ที่อำเภอหง้อแถบเมืองซันตง ที่บ้านสกุลหลี่มีโต๊ะตัวหนึ่งตั้งอยู่ในศาลบรรพชนของหมู่บ้าน ชาวบ้านเรียกโต๊ะตัวนี้ว่า “โต๊ะไม่ได้” โต๊ะตัวนี้มักถูกใช้ในพิธีขอฝนเมื่อยามเกิดภาวะแห้งแล้งซึ่งก็มีความขลังยิ่งนัก ที่มาของโต๊ะตัวนี้ ที่เล่าสืบทอดกันมาว่า โต๊ะตัวนี้เป็นของอดีตบรรพชนสกุลหลี่ซึ่งมียศฐาบรรดาศักดิ์เป็นนายอำเภอ ซึ่งเโต๊ะตัวนี้จะตั้งอยู่ในห้องหนังสือของท่าน มีอยู่ปีหนึ่ง เมืองนี้เกิดคดีจี้ปล้นขึ้นคดีหนึ่ง บ้านที่ถูกปล้นคือฮีไตโหว เมื่อคดีสืบมาถึงอำเภอทางอำเภอเป็นผู้ตัดสินคดี จับพวกจี้ปล้นได้หลายยคน ภายหลังการสืบสวนแล้วทั้งหมดถูกลงโทษประหาร มีอยู่เพียงคนเดียวที่ถูกพัวพันคือ ฮีบ่อกู่ ซึ่งโดยปกติเขาเป็นเพียงผู้ลักเล็กขโมยน้อยเท่านั้น คราวนี้ถูกจับว่ามีส่วนร่วมด้วยซึ่งก็เป็นการปรักปรำ เลขานุการของสกุลหลี่รู้รายละเอียดเรื่องนี้ดี รู้ว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีจี้ปล้น ทางอำเภอจึงมีคำสั่งปล่อยตัวซึ่งก็ถูกควบคุมตัวอยู่นานหลายเดือน เจ้าหัวขโมยก็รู้ดีว่าสกุลหลี่เป็นผู้ช่วยเหลือ จึงมีใจอยากตอบแทนคุณแต่ครอบครัวยากจนมากไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร คิดไปคิดมาก็นึกถึงภรรยา ถึงแม้ภรรยาจะเป็นเพียงสิ่งมีค่าอย่างเดียวของบ้านก็อยากทดแทนบุญคุณโดยยอมให้ภรรยาไปปรนนิบัติที่บ้านสกุลหลี่สักคืนหนึ่งเพื่อทดแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิต ส่วนภรรยาได้แต่หลั่งน้ำตายอมทำตาม
ในคืนนั้น ท่านหลี่นั่งอยู่ในห้องหนังสือคนเดียว ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู จึงเปิดออกดูเห็นหญิงงามแต่งตัวสะสวยนางหนึ่ง ถึงนางจะสวมใส่ชุดกระโปรงมาแต่เมื่อลมพัดผ้าแนบเนื้อ ภายใต้แสงจันทร์ดูยั่วยวนใจนัก จึงถามจุดประสงค์ที่มา นางจึงเล่าตามความจริง นายหลี่เห็นหญิงงามน่ารักเช่นนี้ก็อดที่จะระงับใจไม่ได้ ทันใดก็นึกถึงว่าการกระทำเช่นนี้ทำลายบุญวาสนา พลางก็เอานิ้วมือจุ่มลงไปในที่ฝนหมึก แล้วก็เขียนอักษรลงบนโต๊ะว่า “ไม่ได้” ส่วนนางก็ยืนรอฟังอยู่ที่นอกประตูห้อง นายหลี่คิดแล้วคิดอีก พลางนิ้วมือก็ไม่ยอมหยุดเขียนอักษร “ไม่ได้” ลงบนโต๊ะหลาย ๆ ครั้ง ทั้งสองยืนทื่ออยู่จนเวลาล่วงเลยยามสาม นายหลี่จึงตัดสินใจเด็ดขาด เรียกนางให้รีบกลับบ้านไป ไม่ยอมทำสิ่งสัปดนต่อฟ้าดินและผีสางอีก นางมีอาการเขินอายแล้วขอบคุณเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านไป
วันรุ่งขึ้นเมื่อนายหลี่ลุกขึ้นจากเตียง ก็รีบเอาผ้าเช็ดอักษร “ไม่ได้” ที่เขียนบนโต๊ะเมื่อคืน แต่เช็ดเท่าไร ๆ ก็ไม่ออก มันเลยกลายเป็นของที่ระลึก ภายหลังนายหลี่มรณะภาพไปแล้ว ลูกหลานก็เอาโต๊ะตัวนี้ยกให้ทางศาลเจ้าบรรพชนเป็นสมบัติมีค่า เพราะฉะนั้นลูกหลานสกุลหลี่ในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีความเจริญรุ่งเรืองไม่สิ้นสุด ต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าสืบเนื่องจากบรรพชนสั่งสมบุญบารมีไว้