แปลโดยท่านพุทธทาส
ใช้เชือกฟาง ร้อยหว่างรู จมูกเข้า
วัวดิ้นเร่า หนุ่มเฝ้าเวียน เฆี่ยนขวับอยู่
ถึงดื้อด้าน ต้านฝืน ขืนมือครู
ก็เฆี่ยนสู้ ซ้ำดึง ตรึงมือตี
พ่อหนุ่มติดตามจับวัวจนเอาเชือกฟางร้อยจมูกได้ เชือกหมายถึงโยคะ ได้แก่กรรมฐานวิธี แบบใดแบบหนึ่งสำหรับผูกจิตกับอารมณ์ของกรรมฐานนั้น เชือกฟาง ชวนให้คิดว่าอย่าดูถูกฟาง คนฉลาดแล้วแม้แต่ฟางที่มีอยู่ดาดดื่นก็กลาายเป็นเชือกได้ ไม่ต้องไปหาป่านปออะไรจนถึงป่าหิมพานต์การร้อยจมูกควรจะถือว่าผูกให้ถูกที่สำคัญ เพียงนิดเดียวก็อยู่ ถ้าไม่ถูกที่สำคัญแล้ว ผูกด้วยอะไรหรืออย่างไรก็ไม่อยู่ พอดื้อก็เฆี่ยนหมายความว่าอย่าประมาททำเล่นกับกิเลส อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ขึ้นชื่อว่ากิเลสแล้วไม่มีเล็ก การเฆี่ยนอย่างไม่นับหมายความว่าเอากันเต็มที่โดยทันควันไม่อ่อนข้อ วัวแสดงอาการต่อต้านทุกท่า คือกิเลสไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เหมือนที่พูดกันว่าทำวิปัสสนาเสียเดือนเดียวก็สำเร็จ แต่มันมีกลเม็ดพลิกแพลงซับซ้อนลึกซึ้งยิ่งนัก หนุ่มลูกทุ่งบ้านนอกนี้มิใช่ชาวกรุงที่อ่อนแอและไม่คุ้นเคยกับธรรมชาติ เขาเกิดอย่างธรรมชาติ รู้เท่าทันธรรมชาติ ใช้วิธีง่ายๆ การกำหนดอารมณ์นั้ไว้แน่วแน่และพิจารณามันอย่างทะลุปรุโปร่ง
ภาพนี้จะเห็นได้ว่า ตีกันในป่าจนไม้หัก และตามโคนไม้ในป่านั่นแหละทำการปราบวัวสะดวกกว่าบนปราสาท