เสด็จลงทรงกลอนว่า
สัตว์กำเนิด ที่ชื้นแฉะ หรือในรก
น้ำหรือบก มวลวิญญาณ มาจากจิต
พร้อมจุติ สู่แดนสวรรค์ บำเพ็ญเพียร
หลีกห่างเวียน วัฎสงสาร ลุนิพพาน
เมื่อมนุษย์จุติลงสู่โลก ถึงแม้จะมีร่างกายกำยำสูง 7 ฟุต ถ้าเปรีบประดุจดังเมล็ดขาวหนึ่งเม็ดที่อยู่ในมหาสมุทร ก็เล็กเหมือนมดตัวหนึ่ง ยังยกย่องตนเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐเหนือสรรพสัตว์เพราะมีค่าสูงส่งของ “จิตมนุษย์” ที่สวรรค์ประทานให้ยึดมั่นคุณธรรมปฏิบัติตนอยู่ในทำนองคลองธรรม หากแต่มาถึงปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นตะวันตก ละทิ้งประเพณีอันดีงามเก่าๆ ทำให้หลงมัวเมา มีการฆ่ากัน ข่มขืนกัน ปล้นขโมยกันมากมาย จิตใจแปรเปลี่ยน ปฏิบัติตนเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน แม้กฎหมายจะรุนแรงแต่ก็หาสะพึงกลัวไม่ ตัณหากิเลสบังจิตเดิมของมนุษย์ จนคิดกล้าประกอบกรรมทำชั่ว ไม่เกรงกลัวต่อเทพเทวดา
แม่นี้เป็นต้นกำเนิดของสรรพสัตว์ ผ่านเคราะห์กรรมมานับหมื่นแสน จึงได้ก่อกำเนิดวิญญาณดังเดิมมีคำกล่าวๆว่า “ใจพ่อแม่นี้น่าสงสารยิ่งนัก” ใครเลยไม่รักลูกอยากให้ลูกประพฤติตนให้ถูกทางใครเลยจะยอมให้ตกต่ำเพราะประพฤติชั่ว เขาถือพ่อแม่เปรียบประดุจฟ้าดินที่รักและเมตตาลูกเสมอ จิตใจถ้าซื่อตรงนั้นก็เป็นคน ผิดเพี้ยนชั่วร้ายก็เป็นสัตว์อันนี้เป็นกฎยุติธรรมของฟ้าดิน เป็นกฎแห่งกรรมเมื่อแลดูมนุษย์ปัจจุบันคนส่วนมากจิตใจต่ำทราม สร้างบาปก่อเวรบนถนนแม้มีคนเดินอยู่มาก ไม่ต่างจากคนร่างสัตว์ปราศจากความเป็นคน ผ่านชีวิตไปจนกระทั่งตายลงไปเกิดเป็นร่างสัตว์ สวมเขาห่มขนน่าอนาถเวทนายิ่งนัก
เนื่องจากเหตุฉะนี้ แม่ทนดูต่อการตกนรกไม่ไหว จึงได้มีคำสั่งไปยังสำนักเซิ่นเต๋อถังเมืองไถจง โดยการนำของพระอรหันต์จี้กง ไปดูสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ เขียนบันทึกเป็นหนังสือ ให้ชื่อว่า “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” จะเห็นว่าในบันทึกนั้น แม้คนจะมีความทุกข์ต่างๆมากมาย ก็ยังเปรียบไม่ได้กับความทุกข์ยากของสัตว์เดรัจฉาน ผู้ใดกที่มีธาตุจิตของมนุษย์ เมื่ออ่านหนังสือแล้วจะต้องใจหาย ขวัญผวาเมื่อสำนึกบาปครั้งก่อนๆ ไม่กระทำบาปต่อไป จะได้ไม่ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ต้องคิดเสมอว่าหนทางนี้เดินไม่ได้ มิฉะนั้นจะสายเกินแก้
เวลาผ่านไปขวบปี จากการสอบถามเยี่ยมเยือน ไม่ผิดหวังที่พระอรหันต์จี้กงและนายหยางเซิงได้ทำงานสำเร็จ แต่งหนังสือสำเร็จลง จนสามารถพิมพ์เผยแพร่สู่ชาวโลก เป็นประโยชน์ไพศาลและยังพิมพ์ภาพเขียนเกี่ยวกับเมตตาสัตว์ลงด้วย ทำให้ใจแม่แสนจะปรีดายิ่งนัก จึงได้เสด็จทรงที่สำนักเซิ่นเต๋อถัง อยากให้มนุษย์ทั้งหลายจงหลีกเลี่ยง ถนนบาป มาเดินอยู่บนถนนที่สร้างบุญกุศลเหมือนเกิดอยู่ในแดนที่ปราศจากทุกข์โศก เป็นหนทางกลับสู่สวรรค์ไม่เสียแรงที่แม่ได้ตั้งใจรอคอย
สมเด็จพระแม่เจ้าแดนสุขาวดี
ทรงวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2525