"เที่ยวเมืองนรก"
ครั้งที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2519
ตอนเที่ยวสระน้ำสบายใจ
สู่แดนต่อแดน
ระหว่างมนุษยโลกกับยมโลก
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏตัวตรัสเป็นกลอนความว่า
มณีวาว เดิมสถิต บนสวรรค์
เกิดพลาดพลั้ง สู่ดินดาล เคล้าโคลนตม
ครั้นเห็นแจ้ง ปลงสังขาร ละโสมม
ปัญญาข่ม จิตเปี่ยมท้น สัจธรรม
อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเซิง เตรียมตัวท่องเมืองนรกได้
หยางเซิง :ท่านอาจารย์ครับ วันนี้กระผมได้ไปเมืองเจียงฮ่วยและเพิ่งกลับมา รู้สึกอ่อนเพลีย ใคร่จะขอนอนพัก กระว่าวันหลังค่อยไปนะครับ !
อรหันต์จี้กง :เจ้านะเกียจคร้านมาก ผู้บำเพ็ญธรรมเมื่อตรากตรำลมฟ้าเพียงเล็กน้อยก็เกิดความท้อ แล้วจะหวังบรรลุธรรมได้อย่างไร ?
หยางเซิง :กระผมต้องขอกราบประทานอภัยจากท่านอาจารย์ด้วย กระผมจะเร่งปรุงสติตามท่านอาจารย์ไป
อรหันต์จี้กง : รีบขึ้นบนดอกบัว อย่าเปิดตา… เอาละ ลืมตาได้ลงจากดอกบัวได้แล้ว
หยางเซิง : ท่านอาจารย์ครับ วันนี้ไฉนจึงพาผมมาทางนี้ ตรงข้างหน้ามีบ่อน้ำบ่อใหญ่บ่อหนึ่ง น้ำในบ่อใสสะอาด ไร้คลื่นลมเป็นสีฟ้า และมีตัวหนังสือ ปรากฏความว่า "สระน้ำสบายใจ"
อรหันต์จี้กง :วันก่อนท่องนรก เนื่องจากเจ้าเป็นปุถุชนธรรมดานัยน์ตาสามัญชนจึงมองเห็นสรรพสิ่งได้น้อยมาก วันนี้อาตมาพาเจ้ามายังที่นี้ ต้องการให้เจ้าลงไปในสระน้ำ เพื่อชะล้างสิ่งราคีทำให้ตาสามัญชนกลายเป็นทิพยเนตร จึงสามารถมองทะลุปรุโปร่งในแดนนรก
หยางเซิง :กระผมว่าน้ำในสระใสเย็นจัดมาก และเวลานี้ก็เป็นฤดูใบไม้ร่วง กระผมกลัวความเย็นเกรงจะเป็นหวัด ไม่กล้าลงอาบ
อรหันต์จี้กง :" ท่องนรกแต่กลัวหนาว ! ผลักให้เจ้าลงไปเลย
หยางเซิง :ช่วยด้วย !!!! กระผมว่ายน้ำไม่เป็น อาจารย์ท่านทำให้คนตายแล้ว ! โอย……
อรหันต์จี้กง :ให้เจ้าลงไปแช่สัก 2-3 นาที เพื่อกระตุ้นให้ตื่นขึ้น
นายพลคุมสระ :นมัสการท่านอาจารย์ กระผมขอต้อนรับพระคุณท่าน เมื่อครู่นี้ท่านอาจารย์ผลักปุถุชนผู้หนึ่งลงไปในสระ มิทราบว่าท่านมีความประสงค์อันใด ?
อรหันต์จี้กง :ท่านนายพลหารู้ไม่ว่า ชาวโลกทุกวันนี้ล้วนเมามายลุ่มหลง ราคีเต็มกาย สูญสิ้นไปซึ่งวิญญาณอันผ่องใสปราดเปรื่องแห่งนิสัยดั้งเดิม วันนี้อาตมาผลักปุถุชนผู้นี้ลงไปในสระน้ำ ความหมายก็คือชำระล้างราคีที่เปรอะเปื้อน "มุณีจินดา" เพื่อให้แสงที่เจิดจ้าจรัสขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
นายพลคุมสระ :เช่นนั้นแล้ว กระผมจะรีบช่วยกู้เขาขึ้นมาโดยด่วนมิฉะนั้นหากนานเกินควรอาจช่วยไม่ทัน
อรหันต์จี้กง :เร็วเข้า ! หากว่าจมลงก้นสระก็จะเกิดความยุ่งยากมาก
นายพลคุมสระ :ช่วยขึ้นมาแล้วครับ แต่เขาได้หยุดการหายใจไปแล้วมิทราบว่าท่านจะช่วยเหลือแก้ไขได้ประการใด ?
อรหันต์จี้กง :เรื่องเล็ก เมื่อชะล้างราคีแล้ว ก็ย่อมจะฟื้นคืนชีพได้
อาตมาจะใช้พัดโบกเพียงครั้งเดียวก็จะฟื้นคืนชีพมาทันทีดูอาตมาแสดงอภินิหาร….
