โองการฟ้าขัดขืนไม่ได้

ฮุ้งเทียน

โบราณว่า “เรื่องทั้งหลายคนควบคุมไม่ได้” “ลำบากที่ใจจะแย่งชิงกับดวงชะตา” สิ่งที่คนคาดหวังและไม่อาจเอาได้มีมากมายเกินกว่าจะนับได้หมด เรื่องที่เกินแรงของมนุษย์จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากแรงของพระเจ้า หลายคนที่อ้อนวอนขอให้พระเจ้าหรือพุทธะช่วยเหลือ จากเหนือสุดที่พระราชาอ้อนวอน ขอให้ประชาอยู่เย็นเป็นสุข มาสู่เบื้องล่างที่เหล่าประชานิกรอ้อนวอนขอบุตร ขอความร่ำรวย อาจพูดได้ว่าทุกเรื่องล้วนพึ่งพาการอ้อนวอนทั้งนั้น อย่างเช่นการขอบุตร ขอหลาน ขออายุ ขอฝน ขอฟ้าแจ้ง ขอล่วงรู้ ขอเรื่อง ขอบุญ ขอความสงบสุข ขอไปเสียทุกสิ่งอย่างที่เกินเลยแรงมนุษย์ก็หันไปขอจากพระเจ้า ที่ผ่านมาก็ขอดะไปเสียทุกอย่าง แต่จุดมุ่งหมายการขอพระเจ้าก็เพื่อให้สมหวังจึงอ้อนวอนพระเจ้า แต่ทว่าการเกิดการตายสุดแท้แต่ดวงชะตา ร่ำรวย มีเกียรติอยู่ที่ฟ้า มีคำพูดว่า “ฟ้าไม่โป้ปด เวลาชะตาไม่ตามใจคน” หมายความว่า ความร่ำรวย ยากจน มีอายุยาวหรือสั้น ล้วนอยู่ในกำมือฟ้า ทุกอย่างสุดแต่ฟ้าจะจัดแจง ถ้าฟ้าจะให้ใครตาย ใครก็ไม่อาจหลีกหลบได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเวลาไหน ไม่ต้องถามว่าเขาจะใหญ่โตหรืออำนาจบาทใหญ่เป็นคนที่นิยมกันก็ตาม ไม่ต้องถามว่าเขาจะร่ำรวยมหาศาลเพียงใด แต่เมื่อฟ้าต้องการเขากลับไป จะรอช้ายืดเยื้อแม้แต่นาทีเดียวก็ไม่ได้

สมัยสามก๊ก ท่านจูกว๊อ แม่ทัพผู้ควบคุมทหารนับหมื่น ท่านเป็นผู้ตรวจงานด้วยตนเองทุก ๆอย่าง ด้วยเหตุนี้จึงอดหลับอดนอนแม้แต่อาหารก็รับประทานน้อย พลทหารทำผิดก็จะลงโทษตีกันหลายที ท่านต้องตรวจตราด้วยตนเองเสมอ เพราะฉะนั้นตลอดวันจึงไม่ได้พักร่างกายต้องตรากตรำมาก ในที่สุดร่างกายก็ทรุดโทรมลงจนเจ็บป่วยถึงกับอาเจียนเป็นโลหิต เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านนายพลก็รู้ตัวว่า ชีวิตต้องกลับคืนไปแล้ว ด้วยที่เขาเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์และได้รับการฝากฝังจากฮ่องเต้เล่าเจียงให้เขาฟื้นฟูจีน จึงมีความผูกพันกับภาระหน้าที่ เขารู้สึกเศร้าเสียใจจนน้ำตาไหล เพราะขณะนั้นเขาเป็นเสาหลักของประเทศ ในขณะที่ประเทศชาติกำลังตกอยู่ในอันตรายยิ่งการยังอยู่ในกำมือของเขา เมื่อภาระรับผิดชอบยังไม่ประสบความสำเร็จเช่นนี้แล้วเขาจะคืนกลับได้อย่างไร เพียงเขาต้องการอยู่ต่อเพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จ เขาต้องการหวังมีชีวิตอยู่ต่ออีกระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงตั้งเครื่องเซ่นสรวงฟ้า โดยมีดอกไม้ธูปเทียนและผลไม้จัดตั้งไว้ภายในม่าน แล้วก็ภาวนาอ้อนวอนว่า “กราบเรียนพระเจ้าเบื้องบนโปรดประทานเมตตา โปรดรับฟังคำขอให้ช่วยยืดชีวิตเพื่อตอบแทนพระคุณองค์ราชัน ฉุดช่วยปวงประชา” แล้วก็จุดประทีปดาวเคราะห์ต่อดวงชะตาขึ้น เพื่ออนาคตของประเทศชาติ จึงทำพิธีขอต่ออายุ แต่ให้พอดีมีนายทหารไก้ฮั้งอุ้ย เข้ามาในม่านเพื่อรายงานสภาพการทหารก็ทำให้ประทีปดาวเคราะห์ต่อดวงชะตาดับลง นายพลก็รู้ได้ด้วยตนเองว่า ต่อดวงชะตาไม่ได้ แต่ก่อนตายก็ยังวางแผนการถอยทพของซือหม่าอี้ไว้ให้ด้วย จะเห็นได้ว่า การตายการอยู่ของมนุษย์มีกำหนด

