ครั้งที่ 62 วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2521
ตอน ไปพบปะพระอรหันต์กษิติครรภ์และเที่ยวงานฉลองสมโภช
เนื่องในโอกาสที่หนังสือเล่มนี้ได้เขียนแต่งสิ้นสุดลง
ท่านอรหันต์จี้กเสด็จลงตรัสเป็นกลอนความว่า :
พิรุณทิพย์ คล้องเกสร ลายกนก
ตำนานหยก เกิดมรรคผล ดุจบัวคลี่
คัมภีร์ธรรม เปล่งรัศมี นับหมื่นปี
ทุกวจี ทุกขั้นตอน เสร็จสมบูรณ์
อรหันต์จี้กง :วันนี้เป็นวันแห่งหฤหรรษ์ปิติยินดี ซึ่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" ซึ่งใช้เวลา 2 ปีเต็ม ได้จบลง
ด้วยความสมบูรณ์หนังสืออันล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่งในโลกปัจจุบันเล่มนี้ ได้บรรยายหลักธรรมความจริงของมนุษย์โดยละเอียด บางครั้งอาจมีผู้ใดที่ไม่สู้จะเชื่อถือ แต่ว่าศิษย์ทั้งหลายที่ได้ดูได้เห็นสภาพจริงของการท่องนรกภายใน 2 ปีที่ผ่านมา ประหนึ่งภาพยนตร์ได้ฉายเอาชีวิตจริงประวัติจริงของตัวบุคคลอย่างไรอย่างนั้น ดังนั้นอาตมาจึงหวังว่าชาวโลกทั้งหลาย จงถือคติให้เชื่อว่ามันเป็นความจริง จงอย่าคิดว่าไม่เป็นเรื่องจริง ให้ตระหนักด้วยว่า "การเกิด" นั้นเป็นการเริ่มต้นเพียงจุดเล็กๆ จุดหนึ่งเท่านั้น "ความตาย" จึงจะเป็นการสืบเนื่องโดยไม่มีที่สิ้นสุดและก็เป็นนิมิตก่อนการเกิดด้วย จงอย่าคิดว่าพอตายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจบสิ้นลงเป็นอันขาด ท่านจะเห็นได้จากวิญญาณผีแต่ละกลุ่มล้วนมุ่งไปทางนรกตั้งแต่โบราณมาจนถึงทุกวันนี้ ผู้ที่มีจิตใจซื่อสัตย์กตัญญูมีศีลธรรม ตอนตัวตายลงแล้ว วิญญาณอันผุดผ่องของเขาจึงมุ่งทะยานขึ้นสู่สวรรค์ ทิ้งชื่อเสียงอันหอมหวนผุดผาดให้ชนรุ่งหลังระลึกเทิดทูน เป็นการแสดงออกซึ่งความสัตย์ซื่อ กตัญญูน่าเลื่อมใส แต่พวกที่ผิดต่อหลักธรรมความจริงทำให้เสื่อมเสียในครอบครัวและสังคมแล้ว เมื่อตายลงวิญญาณของมันจะสกปรกโสมมเป็นอย่างยิ่ง มืดมัวหดหู่และตกนรกไปหวังว่าชาวโลกเมื่อได้อ่าน "เที่ยวเมืองนรก" แล้วจะมีอาการคล้ายกับตื่นจากความฝัน อย่าได้หลงใหลในทางหลอกหลอนอันไม่เที่ยงแท้ ซึ่งจะทำให้ยิ่งถลำลึกเข้าไปในปรักแห่งความหายนะจนถึงขั้นที่ไม่สามารถจะกู้ได้ วันนี้เป็นการท่องครั้งสุดท้ายเจ้าหยางเซิงจงตระเตรียมรวบรวมสติกำลังให้ดี จัดแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เตรียมการไปรับรางวัลจากแดนนรก
หยางเซิง :ท่านอาจารย์ครับ กระผมมีความปิติยินดีอย่างยากที่จะกล่าว เราศิษย์อาจารย์ได้แต่งหนังสือตามเทวโองการ ภาระหน้าที่จะได้สิ้นสุดลงอยู่แล้ว และจะได้สบายอกสบายใจกันบ้างละ
อรหันต์นี้กง :ความมานะอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น สวรรค์ท่านไม่ทอดทิ้งผู้มีความอุตสาหะพากเพียรดอก หวังว่าเจ้าจงมานะมุ่งมั่นต่อไป เอ้า ! รีบขึ้นบนดอกบัวเสีย
หยางเซิง :ไฉนดอกบัวช่อนี้จึงใหญ่โตเป็นพิเศษในวันนี้ และยังมีรัศมีเปล่งปลั่งตระกาลตาด้วย
อรหันต์จี้กง :ดอกบัวช่อนี้ได้บริการเราเข้าๆ ออกๆ ระหว่างแดนมนุษย์กับแดนนรกเป็นเวลา 2 ปี จึงฝึกฝนจนแข็งแกร่งเติบใหญ่และเปล่งรัศมีด้วย
หยางเซิง :ความจริงเป็นเช่นนี้เอง ซึ่งเป็นที่พิสดารละเอียดอ่อนยิ่งนัก…
อรหันต์จี้กง :ถึงแล้วละ เจ้าจงลงจากดอกบัวเสีย
หยางเซิง :โอ้โฮ ลานที่อยู่เบื้องหน้านั้นช่างคึกคักสนุกสนานมากดนตรีทิพย์ได้บรรเลงตลอดเวลา มีโต๊ะเลี้ยงอาหารตั้งเต็มลานไปหมด ล้วนทำขึ้นจากหินหยกผู้คนเดินกันขวักไขว่ แต่ละคนไม่เคยได้พบเห็นมาก่อนเลย บ้างก็ใส่เสื้อคลุมแบบศาสนาเต๋า และมีพระภิกษุสามเณร กับที่แต่งกายแบบบัณฑิตชน มิทราบว่าพวกเขามาจากแห่งหนตำบลใด ?
อรหันต์จี้กง :เนื่องจากหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" ที่แต่งขึ้นตามเทวโองการจะสำเร็จลงในเร็วนี้ "จอมศาสดา" ท่านได้จัดเลี้ยง ณ ราชวัง "ตี่ฉั้งเก็ง" (พระราชวังของอรหันต์กษิติครรภ์) เป็นการเลี้ยงฉลองสมโภช วันนี้มีเรา 2 คนเป็นแขกผู้มีเกียรติ เจ้าจงมองดูเทวทูตพระสงฆ์สามเณร บัณฑิตชนและแขกทั้งหลายและท่านพระอรหันต์กษิติครรภ์ได้ออกมาต้อนรับเราแล้ว เจ้าจงรีบเข้าไปความเคารพเถิด
