ทิก๋วยลี้ เดิมแซ่หลี่ ชื่อเหียน เกิดในยุคชุนชิว เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ สติปัญญาเฉลียวฉลาด ไม่ชอบทำมาหากินหรือมีครอบครัวเหมือนชาวบ้าน ชอบทางบำเพ็ญตบะถือศีลกินเจ มีความคิดเห็นว่าอำนาจวาสนา ลาภ ยศ สรรเสริญ สมบัติพัสถาน ล้วนเป็นภาพมายาดุจดังเมฆหมอกที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ ไม่นานก็จางหายไป เมื่อหลี่เหียนพิจารณาเห็นสัจธรรมเช่นนี้ จึงตัดสินใจสละทางโลก อำลาญาติมิตรไปบำเพ็ญพรตอยู่ในถ้ำจนสามารถถอดกายทิพย์และจิตวิญญาณออกจากร่าง
วันหนึ่งมีนัดต้องไปเข้าเฝ้าลีเลากุน ผู้เป็นอาจารย์ที่เขาหัวซัน จึงฝากลูกศิษย์ให้ดูแลร่าง โดยบอกว่าเราจะไปแต่กายทิพย์ ส่วนร่างจะทิ้งไว้ที่นี่ ถ้าเกิน 7 วันเรายังไม่กลับมาก็ให้เผาร่างได้เลย เมื่อทิก๋วยลี้ไปแล้ว คนทางบ้านของลูกศิษย์มาส่งข่าวว่ามารดาป่วยหนักต้องรีบกลับบ้าน ไม่สามารถเฝ้าร่างอาจารย์ได้ จึงนำร่างไปเผาในวันที่ 6 ทิก๋วยลี้กลับมาในวันที่ 7 หาไม่พบลูกศิษย์และไม่เห็นร่างของตน จึงไปเข้าร่างขอทานขาพิการที่เพิ่งเสียชีวิต ความจริงหน้าตาของทิก๋วยลี้ไม่น่าเกลียดเช่นนี้ เนื่องจากร่างใหม่ขาพิการข้างหนึ่ง เวลาเดินจึงต้องใช้ไม้เท้าเหล็กค้ำ คนจึงเรียกเขาว่า ทิก๋วยลี้