พูดถึงชาวนา เพื่อให้ได้ผลเก็บเกี่ยวดี ก็หวังให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล แต่บางครั้งฟ้าก็ไม่เห็นใจ บางครั้งก็แห้งแล้งนาน บางครั้งก็เกิดฝนมากน้ำท่วม ถึงตอนนั้นประชาชนก็ร้อนรนเหมือนถูกไฟลวก ไม่มีหนทางใดที่คิดได้ ก็ต้องไหว้พระร้องขอต่อพระเจ้าให้โปรดเมตตาให้ฉุดช่วย ในสมัยบุพกาลสมัยราชวงศ์ซ้ง ฮ่องเต้ถังตี้ เกิดภาวะฝนแล้งติดต่อกัน 5 ปี แม้แต่น้ำในแม่น้ำก็แห้งหมด ธัญพืชก็สูญเสียประชาชนก็ไม่มีอะไรจะรับประทาน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปประชาชนต้องอดตายกันหมด ฮ่องเต้ถังตี้จึงเข้าไปในป่า แล้วภาวนาร้องขอต่อพระเจ้าว่า “ประชาชนไม่มีบาป บาปอยู่ที่เกล้ากระหม่อม” หมายความว่า บาปทั้งหลายของประชาชนยอมแบกรับมาอยู่ที่ตนเองหมด ตอนนั้นฮ่องเต้ถึงกับปลงพระเกศา และตัดเล็บเพื่อแสดงว่า แม้แต่วรกายก็ยอมสละเพื่อรับบาปของประชาราษฏร์ทั้งหมด ตามที่เล่ากันมาว่า ก็ให้เกิดมีฝนตกหนักทันทีแผ่เป็นบริเวณกว้างหลายพันลี้ นี่คือเบื้องบนได้แสดงตอบสนองต่อบุตรสวรรค์ เป็นโองการฟ้าที่แท้จริง หาใช่เหตุบังเอิญไม่

เพราะฉะนั้นการสำเร็จของเรื่องต่าง ๆ ล้วนมีเป็นความหมายของฟ้า อย่างเช่น ตอนที่จูกว๊อกำลังต่อสู้กับทหารโจโฉ ซือหม่าอี๊บนพื้นราบสูงห้าวาอยู่นั้น ก็ให้พอดีกองทหารซือหม่าอี๊โจ พ่อลูกสามคนนำกองทหารถอยเข้าไปในหุบเขา (หุบเขาน้ำเต้า) บนเขาก็ส่งเสียงร้องตะโกน แล้วโยนไฟลงมาในหุบเขา หวังเผาปากทางหุบเขา พร้อมกับให้ทหารยิงธนูใส่ทหารโจโฉ พวกทหารโจโฉกระเจิดกระเจิงวิ่งหนีไม่มีทางออก ซือหม่าอี๊กระโดดลงจากหลังม้ากอดลูกชาย 2 คนแล้วร้องไห้ร้องว่า “พวกเราสามคนพ่อลูกต้องตายอยู่ในนี้เสียแล้ว” นายพลจูกว๊อเห็นทหารโจโฉเข้ามาในหุบเขา คาดว่าคราวนี้ซือหม่าอี๊ไม่มีทางหนีรอดไปได้จะต้องตายในหุบเขานี้แน่ ๆ แล้ว เพราะจูกว๊อได้ฝังระเบิดดินไฟไว้รอบ ๆ หุบเขารอแค่ออกคำสั่งเท่านั้น ขณะนั้นเกิดพายุฝนขึ้น เกิดฝนตกหนักลงมาทำให้ดินไฟใช้ไม่ได้ นี่ก็เพราะฟ้าประสงค์ให้ซือหม่าอี๊สามคนพ่อลูกรอดชีวิต ใครจะไปล่วงรู้ได้ เพราะฉะนั้น โองการฟ้าขัดขืนไม่ได้ นี่แหละคือเหตุผล