หยางเซิง :ขอแสดงความคารวะต่อท่านพระอรหันต์กษิติครรภ์และเทวทูตทั้งหลาย ข้าฯ ผู้น้อยนายหยางเซิงแห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งเมืองไถ่ตงศิษย์ของท่านพระเจ้ากวนอู ได้ติดตามท่านอาจารย์ท่องนรกแต่งหนังสือตามเทวโองการ ได้รับความกรุณาจากท่านพระอรหันต์กษิติครรภ์ ที่ได้สั่งให้นรกแต่ละขุมให้การร่วมมือช่วยเหลือการเขียนแต่งหนังสือเล่มนี้ บัดนี้ได้สำเร็จลุล่วงลงแล้ว จึงได้ติดตามท่านอาจารย์มาแสดงความขอบคุณต่อท่าน มิบังอาจรบกวนท่านศาสดาจัดเลี้ยงสมโภชน์ถึงขนาดใหญ่โตมโหฬารยิ่งในขณะนี้ รู้สึกหวั่นเกรงเป็นที่ยิ่ง
จอมศาสดา :ท่านหยางเซิงลุกขึ้นเถิด ท่านกับท่านอาจารย์ลำบากตรากตรำมามากแล้วตลอด 2 ปี มาได้บุกบั่นในแดนนรก จิตใจที่มุ่งช่วยชาวโลกนั้น หาได้ยากยิ่ง ข้าพเจ้าจึงได้จัดเลี้ยงเป็นพิเศษขึ้นในวันนี้ เพื่อฉลองการสำเร็จลุล่วงของหนังสือเล่มนี้ขอเชิญท่านอาจารย์และท่านหยางเซิงขึ้นนั่งบนเก้าอี้เถิด
หยางเซิง :หามิได้ขอรับ
อรหันต์จี้กง :วันนี้ท่านจอมศาสดาพระอรหันต์จัดเลี้ยงเราเป็นพิเศษฉันว่ามิควรบ่ายเบี่ยงนะ หมกมุ่น 2 ปีจึงได้เกียรติสูงส่งอันนี้ นั่งลงตามฉันก็แล้วกัน
หยางเซิง : เมื่อท่านอาจารย์ได้นั่งลงแล้ว กระผมก็จะนั่งตาม งานฉลองนี้ผู้คนยิ่งมายิ่งมากขึ้นทุกที ทุกท่านมีรัศมีเปล่งปลั่งบนศีรษะ เชื่อได้ว่าคงบำเพ็ญเพียรมาไม่น้อยทีเดียว
จอมศาสดา :งานเลี้ยงวันนี้เป็นการฉลองหนังสือ "เทียวเมืองนรก" ได้สำเร็จลุล่วงลง เนื่องจากว่านรกนั้นได้รับการยอมรับจากทุกๆ ศาสนาในพิภพ ดังนั้นจึงได้เชื้อเชิญพระศาสดาจากทุกศาสนาไม่ว่าจะเป็นศาสนาบัณฑิต เต๋า พุทธ คริสต์ อิสลาม หรือศาสนาที่ตั้งขึ้นใหม่รวมทั้งสาวกผู้บำเพ็ญธรรมทั้งหลายล้วนได้รับเชิญมาเลี้ยงฉลองด้วย ดังนั้นสวรรค์ทุกชั้นจึงส่งเทวินทร์เทวทูตมาร่วมด้วย พระจอมมารดาแห่งสุขาวดีแดนพุทธเกษตรได้ประทานผลไม้ทิพย์, น้ำอมฤต ให้ด้วยซึ่งเป็นโชคลาภวาสนาของท่าน หยางเซิงแล้ว
หยางเซิง :ขอน้อมขอบพระคุณที่ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแห่งสวรรค์ที่ท่านกรุณาให้ความปรานีแก่ตัวข้าพเจ้า ขณะนี้ดนตรีสวรรค์ได้กระหึ่มขึ้นแล้ว….
จอมศาสดา :ก่อนงานฉลองจะเริ่ม พระศาสดาทุกพระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม) ก็เสด็จมาด้วย
เจ้าแม่กวนอิม :เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบท่านท่านอาจารย์และท่านหยางเซิง
หยางเซิง :ขอน้อมแสดงความเคารพต่อพระมหาโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม
จอมศาสดา :งานฉลองสมโภชจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้ จงบรรเลงเพลงทิพย์…ขอเจริญพรท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายล้วนแต่เป็นผู้สูงเกียรติจากสวรรค์ วันนี้ได้เสด็จมายังยมโลก ทำให้ยมโลกเปล่งปลั่งสว่างไสวขึ้น เนื่องจากสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมืองไถ่ตง มณฑลไต้หวัน ในชมภูทวีป ได้รับเทวโองการจากท่านเง็กเสียงอ๊วงตี่ให้ท่องนรกแต่งหนังสือ เพื่อปลอบเตือนชาวโลกขจัดปัดเป่ากลิ่นไอแห่งความสกปรกโสมม ท่านอาจารย์พระอรหันต์จี้กง ซึ่งมีวิสัยตลกคนองยังความหรรษาชื่นชมแก่ผู้พบเห็น ท่านเลยถือโอกาสนี้ (วิสัยนี้) ทำการช่วยเหลือชาวโลก คำพูดของท่านแต่ละคำแต่ละประโยค จึงคล้ายกับโอสถขนานวิเศษ สามารถที่จะทำให้คนตายแล้วฟื้นคืนชีพขึ้น ดังนั้นท่านเง็กเสียงอ๊วงตี่ จึงได้สั่งให้ทำการนำเที่ยวทั้งนี้ไม่เฉพาะที่จะทำให้สามารถล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ในยมโลก และยังจะทำให้ความจริงแห่งศาสนามีชีวิตชีวาขึ้นด้วย อันจะนับได้ว่าเป็นผู้นำเที่ยวที่ล้ำเลิศสุดวิเศษผู้หนึ่ง ส่วนท่านหยางเซิงซึ่งเป็นนักทรงเอกแห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง ซึ่งมีจิตใจอันผ่องแผ้ว ได้ติดตามท่านจี้กงท่องมาทั่วทั้ง 10 ขุมนรก ได้สร้างกรรมดีที่ปลอบเตือนชาวโลกอย่างใหญ่ยิ่ง วันนี้ หนังสือเล่มนี้ได้แต่งสำเร็จเรียบร้อยลง จึงได้จัดเลี้ยงฉลองเป็นกรณีพิเศษ เพื่อแสดงความชื่นชมยินดี และอันดับต่อมาก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าโลกนี้จะกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด แต่ในแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ทุกๆ ศาสนาต่างไม่มีการกีดกันซึ่งกันและกัน ดังนี้ได้เห็นอยู่ในขณะนี้ แต่ละศาสนิกชนล้วนได้นั่งลงเป็นที่ระเบียบเรียบร้อยมีความสนิทสนมกลมกลืนกัน แสดงออกซึ่งภาพพจน์ที่ปราศจากการเห็นแก่หมู่พวก ข้าพเจ้าจึงหวังในความเข้าใจในหลักธรรมความจริงของมวลมนุษย์ จงฝึกฝนจิตใจบำเพ็ญธรรม ปฏิบัติแนวทางตามศีลธรรมของท่าน ขงจื้อเม่งจื่อ มิเช่นนั้นแล้วจะเป็นการทอดทิ้งความถูกต้อง ทำนองคลองธรรมอันดีงาม และจะเกิดนิสัยป่าเถื่อนขึ้น ไม่เป็นการดีแก่โลกอารยธรรมเลย ธรรมที่ยิ่งใหญ่เมื่อแพร่ออกสู่โลกแล้ว โลกทั้งโลกจะผสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยปราศจากความเหลื่อมล้ำต่ำสูง จากความมั่งคั่งอันน้อยๆ ขยับขยายเป็นความมั่งคั่งอันเป็นปึกแผ่นไปทั่วทั้งโลกา สิ่งนี้แหละคือความสุขของชาวโลกละ เมื่อได้กล่าวถึงตอนนี้ งานเลี้ยงฉลองสมโภชได้เริ่มขึ้น…..
อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเซิงอย่าได้เกรงใจ อาหารเหล่านี้คือน้ำอมฤตและผลไม้ทิพย์ของพระจอมมารดา รับประทานแล้วสามารถช่วยให้มีอายุวัฒนยืนนาน
หยางเซิง :ขอบคุณท่านอาจารย์ กระผมจะไม่เกรงใจอีกแล้ว ถือโอกาสรับประทานสัก 2-3 ผลเลย…
จอมศาสดา :ขอน้อมต้อนรับท่านศาสดาจารย์ ลูซุ่งเอี้ยง ที่ได้อุตส่าห์มาร่วมในงานนี้ด้วย
ศาสดาจารย์ลู :ท่านจอมศาสดาจงอย่าได้แสดงการคารวะมากนักเลย ข้าพเจ้ารับคำบัญชาจากท่านเง็กเสียงอ๊วงตี่ให้นำเอา "หนังสือชมเชย" มามอบให้นายหยางเซิง เพื่อเป็นรางวัลแก่สำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งที่ได้ทการแต่งหนังสือในครั้งนี้
หยางเซิง :ขอกราบขอบคุณท่านพระมหากรุณาธิคุณด้วยเกล้าฯ
จอมศาสดา :ขอเชิญท่านศาสดาจารย์ ลูซุ่งเอี้ยง รับประทานอาหารด้วยขอรับ
ศาสดาจารย์ลู :ขอบใจละ...
จอมศาสดา :เนื่องจากเวลาดึกมากแล้ว ขอได้รับความอภัยในสิ่งขาดตกบกพร่องต่อท่านผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย ท่านอาจารย์จี้กงและท่านหยางเซิง ที่ได้มาร่วมงานนี้ในวันนี้ ข้าพเจ้ามีความปลื้มปิติเป็นที่ยิ่ง สำนักทรงทำการบรรยายพระศาสนา ประกาศธรรมตามแต่โอกาสอำนวยให้ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามความคิดเห็นของสวรรค์ท่าน และปฏิบัติต่อมวลมนุษย์ หนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" เล่มนี้ได้เขียนแต่งสำเร็จลงล้วนได้อาศัยความศักดิ์สิทธิ์ "พู่กันด้ามท้อลิว" อันที่ได้สืบต่อมาจากปราชญ์ผู้เปรื่องปราดในโบราณกาล ชาวโลกจึงควรตระหนักให้ถ่องแท้ในความเมตตาของสวรรค์ท่าน จงประพฤติปฏิบัติตามกฎสวรรค์และจิตใจที่ทรงธรรมเมื่อตายลงแล้วจึงจะมิต้องถูกทำโทษจากนรก 10 ขุม คำว่า "ตี่ฉั้งพ้อสัก" (พระอรหันต์กษิติครรภ์) เป็นการยกย่องในศักดิ์สูงแห่งศาสนาพุทธ แต่ทางศาสนาเต๋าจะใช้คำว่า "ฮงโตวไต่ตี่" (มหากษัตริย์แห่งยมโลก) ดังนั้นนรกจึงมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า "ฮงโตวตี่เง็ก" อันนี้ชาวโลกส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะเข้าใจถึง วันนี้จึงถือโอกาสในวาระที่เที่ยวเมืองนรกได้บรรลุสำเร็จลงนี้ ผนวกไว้ในท้ายหนังสือเพื่อที่จะให้ชาวโลกรับรู้ไว้ด้วย
อรหันต์จี้กง :ดอกบัวช่อนี้กำลังโบยบินอยู่บนอากาศในขณะนี้ ซึ่งเป็นการสำเร็จแห่งมรรคผลจากศิษย์ทั้งหลายของสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง ข้าฯ ไม่มีของขวัญอะไรจะมอบให้ จึงมอบดอกบัวช่อนี้ให้แก่เจ้าอันเป็นของที่ระลึกในการท่องนรกแต่งหนังสือของเราอาจารย์ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา หวังว่าเจ้าจงถนอมรักษาไว้เป็นอย่างดี