นายพลคุมสระ :ลืมตาทั้งสองข้างแล้ว
หยางเซิง :ท่านอาจารย์ไฉนจึงผลักกระผมลงไปในสระ ?
อรหันต์จี้กง :ชาวโลกล้วนแต่ติดนิสัยชอบให้ผลักดัน เออ…. กรุณามากแล้วนะ เหตุผลของเจ้ายังมีอีกมากมายก่ายกอง แต่อาตมาไม่มีอารมณ์ในเรื่องนี้ จึงจำเป็นต้องทำเช่นนั้น
หยางเซิง :ขอขอบพระคุณต่อคำสั่งสอนของท่านอาจารย์ เวลานี้กระผมมีความรู้สึกสดชื่นสบายทั่วร่างกาย ผู้ที่แต่งกายแบบนายพลคือผู้ใด ?
อรหันต์จี้กง :ท่านผู้นี้คือนายพลผู้คุมสระ มีหน้าที่ดูแลรักษาสระน้ำนี้ ผู้ที่มิได้รับคำสั่งจะลงไปอาบไม่ได้ สระน้ำนี้คือบ่อน้ำทิพย์ นอกจากเทวดาสามแดนลงสรงได้แล้ว บุคคลอื่นๆ ล้วนห้ามลงอาบ วันนี้เจ้ามีบุญแล้วละ
นายพลคุมสระ :วันนี้ท่านอาจารย์ปุถุชนผู้นี้มายังที่นี้ มิทราบว่ามีธุระปะปังประการใด ?
อรหันต์จี้กง :เพราะเหตุว่าเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง ในเมืองไถ่ตง แห่งโลกมนุษย์ได้รับเทวโองการให้แต่งหนังสือเรื่อง "เที่ยวเมืองนรก" ให้ฉันพาหยางเซิงผู้นี้มาท่องยมโลก เพราะเหตุยังไม่สิ้นกลิ่นไอแห่งปุถุชนยากแก่การมองทะลุปรุโปร่งในเมืองนรก ก็เลยพามาชะล้างนัยน์ตาในสระน้ำสบายใจ เพื่อที่สะดวกในการท่องชม
นายพลคุมสระ :ขอประทานโทษ ! ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง
อรหันต์จี้กง :เวลาไม่คอยท่า เราศิษย์อาจารย์จะรีบไปท่องเมืองนรก ลาก่อนท่านนายพล เจ้า หยางเซิงรีบขึ้นบนดอกบัวเสีย
หยางเซิง :ขณะนี้เราไปทางใดครับ ท่านอาจารย์ ?
อรหันต์จี้กง :ไม่ต้องถาม เมื่อถึงที่แล้วจะรู้เอง รีบปิดตาทั้งสองข้าง…..ลืมตาได้ ลงจากดอกบัวได้
หยางเซิง :ถนนสายนี้ทำไมไม่ราดยางมะตอย พายุทรายฟุ้งเต็มท้องฟ้า ทำให้เดินกะโผลกกะเผลก
อรหันต์จี้กง :นี่แหละคือ แดนต่อแดนระหว่างมนุษย์กับผี
หยางเซิง :โอ้โฮ !! ทางโน้นมีคนมาเยอะแยะ ล้วนแต่ร้องห่มร้องไห้กะจองอแง !
อรหันต์จี้กง :นั่นคือวิญญาณของคนที่ตายแล้ว พึ่งมาถึงเมืองนรก
หยางเซิง :ข้างหน้ามีหอสูง มีตัวอักษรว่า "แดนต่อแดนระหว่างมนุษยโลกกับยมโลก" ที่นี่เป็นแห่งหนตำบลใด ?
อรหันต์จี้กง :นี่แหละคือ แดนต่อแดนแห่งมนุษยโลกกับยมโลก
หยางเซิง :ข้างหน้ามีตึกแถวสองตึก เราไปเยี่ยมชมกันเถิด
อรหันต์จี้กง :ได้ รีบไปกัน
หยางเซิง :ตึกเหล่านี้ล้วนเขียนว่า "กรมทะเบียน" แบ่งเป็นแผนกที่ 1 ที่ 2 ประมาณสิบกว่าห้อง
อรหันต์จี้กง :เราไปสังสรรค์เยี่ยมชมเถิด
อธิบดีกรมทะเบียน :ขอต้อนรับท่านอาจารย์กับคุณหยางเซิงผูทรงเอก แห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง จากเมืองไถ่ตงที่มาเยี่ยมเยือนในวันที่ 15 เดือน 8 ได้รับพระบรมราชโองการจากท่านเง็กเสียงอ๊วงตี่ ทราบว่าสำนักท่านจะแต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" และจะมาสำรวจเที่ยวชมราบละเอียด
อรหันต์จี้กง :: เพราะเวลาหมดลงแล้ว วันอื่นค่อยมาเยี่ยมชมกันใหม่
อธิบดีกรมทะเบียน :ได้ครับ เชิญขอรับ
อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเซิง เราเตรียมกลับสำนักเถิด ออกไปขึ้นดอกบัว ปิดตาทั้งสองข้าง
หยางเซิง :ขอรับ กระผม……
อรหันต์จี้กง :ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว
หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม