พระโพธิสัตว์กวนอิม
กลอนนำเสด็จ
อาตมาใจเมตตาทุกแห่งหน กาลกำหนดหน้าตำหนักโปรดทั่วทิศ
หวังศิษยารู้จักทางมุ่งประชิด ลุถึงฝั่งเปลี่ยนแดนพิษสู่อริยภูมิ
ศิษย์เรียนธรรมฝึกนาใจใคร่ครวญคิด บำเพ็ญจิตได้ชีวิตเลิศสกล
อริยในวัชรนอกเป็นมรรคผล เทพกมลโปรดธรรมสู่ธรรมชาติ
ธรรมกถา : เรียนธรรมฝึกกายอบรมจิตเพื่อมุ่งทางเทพพุทธ
ธรรม คือหลัก เป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถประจักษ์รู้โดยเข้าสู่ภายในองค์ธรรมแล้ว สำแดงออกสู่ภายนอก แม้การสำแดงจะมีการแปรเปลี่ยนแต่ก็เป็นปกติ ดังนั้นจึงเป็นกฏเกณฑ์ ในการติดต่อของเรื่องราวต่าง ๆ กับข้อกำหนดการประพฤติของชีวิตมนุษย์ด้วย
ธรรม ต้องย้อนมองสู่ภายใน ส่วนคุณธรรมต้องให้เจริญสู่ภายนอก พวกชาวโลกสามารถเข้าใจในหลักธรรมนนี้ จะทำให้ก่อเกิดการกระทำที่ถูกต้อง ขณะสงบก็สืบต่อฟ้าอันสูงสุด ขณะเคลื่อนไหวก็เป็นการเผยแผ่ธรรมแห่งฟ้า นี่คือหลักวิสัยดั้งเดิมของมนุษย์ เพราะได้รับความล้ำเลิศที่ฟ้าประทานให้ ดังนั้น ควรอิงคุณธรรมนำไปปฏิบัติ มุ่งสู่ถนนที่ถูกต้องสว่างไสวของสวรรค์ จึงให้รู้สึกตัวโดยเร็วแล้วเรียนธรรมกัน
การอบรมจิตบำเพ็ญตนเป็นหลักใหญ่ของคน มีใจซื่อตรงและจริงใจเป็นพื้นฐานของคน ทั้งนี้เพราะเป็นหลักจิตแห่งฟ้าปางก่อน
พุทธพจน์ : “สู่โลกมนุษย์กำเนิดขึ้น จากโลกคืนสู่ความว่าง” เมื่อชีวิตเกิดมามีใครบ้างที่ไม่คาดหวังเจริญร่ำรวยและรุ่งโรจน์ การร่ำรวยรุ่งโรจน์อยู่ที่ชะตาชีวิต ชะตาชีวิตอยู่ที่การบำเพ็ญสั่งสม เมื่อชีวิตตายมีใครบ้างที่ไม่คาดหวังจะสำเร็จเป็นปราชญ์อริยะ การสำเร็จเป็นเทพพุทธอยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่มีสติเชื่อมั่น เพราะฉะนั้น อยู่กับเต๋าต้องการสำเร็จเป็นเทพต้องมุ่งติดตามใจ อยู่กับหยู้ (ขงจื่อ) ต้องการสำเร็จเป็นปราชญ์อริยะต้องมีใจมีอยู่ อยู่กับศากยะ (พุทธ) ต้องการสำเร็จพุทธะต้องใจมีสติ การบำเพ็ญชะตาชีวิตก็โดยมุ่งผลการตอบสนองด้วยเสวยบุญ และอายุวัฒนะ
บ่อกำเนิดของธรรมแห่งฟ้า แล้วฟ้าละเป็นอย่างไร ก็เป็นหลักธรรมเท่านั้น หลักธรรมละเป็นอย่างไร ก็เป็นใจเท่านั้น ใจละเป็นอย่างไร ธรรมชาติของใจเป็นความดี (กุศล) ตั้งแต่มีคนเกิดมา บรรยากาศให้สำเร็จเป็นรูปลักษณ์ โดยประทานหลักธรรมมาด้วย อยู่บนฟ้าก็เป็นบรรยากาศของธาตุทั้งห้า ดิน น้ำ ลม ไฟ และทอง อยู่บนปฐพี ก็เป็นเนื้อแม้ของธาตุทั้งห้า สิ่งที่ออกไปจากใจก็เป็นคุณธรรมอันได้แก่ ความเมตตา ความซื่อสัตย์ ความมีมารยาท ความมีปัญญา และความเชื่อถือ อันเป็นมรรคแห่งการรักษาโลก คือมรรคาแห่งมนุษยสัมพันธ์ ด้วยเหตุนี้ คนที่ฝึกเรียนธรรม ควรศึกษาให้ลึกซึ้งในคัมภีร์พระสูตรต่าง ๆ ของเทพพุทธ ค้นคว้าความแยบยลของหลักธรรม ให้เป็นแนวแห่งหลักฐาน การแสวงหาวิถีแห่งใจ คือการข่มตนหวนคืนสู่มารยาท ฟื้นฟูจิตหวนคือนสู่แรกเริ่ม เอาคุณธรรมเป็นหลัก เอาธรรมเป็นองค์บูชา ให้เจรจาชอบเป็นนิจ ไม่มีต้นน้ำก็ไม่มีสายน้ำ ไม่มีรากก็ยากที่จะมีต้นไม้ ถ้าอยู่ในโลกโดยปราศจากบุญกุศล ก็ยากที่จะได้นั่งบนพุทธอาสน์ ต้องมีควมมเต็มสมบูรณ์ของบารมี จึงจะสามารถหลุดพ้นโลกได้ ก็พ้นจากคาดเคราะห์นับกัปนับกัลป์
ถูกแล้ว การฝึกเรียนธรรมต้องบำเพ็ญทั้งใจและชีวิต ใจก็คือจิต ชีวิตก็คือลมปราณ การบำเพ็ญทั้งคู่นั้นก็คือการบำเพ็ญให้จิตกับปราณรวมเป็นหนึ่งเดียว เมื่อจิตเข้ม ปราณก็แกร่ง เมื่อปราณผนึกจิตก็ไว ถ้าจิตไม่มีชีวิตก็ตั้งอยู่ไม่ได้ จิตคือจิตเดิมแห่งฟ้าปางก่อน ชีวิตคือชะตาชีวิตแห่งฟ้าปางหลัง หากต้องการเห็นจิตเดิมก็ให้บำเพ็ญกาย และรักษาความสงบให้เป็นหนึ่งเป็นมูลกำเนิดเดิมของเต๋า เมื่อใจตรงการกกระทำก็ย่อมตรง ศาสนาทั้งสามแม้จะต่างกันแต่หลักธรรมเหมือนกัน ผู้ยึดสายกลางเป็นหนึ่งแทงตลอด สยบคนให้อบรมจิต พุทธว่า ธรรมทั้งหลายธรรมเป็นหนึ่งสอนคนให้เห็นจิต เต๋าว่ารักษาหนึ่ง สอนคนให้ฝึกจิต ดั้งนั้น จึงไม่ให้แยกศาสนาให้คล้อยตามหลักธรรมปฏิบัติไป เรียนไป ปฏิบัติไปนี่แหละคือมหาธรรม
ตั้งแต่สมัยโบราณมา ผู้เรียนมหาธรรม มีมากมายนับไม่ถ้วน ผู้สำเร็จธรรมทำไมจึงน้อย เหตุสำคัญก็เพราะไม่มีทางเข้าใจสัจธรรมได้อย่างแท้จริง และใจไม่แน่วแน่บำเพ็ญจริง เนื่องจากธรรมนั้นต้องให้ใจไปประจักษ์แจ้งลุถึงเอง หลักธรรมอยู่ที่ใจประจักษ์รู้อย่างสมบูรณ์ นอกไปจากนี้ก็ยากที่จะเข้าสู่ธรรมได้ ใจเป็นนายของกายใจฟุ้งซ่านก็วุ่นวาย จิตใจฟุ้งซ่าน กายก็ขาดนาย ก็จะออกนอกลู่นอกทาง หากรักษาใจให้สงบและตรง จิตมีสมาธิ กายใจก็เป็นสุขสันติ ธรรมะก็กระจ่าง ฝึกธรรมบำเพ็ญสัจจะก็จะง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ดังนั้น การบำเพ็ญเพียร ควรรักษาใจให้สงบก็จะแทงทะลุ มิฉะนั้นแล้ว ถึงแม้มีคัมภีร์มากมายก็ยากที่จะเข้าสู่หลักสัจธรรมได้
ธรรมเป็นนามที่ตั้งให้แก่หลักธรรม หลักธรรมใหญ่โดยหาขอบเขตไม่ได้ เมื่อปล่อยวางก็คลุมทั่ว เมื่อเก็บซ่อนเร้นก็ไม่เห็นไม่มีอะไรที่ไม่ครอบคลุม ไม่มีอะไรที่ไม่แทงทะลุ ธรรมไม่มีรูปลักษณะ ไม่มีร่องรอยแม้แต่เงา ธรรมนี้ถ้าอยู่ที่ฟ้าก็เรียกธรรมแห่งฟ้า ธรรมนี้ถ้าอยู่ที่ดินก็เรียกธรรมแห่งดิน ธรรมนี้ถ้าอยู่ที่คนก็เป็นมนุษยธรรม
อาตมาบรรยายในคืนนี้ หวังว่าชาวโลกจะสามารถเข้าใจได้ อย่าได้หลงไหลกับโลกอันสวยงามที่จอมปลอม อย่าได้โลภกับความรุ่งโรจน์อันโสมม ให้เบื่อหน่ายในอารมณ์โลก รีบละความสัมพันธ์ทางโลก ละทิ้งเกียรติยศ เมื่อร่ำรวยก็ควรถนอมบุญเอาไว้ บริจาคให้แก่ผู้ยากไร้ คนที่ยากจนก็ให้รู้ว่าเป็นเหตุแต่ชาติก่อน ให้รอดวงชะตา มีหลักธรรมไว้ รักษาใจมีกายสงบ ไม่ทำสิ่งผิดศีลธรรม สอนลูกหลานให้มีมนุษยธรรม มีสุขตามมนุษยสัมพันธ์ พ่อมีเมตตา ลูกก็กตัญญู กายก็บำเพ็ญอริยมรรค ก็จะสามารถว่างใจพบจิตได้ ก็จะทำให้จิตไว บ่มเลี้ยงดวงวิญญาณมีความสงบเงียบตลอดเวลา ให้ยืนติดดิน เพ่งฌานสว่างธรรม ดั่งตะวันจันทราที่สว่าง ใสสะอาดดุจน้ำ ก็จะคืนสู่ปราชญ์เทพพุทธเอย