หยางเซิง :ขอบคุณท่านอาจารย์ ที่ประทานช่อบัวให้เป็นอย่างยิ่ง และรู้สึกกระดากใจด้วย กระผมจะปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านอาจารย์ และหวังว่าต่อไปนี้ท่านอาจารย์จะให้การชี้แจงแนะนำตามโอกาสอำนวยให้ด้วยนะครับ
อรหันต์จี้กง :พระพุทธท่านได้อยู่ใกล้ตัวของเจ้าเพียงแต่เจ้าจะยึดมั่นในพระธรรมก็จะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้
จอมศาสดา :น้ำอมฤตขวดนี้ขอให้ท่านหยางเซิงช่วยนำกลับไปที่สำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เพื่อให้ศิษย์ทั้งหลายได้ดื่มกันโดยทั่วถึง พวกเขาก็ลำบากมามากเช่นเดียวกัน บรรดาผู้ที่ได้พิมพ์แจก หรือช่วยประกาศบรรยาย "เที่ยวเมืองนรก" เป็นการปลอบเตือนชาวโลกนั้น จะมีเจ้าผู้ตรวจตราทั้งกลางวันและกลางคืนได้ทำการตรวจสอบรายงานให้ทราบ และยมโลกก็ได้จดบันทึกไว้ด้วย สิ่งที่ต้องการที่ตนได้บนไว้ จะต้องได้รับผลสำเร็จตามความปรารถนาทุกอย่าง จึงหวังว่าชาวโลกจงจัดพิมพ์เผยแพร่ให้กว้างขวางยิ่งๆ ขึ้น ผลบุญในการปลอบเตือนจิตใจมวลมนุษย์นั้นจะหาที่สุดมิได้เลย ในวาระสุดท้ายนี้ ขออวยพรให้ผลบุญของศิษย์ทั้งหลายในสำนักจงสำเร็จลงด้วยความสมบูรณ์ สำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งจงเจริญรุ่งเรืองตลอดกาลนานเทอญ
อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเซิง เราเตรียมตัวกลับกันเถิด
หยางเซิง :ขอน้อมกราบขอบพระคุณท่านเง็กเสียงอ๊วงตี่ ท่านจอมศาสดา ท่านอาจารย์ และท่านผู้ทรงธรรมอาวุโสทั้งหลาย ที่ได้ให้การชี้แจงแนะนำ จะไม่ขอลืมจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ขอกราบลาละครับ
จอมศาสดา :ขอเชิญทุกท่านได้โปรดยืนขึ้น เพื่อนมัสการส่งท่านอาจารย์ ท่านหยางเซิงกลับสำนัก
อรหันต์จี้กง :น้ำอมฤตนั้นระวังถือให้ดี อันนี้คือผลที่ได้รับในระยะ 2 ปีนี้แหละ
หยางเซิง :กระผมจะไม่ทำให้หล่อนหายหรอกครับ ได้กุมผลแห่งความสำเร็จนี้ไว้อย่างหนาแน่นแล้ว บัตรชมเชยก็อยู่ในกระเป๋ากระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์ออกเดินทางกลับสำนักได้แล้วครับ
อรหันต์จี้กง :ตรากตรำวุ่นวายเพื่อใครกันหนอ "เขตแดนระหว่างมนุษย์และยมโลก" ประตูผีย่ำผ่านตลอดชั่วแดนนรกยมโลกตลอดระยะ 2 ปี ได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจอย่างไม่อั้น ก็เพื่อจะให้มวลมนุษย์ละความชั่วสร้างความดี บัดนี้ได้สมตามความปรารถนาดีแล้ว ที่เหลืออยู่นั้นเพียงแต่จะเฝ้ามองมวลมนุษย์จะหวนกลับเข้าหาฝั่ง เมื่อแต่งเรื่อง "เที่ยวเมืองนรก" เสร็จสิ้นลงแล้ว ตัวก็สบายท่านจะบำเพ็ญหรือไม่อาตมาไม่เกี่ยว จะตกนรก จะขึ้นสวรรค์ ล้วนขึ้นอยู่กับตัวของท่านเอง สั่งเสียแล้วก็สั่งเสียอีก หวังว่ามวลมนุษย์จะเหมือนดอกบัวที่เติบโตจากตมเลนที่ไม่มีรอยเปื้อนจากตมเลนนั้นเลย ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว
หยางเวิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม