อันว่าน้ำมีแตกต่างกันทั้งน้ำเป็นและน้ำนิ่ง น้ำเป็นก็จะไหลยาวไม่หยุดมีน้ำขึ้นมีน้ำลง มีต้นน้ำไหลไกลไม่หยุด ดังนั้นรสชาติของน้ำจึงไม่เปลี่ยน อาทิ เช่นน้ำของแม่น้ำลำคลอง จึงไม่แห้งเหือด แรงปะทะก็รุนแรงทุกแห่งที่มันไหลผ่าน พุ่งชนภูเขาหินผา นานวันเข้าย่อมแยกแตกเป็นร่องน้ำ พลังแรงสุดประมาณแต่น้ำนิ่งไม่ขยับไม่มีต้นน้ำ ที่สุดก็แห้งเหือด นี่คือความแตกต่างกันระหว่างน้ำเป็นและน้ำนิ่ง
ทำไมน้ำเป็นจึงไม่แห้งเหือด แต่น้ำนิ่งแห้งเหือดเล่า? หลักตรรรกวิทยากล่าวว่า “เรื่องต่างๆ มีไหลออกแล้วก็ไหลเข้า” อาทิเช่น ถ้วยที่มีน้ำเต็มถ้วยที่มีน้ำเต็มก็เติมน้ำลงไปไม่ได้ จำเป็นต้องใช้ไปก่อนจึงจะเติมน้ำลงไปได้น้ำในแม่น้ำลำคลองไหลไปไม่หยุด จึงต้องมีน้ำเพิ่มเข้าไป ดังนั้นจึงไม่แห้งเหือด การศึกษาพุทธธรรมก็เช่นเดียวกัน สิ่งที่เรียนต้องทำความเข้าใจไม่หยุดและไม่หยุดที่จะเข้าถึงจึงจะรับรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อีก หากสิ่งที่ได้มาเก็บซ่อนไว้ไม่ขยับเขยื้อน ก็เหมือนน้ำนิ่ง นานวันเข้าก็ต้องแห้งเหือดเป็นแน่