดาลแล้วละ

หยางเซิง :จริงๆ ด้วย ข้างผาสูงมีตัวหนังสือสีทองเขียนไว้ว่า "น้ำตกบาดาล" มีลำน้ำ 9 สายราดดิ่งลงสู่พื้นเบื้องล่าง

ยมบาล :ท่านหยางเซิงเตรียมตัวชะล้างฝุ่นละอองได้แล้ว สั่งนายทหารผู้รักษาการณ์ทั้งหลายให้หลบเลี่ยงเสีย !

นายทหาร :ขอรับคำบัญชา

ยมบาล :ท่านหยางเซิง ท่านจงเดินเข้าไปใต้น้ำตก !

หยางเซิง :กำลังของน้ำตกดีเหลือเกิน ข้าพเจ้ามิกล้าเข้าไป ขอเชิญท่านอาจารย์ไปกับผมด้วย

อรหันต์จี้กง :ก็ดีเหมือนกัน 3 ปีแล้ว ข้าฯ มิได้ชำระล้าง (สรง) ร่างกายเลย ถือโอกาสนี้ชำระเสียให้สะอาดสักทีก็ดีเหมือนกันเอาเราไปกันเถิด!

หยางเซิง :เย็นมากจริงๆ ! โอย ! เย็นจนลืมตาไม่ได้

อรหันต์จี้กง :รีบลืมตาเสีย จะได้ล้าง "ทรายในตา" ให้หมดสิ้น

หยางเซิง :เอาเถิดครับ ! มันเย็นสดชื่นเสียจริงๆ แต่ว่าทั่วทั้งกายเปียกปอนไปหมด ทำอย่างไรดีเล่าครับ ?

อรหันต์จี้กง :ไม่เป็นไรน่ะ รอสักครู่ฉันจะใช้พัดนี้โบกให้มันแห้งทันที รีบล้างที่ใต้เท้าด้วย ที่นั้นน้ำท่าไม่สามารถให้ถึงสกปรกที่สุด!

หยางเซิง :ท่านอาจารย์จงอย่าว่าเสียดสีกระผมเสีย ?

อรหันต์จี้กง :ด้านที่ตาของมนุษย์มองไม่เห็นนั้น เป็นด้านที่สกปรกที่สุด เช่น ใต้ฝ่าเท้า ใต้เตียง ใต้โต๊ะล้วนเป็นที่ลับ ถ้าไม่ทำการชะล้างครั้งใหญ่ จะปล่อยให้มันเป็นหมักเป็นเลนอย่างนั้นหรือแล้วจะเหาะเหินเดินอากาศได้อย่างไร !

หยางเซิง :ขอรับ! ขอรับ! ท่านอาจารย์พูดสมเหตุสมผลมาก

อรหันต์จี้กง :เห็นจะพอแล้วละ น้ำ "บาดาล" ชนิดนี้ คือน้ำที่คลายออกจากปากมังกร ฝุ่นละอองจากโลกมนุษย์ เมื่อเจอมันเข้าจะสะอาดหมดจดลงทันที โดยไม่ต้องใช้สบู่ ผงซักฟอกหรือยาชำระล้างแต่อย่างใด มวลมนุษย์ต้องรักษาจิตใจร่างกายให้สะอาด เมื่อตายลงแล้วจึงจะผ่านการตรวจสอบให้ผ่านไปได้ รีบออกมาได้แล้ว การชำระล้างเสร็จสิ้นลงแล้ว!

หยางเซิง :ท่านอาจารย์รีบโบกให้แห้งด้วยเถิด

อรหันต์จี้กง :พัดของฉันเล่มนี้ ดีกว่าเครื่องสกัดน้ำเสียอีก!

หยางเซิง :เสื้อผ้าแห้งแล้วจริงๆ ด้วย ทั้งกายใจรู้สึกสดชื่นยิ่งนัก ขอขอบคุณท่านอาจารย์และท่านยมบาล

ยมบาล :หวังว่าท่านหยางเซิงจงตั้งอกตั้งใจทำงานให้แก่เซี้ยเฮี้ยงตึ้งจงมุมานะยิ่งๆ ขึ้น!

หยางเซิง :ขอรับคำบัญชา ขอท่านยมบาลจงประทานแสงแห่งความผ่องแผ้วให้แก่ข้าพเจ้าด้วย

ยมบาล :เมฆสลายลงแสงปรากฏออกมาแล้ว แม้จะไม่ชำระล้างก็จะสะอาดหมดจดลง เข้าใจไว้ด้วย

อรหันต์จี้กง :เพราะเหตุว่าหมดเวลาลงแล้ว เราขอลาก่อนละ และไม่ขอส่งท่านยมบาลกลับปราสาทด้วย

ยมบาล :ไม่เป็นไรมิได้ สั่งให้ข้าราชการทั้งหลายตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์

หยางเซิง :ข้าพเจ้ารับเกียรติที่ท่านได้ให้การเลี้ยงรับรองและให้อาบน้ำ "บาดาลแห่งมังกร" จะไม่ขอลืมตลอดชาติ ลาก่อนทุกๆ ท่าน

อรหันต์จี้กง :ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว

หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม

0
288

ถนนสู่อริยภูมิ

พระโพธิสัตว์กวนอิม

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

บวบผัดข้าวโพดอ่อน

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago
เล่าจือ

เล่าจือ

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

วงเวียนกรรมของสัตว์โลก ครั้งที่13

สัตว์รู้จักเจ็บปวดรักตัวกลัวตาย เสือช้างยึดป่าเป็นบ้านสำนึกผิด

1654918052.jpg
mindcyber
5 months ago

ประกาศ เลขาตำหนักเง็กเซียนฮ่องเต้ประทับทรง

1654918052.jpg
mindcyber
3 months ago