ความสับสนวุ่นวายทั้งหมด ล้วนมาจากนิสัยอารมณ์ ครอบครัวขาดความสุขก็มาจากอารมณ์นิสัยของเจ้า เกิดจากอารมณ์โมโหโทโสชั่ววูบของเจ้า อาจารย์สอนพวกเจ้าให้ตื่นขึ้นเวลาเช้าส่องกระจกแล้วพูดว่า วันนี้ฉันจะเป็นพระอาจารย์ วันนี้ฉันจะเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม ฉันจะไม่โมโห แม้แต่ลูกๆเอาใบประเมินผลการเรียนมาจากโรงเรียน ซึ่งมีแต่ขีดแดงๆ เจ้าก็ไม่โกรธ ปกติมักจะแหกปากด่าโขมงโฉงเฉง วันนี้เจ้าไม่โกรธ ลูกๆจะมีความรู้สึกว่า วันนี้คุณพ่อทำไมไม่โกรธ คุณแม่ก็ใจดีขึ้น เจ้าก็ควรจะพูดว่า วันนี้พ่อเป็นพระอาจารยจี้กง วันนี้แม่เป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม ไม่โกรธทุกอย่างก็ผ่านไป ความวุ่นวายครั้งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น
สามีกลับบ้านด้วยอาการมึนเมา วันนี้ไม่โกรธ ปล่อยเขาไป รอให้เขาสร่างเมาแล้วจึงค่อยๆเตือนเขา ภรรยามั่วสุมอยู่ในวงไพ่ทั้งวัน ครอบครัวไม่ดูแล ผมเผ้าไม่หวี บางครั้งภรรยาก็อย่าไปโทษสามีที่ไปนอกบ้านทำนอกลู่นอกทาง ตัวเองควรใช้แรงเสน่ห์บ้างในบางครั้ง ผมเผ้าหวีให้เรียบร้อย แต่งตัวพอเหมาะสม จัดการดูแลครอบครัวให้ดี นั่นแหละคือ แรงเสน่ห์ ไม่ใช่ให้เจ้าแสดงตัวเหมือนพวกดารานักแสดง อย่างน้อยต้องให้สุภาพเรียบร้อย ครอบครัวจึงปรองดองกันได้
เห็นอะไรไม่สบอารมณ์ ก็ไม่โกรธ แต่ว่าการไม่โกรธก็ไม่ง่ายนัก หนึ่งสัปดาห์อดได้
ห้าวันก็ยังดี ถ้าอดไม่ได้พูดว่าพระอาจารย์ วันนี้ศิษย์ขอลาหนึ่งวัน เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! (โมโหโกรธาแล้ว) ไม่เป็นไรบำเพ็ญอารมณ์ ต้องบำเพ็ญหนึ่งมหาอสงไขยกัปป์ ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น จึงอนุญาตให้ลาได้ในบางครั้ง โกรธทะเลาะกันทุกๆวัน เกิดปฏิวัติในครอบครัว กลายเป็นปฏิวัติสัปดาห์ละครั้ง ค่อยๆกลายเป็นสิบวัน มีการเคลื่อนไหว หนึ่งวันครั้ง (เคลื่อนไหวในครอบครัว) ค่อยๆแก้ไขให้ดีขึ้น การบำเพ็ญธรรมะ ทำให้เจ้าได้รับสิ่งที่ดี ธรรมะเกิดบทบาทต่อเจ้า เนื่องจากเจ้าได้เข้มงวดตัวเอง เพราะฉะนั้น พยายามอย่าให้เกิดอารมณ์ เกิดอารมณ์เมื่อไร ผู้ที่น่าสงสารที่สุดคือเด็กๆ เที่ยวหลบอยู่ข้างๆไม่รู้จะทำอย่างไรดี สังคมมีปัญหาเรื่องวัยรุ่นล้วนมาจากครอบครัวที่มีปัญหาทั้งนั้น ครอบครัวมีความสมบูรณ์เด็กๆก็มีสุขภาพจิตที่ดี
เตือนพวกเจ้าที่เป็นพ่อแม่ จงอย่ารักลูกจนเลยเถิดไป ต้องรู้จักดัดตั้งแต่เล็กๆ ในยุคปัจจุบันมีลูกกันเพียงคนสองคนเท่านั้น จึงรักลูกเหมือนหัวแก้วหัวแหวน รอจนวันข้างหน้จับไม่อยู่แล้ว จึงมาร้องไห้เสียใจก็สายไปเสียแล้ว ตัวเองสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า สอนให้เด็กเล่นเกมส์วีดีโอ ย่อมเป็นไปไม่ได้ ทำตัวเป็นแบบอย่างเป็นสิ่งสำคัญ ตั้งแต่เล็กแต่ละคนต้องมีความคิดอ่านทัศนคติอย่างนี้ ให้เด็กๆมาศึกษาฟังธรรมะ ทำให้เขามีทัศนคติที่ดี บุคคลิกภาพให้สมบูรณ์ดีงาม อย่าตามใจอย่างเดียวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมภายนอกต้องจำกัด อย่าให้เรื่องราวหรือคนมาทำลายความสุขในครอบครัว ต้องควบคุมไว้ให้ได้ สิงที่อยู่ต่อหน้าที่ได้สั่งสมไว้ ไม่ใช่ง่ายๆ ภรรยาไม่เคยผิดต่อเจ้า สามีก็ไม่เคยผิดต่อเจ้า มีข้าวน้ำ อาหารธรรมดาๆ ก็ผ่านไปอย่างมีความสุข รู้ไหม?
วันนี้ พูดแบบฟังง่ายๆ ธรรมะแห่งความสุขุมในใจมีความรู้สึกอย่างไร หากมีความรู้สึก กลับไปพยายามแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเองสร้างความผาสุก เจ้าต้องสอบตัวเอง ให้คะแนนตัวเอง เดือนหนึ่งหรือครึ่งเดือนให้หลัง บรรยากาศในครอบครัวมีการเปลี่ยนแปลง ก็คือเจ้ากำลังสร้างสรรค์ความสุขในครอบครัว ถ้าหากดี เจ้าก็ยังต้องรักษาไว้ให้ดีงามยิ่งขึ้น ถ้าไม่มี เจ้าต้องไปพยายามสร้างสรรค์ ไม่ใช่บอกว่าให้อยู่แต่ในบ้านงานอย่างอื่นไม่ทำ การบำเพ็ญธรรมก็บำเพ็ญไป ส่วนการทำงานธรรมก็ทำไป ความปกติมีสิ่งประทับใจในครอบครัว ก็พยายามไปสรางสรรค์ สามีสนับสนุนเจ้า ภรรยาสนับสนุนเจ้า เจ้าบำเพ็ญธรรมปฏิบัติธรรมจึงไม่ต้องเป็นห่วงกังวลผู้ที่อยู่ข้างหลังจึงจะมีความหมาย หากมีคนไม่สนับสนุนเจ้า เจ้าก็มีอุปสรรค ใช่ใหม? เพราะฉะนั้นธรรมะแห่งความสุข เพื่อให้เจ้าไปปรับปรุงแก้ไขให้ดี ไปขจัดอุปสรรค ดีไหม? (ดี) ดีแล้วก็ไม่ต้องพูดมากแล้ว