มนุษย์ถ้ารู้จักใช้ปัญญา รู้จักความหมายของปัญญา และรู้แจ้งถึงคำว่าปัญญาในจิตใจมนุษย์ก็จะสามารถพบกับคำว่า ที่สุดแห่งทุกข์ได้แต่ถ้าเมื่อไรมนุษย์ยังไม่สามารถเข้าใจรู้แจ่มแจ้งในปัญญาเดิมแท้ของตนตราบนั้นมนุษย์ก็ยังต้องมีความทุกข์ไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น แล้วปัญญาคืออะไร พูดง่ายๆ ปัญญาคือความรู้จริง เห็นชัดในสรรพสิ่ง นั่นคือรู้แล้วชัด ชัดแล้วกว้างขวางด้วย มนุษย์ทุกคนต่างมีปัญญาที่จะรู้แจ้งเห็นจริงในตัวตนของตัวเอง แต่เพราะความมืดบอด ความลุ่มหลง ความยึดมั่น และเพราะความกังขาลังเล จึงทำให้เราไม่สามารถเห็นแจ้งถ่องแท้ถึงปัญญาในตนได้ ถ้าเราสามารถค้นพบปัญญาที่แท้จริงได้ทุกขณะใช้ปัญญา เราก็จะสามารถพ้นจากความทุกข์ได้ แล้วปัญญาจริงๆที่นอกจากรู้แจ้งเห็นชัดแล้วคืออะไรถ้าพูดเป็นภาษามนุษย์นั่นก็คือ การรักษาจิตใจให้หลุดพ้นจากการผูกมัดของอารมณ์ กิเลส ตัณหา มาผูกมัด มาชักจูง มาครอบงำ หากทุกขณะจิตมีความว่าง ไม่มีอะไรมาเคลือบแฝง การกระทำก็เป็นไปด้วยการกระทำอย่างคนมีปัญญา พูดให้ง่ายๆ เข้าไปอีกก็คือ ยอมรับความจริงของโลก ง่ายไหม แต่ในสภาวะเป็นจริง ปัญญาเรายอมรับความเป็นจริงของโลกไหม ไม่ค่อยยอมรับ แถมบางทียังกำหนดให้สิ่งที่เห็นนั้นต้องเป็นอีกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งที่เห็นพูดให้ง่ายเข้าไปอีกปัญหาที่แท้จริงคือ ยอมรับโดยการที่รู้ว่าโลกใบนี้มีขาวมีดำ มีมืดมีสว่าง ปัญญาที่แยกแยะได้ว่า อะไรเรียกว่าขาวอะไรเรียกว่าดำ แต่ในขณะจิต ทั้งขาวและดำก็สามารถมองเป็นหนึ่งเดียวได้ ฟังแล้วยากไหม พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ว่าข่าวไม่ว่าดำ ไม่ว่าดีหรือร้าย สามารถวางและดำรงชีวิตอยู่ตรงกลาง ไม่ติดในความดีจนเกินไปไม่ปล่อยให้ตัวเองชั่วร้ายจนเกินไป เป็นคนครึ่งดีครึ่งร้ายใช่ไหม หรือพูดให้ง่ายๆ เข้าไปอีกก็คือ ปัญญาที่จะทำให้เรารู้แจ้งเห็นชัดเกี่ยวกับสรรพชีวิต แล้วก็ย้อนกลับมามองตัวเองได้ นั่นก็คือ ปัญญาที่ยอมรับว่า เราคือหนึ่งในอากาศธาตุ แท้จริงแล้วมนุษย์คือหนึ่งในอากาศธาตุ ที่พอเคลื่อนไหวก็เกิดพลังงาน แต่พอหยุดนิ่งก็คือ ความว่างเปล่า แต่ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ คำว่าวุ่นวายก็ยังต้องพบเจอถูกไหม ก็ยังไม่มีใครเห็นแจ้งถึงปัญญาตามที่อาจารย์พูดได้สักคนเลย รู้สึกว่าปัญญาเป็นเรื่องยากไหม พระอาจารย์จี้กง พุทธสถานหงเต้า จ.เชียงราย 6 มิถุนายน 2547