นรกขุมที่สอง
ยมบาลฉอกังอ๋อง
แท่นบัลลังก์สองกราบอ๋องฉอกัง วิญญาณผีผ่านถึงห้องโถงนี้
พนักงานตรวจบัญชีกรรมดีชั่ว ลงโทษหรือรางวัลตามดีชั่ว
ใครว่านรกไม่เคยเห็น เผยปรากฏชัดแจ้งหาใช่มายา
วิญญาณผีหมื่นแสนยืนกับที่ ร้องขอแก้ไข้ความผิดโปรดเมตตา
วิญญาณผีหวาดผวาเห็นยมบาล ปากพร่ำความผิดตอนมีชีวิต
บ้างข่มเหงคนดีค้ากาม ค้าขายจิตวิญญาณ
บ้างค้าขายยาเสพติด เร่ขายถูกจับ
บ้างพูดจากหลอกลวง หลอกลวงเงินทอง
บ้างชอบเที่ยวโสเภณี เสพกามจนตาย
บ้างหาคนมาลงแชร์ แล้วล้มแชร์หลบหนี
บ้างใจชั่วคดโกง เข้าหุ้นค้าขาย
บ้างข้าราชการเบียดบัง อ้างกฎหมายไม่ผิด
บ้างรับสินบน เข้าข่ายกฎหมาย
บ้างรับจ้างปลูกบ้าน กินแรงกินวัสดุก่อสร้าง
บ้างรับจ้างค้าความ ต้มตุ๋นเป็นแก๊ง
วิญญาณผีเหล่านี้ เล่าความโอดโอย..
คิดถึงตอนมีชีวิตครอบครัวร่ำรวย ตบแต่งหรูหรา มาถึงตอนนี้อยู่ในยมโลก ทุกคนตกสู่บ่ออุจจาระ สกปรกทั้งตัว ฝันมาถึงนรกขุมสอง ทันใดก็ได้ยินพระพุทธจี้กงร้องว่า
“เสียงเพลงทำนองสูงรับลมวสันต์ บิดเอวแกว่งขาเท้าเหยียบหนอน สภาพโลกทันสมัยทางมืดเยอะ ผีนรกตกสู่ตะข่ายทั้งหมด”
กราบลาท่านอ๋องฉอกัง..
คนค้าขายส่วนใหญ่ กินอยู่อุดมสมบูรณ์ ใช้เงินเป็นปึกๆ แต่กับขอทานหรือคนยากจนไม่มีใจสสงสารเลยสักนิด ต้องตกนรกขุมนี้
พวกเฒ่าแก่โรงงาน พอกำไรงาม กินเที่ยวเมาหยำเปล แต่กับพวกพนักงานให้สวัสดิการน้อยนิดหรือพวกรับเหมาก่อสร้างพอร่ำราวยมักมีเมียเก็บ แต่กับลูกเมีย กลับไม่มีน้ำใจ ต้องตกสู่ขุมนี้
กราบลาอ๋องฉอกัง
วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ชายหญิงชอบเต้นชอบดิ้น ชายก็หลงใหลหญิงไม่ทำงานทำการ หญิงสาวแต่งตัวยั่วยวน ยอมให้เขากอดจูบเสพกามไม่เลือก ทำลายวัฒนธรรม
ดังนั้น จึงสร้างฟอร์เต้นรำในนรก เพื่อให้วิญญาณผีพวกนี้เต้นรำบนฟอร์เหล็ก ข้างใต้มีไฟเผาฟอร์ให้ร้อนแรง เพื่อให้เต้นเร็วที่สุดเต้นจนเท้าฟอง บวมเป็นเนื้อปูด
กราบลาแล้วท่านอ๋องฉอกัง
พวกหญิงต้อนรับแขก เปลือยเปล่ากรอกเหล้าแขกไมรู้จักละอายไม่กลัวหนาวเย็น
ยามมีชีวิตไม่ชอบใส่เสื้อผ้า ตายแล้วถอดให้เกลี้ยง พาพวกนางเข้าไปในห้องนรกน้ำแข็ง ให้นางหนาวจับใจจนมือไม้ไม้แข็งหมด
อย่าคบคนพาล
บันไดขั้นแรก ที่จะก้าวขึ้นไปสู่ความสุขนั้น จะต้องตั้งต้นกันที่ “การไม่คบคนพาล” ให้ได้เสียก...
