ฆ่าไก่เกิดเป็นไก่

วิญญาณไก่

    ฉันชื่อนางเมี่ยวเจิน แซ่กู้ เกิดที่มณฑลกุ้ยโจว ในรัชกาลถงจื้อ (พ.ศ 2405-2418) แห่งราชวงศ์ชิง ครั้งเป็นมนุษย์เนื่องจากประพฤติตนไม่ดี ไร้คุณธรรมจรรยาของกุลสตรี ปัจจุบันถึงได้กลายเป็นวิญญาณไก่ตัวหนึ่ง

     ฉันเสียความบริสุทธิ์ตั้งแต่เด็ก มีชีวิตอยู่กับแม่เลี้ยงใจร้ายความเก็บกดทำให้จิตใจเปลี่ยนแปลง ความคิดความอ่านและการกระทำจึงย่อมไม่เหมือนกับคนปกติทั่วไป เนื่องจากรู้สึกตัวเองมีปมด้อยจิตใจฉันมีแต่ความโกรธแค้นผิดธรรมดา เที่ยวด่าฟ้าด่าดินตลอดวัน คนแปลกหน้าดินผ่านมาก็ด่าไม่เว้น ทุกคนว่าฉันเสียสติแต่ความจริงสติฉันยังดีอยู่ เพียงแต่อาศัยการเสียสติมาระบายความเก็บกดภายในใจ ต่อมาฉันได้แต่งงาน จึงทำให้สงบลงมากไม่นานสามีที่ไร้น้ำใจของฉันก็ทรยศฉันไม่ซื่อสัตย์ต่อฉัน พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในบ้าน มาทำหยามน้ำใจกันเช่นนี้ ฉันจะอดทนได้อย่างไร และแล้วโรคเก่าของฉันก็เริ่มกำเริบ สติของฉันพังทลายจึงได้ทำในสิ่งที่ผิดมนุษย์มนา เนื่องจากที่บ้านมีอาชีพเลี้ยงไก่ดังนั้นพอฉันเสียสติขึ้นมาก็ควบคุมไม่อยู่เที่ยวจับไก่มาแล้วเอาปังตอสับ สับ สับ ระบายอารมณ์โมโหไปที่ตัวไก่อย่างบ้าคลั่ง เมื่อได้ทำอย่างนี้ฉันถึงจะสบายขึ้น

     ตอนนี้นฉันไม่มีความสานึกผิดแม้แต่น้อย กลับคิดว่าตัวเองเก่งกาจ สิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ แต่ฉันทำได้ นั่นไม่เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นหรอกหรือ นางมารที่ทำลายความสุขของครอบครัวฉันฉะนั้นฉันจึงด่าว่าเสียดสีเขาทั้งวัน คำด่าที่หยาบคายทุกอย่างฉันสรรหามาด่าหมด คำที่ไม่ควรด่าก็ด่า แต่นางมารนั่นก็ยังไล่ไม่ไปไม่ได้ความรักจากสามี ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอม ดังนั้น ฉันจึงแอบใส่ยาหวังจะให้ผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถตั้งครรภ์ แต่แล้วก็ล้มเหลวต่อเมื่อผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์แล้วฉันก็ใช้ยาอีกหวังจะให้ลูกของเขาตายในท้องอย่างโหดร้าย ครั้งนี้ฉันทำสำเร็จ แต่ว่าเพราะฉันใส่ยาแรงเกินไป จึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นตายเพราะพิษยาไปด้วย ฉันไม่มีเจตนาจะให้เขาตาย แต่ที่เขาตายไม่เกี่ยวกับฉัน พวกท่านลองคิดดูสาธุชนที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ก็มีผู้หญิงที่เป็นเพศเดียวกับฉัน ท่านคงเข้าใจหัวอกของลูกผู้หญิงด้วยกันฉันผิดด้วยหรือที่มอบความจริงใจให้กับสามี ฉันเกิดเป็นหญิงก็แย่พออยู่แล้ว ยังมาถูกสามีทอดทิ้งอีกฉันไม่ยอมจริงๆ ฉันไม่ยอม พอนึกถึงสามีที่ไร้น้ำใจของฉันทีไร ฉันก็อารมณ์เสีย ดังนั้นเมื่อใดที่นึกถึงเขา ฉันก็จะไปที่เล้าไก่จับไก่แจ้มา 2-3 ตัว แล้วใช้เชือกรัดคอพวกมันทั้งเป็นจนตาย จากนั้นก็นำไปแขวนไว้ที่หน้าประตู จุดประสงค์ก็เพื่อ “ฆ่าไก่ ให้ลิงดู” เป็นการเตือนสามีเลวของฉันว่า อย่าได้ทำอะไรที่ผิดต่อฉันอีก มิเช่นนั้นก็จะมีสภาพเหมือนไก่เหล่านั้น ฉันอำมหิตมาก ไก่เหล่านั้นไร้ความผิดเลยฉันได้สร้างเวรกรรมกับพวกสัตว์ไม่น้อย ดั้งนั้นตอนอายุ36 ปี ฉันจึงถูกเขาควายขวิดตาย

     เมื่อไปถึงยมโลก ท่านยมบาลก็ตัดสินให้ฉันไปเกิดเป็นไก่สิบชาติทันที เมื่อครบสิบชาติกลับมายังต้องรอการตัดสินรับโทษอื่นอีก 3-4 ชาติแรกฉันเกิดเป็นไก่บ้าน พอเติบโตอ้วนพอก็ถึงกำหนดวันตาย ถูกคนลวกหนัง ถอนขน ร่างศพถูกแยกส่วน แล้วยังต้องถูกสับเป็นชิ้นๆ นึกถึงครั้งที่ฉันเป็นมนุษย์ เวลาฆ่าไก่ก็ทำแบบเดียวกันนี้ คราวนี้ถึงดิฉันต้องขึ้นเขียงบ้าง จะไปร้องทุกข์กับใครได้เล่า นี่ไม่ใช่เป็นกรรมสนองแล้วเป็นอะไร? 3-4 ชาติหลังฉันเกิดเป็นไก่ชน เข้ากับนิสัยฉันมาก ครั้งที่เป็นมนุษย์ที่ชอบต่อสู้ไม่ชอบอยู่นิ่ง แต่จิตญาณฉันค่อยๆ แจ่มแจ้งได้สติ เนื่องจากเคยได้รับการชี้ทางสว่างจากพระรูปหนึ่งฉะนั้นทุกครั้งเวลาที่เปิดการต่อสู้ฉันก็ไม่กล้าจิกกลับ ด้วยเกรงว่าจะเป็นการสร้างกรรมอีก เจ้าของแพ้พนันก็โมโห จับฉันบีบคอจนตายคามือ เหมือนครั้งที่ฉันจับไก่แล้วใช้เชือกรัดคอมันจนตาย คราวนี้จึงต้องรับกรรมแบบเดียวกัน

     ฉันได้เกิดเป็นไก่มาเจ็ดชาติแล้ว ยังเหลืออีกสามชาติ เมื่อเกิดครบสิบชาติ ยังต้องไปยมโลกพิจารณาตัดสินอีก ใต้เท้ายมบาลท่านเห็นว่าฉันยังมีความสำนึกผิดอยู่บ้าง วันนี้จึงได้นำฉันเข้ามาในสถานธรรมให้ฉันเล่าเรื่องราวของชาติก่อนมาตามความจริง เพื่อนำกุศลผลบุญจากการเตือนสติชาวโลกนี้มาลดหย่อนผ่อนโทษแก่ฉันขอเตือนชาวโลกอย่าได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอีก ขอให้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมซึ่งจะส่งผลถึงตนเองและบุตรหลาน เวลาจำกัด ขอถอนไปก่อนขอบคุณ