ประกาศ : บัดนี้มีอุบาสิกาหลินซู่ซิ่วมาขอแก้กรรม พร้อมที่เปิดศาลไต่สวน โปรดเรียนเชิญเทพเหวินปั้นแห่งศาลเฉินหวางเมืองฟุ่งซานเป็นผู้บันทึก แล้วนำไปรายงานต่อนรกขุมที่ 10 ล้อหมุนอ๋อง ให้แม่ทัพจงถานคุมวิญญาณเข้ามาได้
เทพเหวินปั้น: วันนี้ข้าได้รับเชิญจากประธานสถานธรรมหมินเต๋อถังมาบันทึกเรื่องกฏแห่งกรรมครั้งนี้
แม่ทัพจงถาน : ข้าได้นำวิญญาณมาแล้ว ขอได้โปรดพิจารณาความได้
ประธานกวนอู : วันนี้ข้าจะอนุญาตให้เจ้าประทับร่างในร่างทรง จงเล่าเรื่องที่เจ้ากับหลินชู่ซิ่วในชาติก่อนมาให้ฟัง อย่าได้มีการปกปิดแจ้งเท็จ มิฉะนั้นจะถูกลงโทษหนัก ถ้าแจกแจงเรื่องกฏแห่งกรรมได้สะอาดมีคุณค่าต่อชาวโลก ข้ารับประกันเจ้าจะได้ไปผุดไปเกิดเร็วขึ้น ขอให้เจ้าจงอย่าพลาดโอกาส
วิญญาณ : ท่านเทพเจ้ากวนอูทรงโปรดเมตตา เมื่อชาติก่อนเขาหลอกฆ่าข้า ข้าจึงมีความเจ็บแค้นมาก ข้าชื่อหฮางซุกเหมย เกิดในราชวงศ์เซ็ง รัชสมัยจักรพรรดิคังซี ปีที่ 20 เกิดที่อำเภอหลินเซิน มณฑลฮกเกี้ยน เมื่อข้าอายุได้ 18 ปี โดยการแนะนำของแม่สื่อ ข้าจึงได้แต่งงานกับนายหลี่เซียนตี้ เป็นคนอำเภอเดียวกัน ต่อมาข้าได้ติดตามสามีมาอยู่ที่เมืองเจียงโจว มณฑลฮกเกี้ยน เมื่ออายุ 23 ปี ข้าได้คลอดบุตรชายคนแรก และข้าได้บุตรชายคนที่ 2 เมื่อข้าอายุ 25 ปี และต่อมาคลอดบุตรอีก 2 คน เมื่ออายุ 27 และ 30 ตามลำดับ ซึ่งตอนอายุ 30 ปีนี้เอง ข้าป่วยเป็นโรครูบาติซึมยากต่อการเดินเหิน ข้าเคยไปหาแพทย์ทั่วเมืองเจียงโจวก็ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ วันหนึ่งมีญาติคนหนึ่งแนะนำหมอหลินว่านเจียว ซึ่งเพิ่งกลับมาจากไต้หวัน หมอหลินคนนี้ก็คือ หลินชู่ซิ่วในชาติปัจจุบัน ระหว่างให้การรักษา หมอหลินได้ใช้คำพูดหว่านล้อมข้าจนในที่สุดก็ได้เสียกัน และต่อมาข้าก็ได้คลอดบุตรชายให้เขา 1 คน ตอนนั้นหมอหลินได้ยุยงข้าพาลูกคนที่ 2 และคนที่ 4 หนีตามเขากลับไปที่ไต้หวัน
ขณะนั้นหมอหลินอายุ 37 ส่วนข้า 35 ชีวิตคู่ช่วงแรกในไต้หวันก็มีความสุขดี 3 ปีต่อมาเขาเริ่มออกลายแสดงตัวเป็นเจ้าชู้ยักษ์ ในที่สุดเขาก็ติดพันกับนางเอกงิ้วโค้วชุนจิ้ว และติดตามเธอเร่ร่อนตามเมืองต่าง ๆ ทิ้งขว้างพวกเราโดยไม่เหลียวแล เมื่อเขาอายุได้ 45 ปี ข้าไม่ได้รับข่าวคราวจากเขาเลย ข้าต้องทำงานหนักเพื่อแม่ลูก 3 ชีวิต เนื่องด้วยตรากตรำเกินไป โรคเก่ากำเริบเดินเหินลำบาก จำใจให้ลูกสาวขณะนั้นอายุ 16 ปีไปเป็นสาวใช้ในโรงงานทำกระสอบ ทำงานได้ประมาณ 3 ปี ก็ถูกวัยรุ่นอันธพาล หลอกลวงจนหายสาบสูญไป ข้าเลยให้ลูกชายคนเล็กไปเป็นช่างฝึกหัดกับช่างตีเกือกม้า อยู่มาได้ 1 ปี เกิดมีปากเสียงกับคนอื่นในที่สุดก็ฆ่าฝ่ายตรงข้ามตายด้วยความตกใจ ลูกชายก็หนีหายสาบสูญไปอีกคน
ตอนนั้นข้าทั้งป่วยทั้งยากจน จำต้องพึ่งพาเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ เมื่ออายุได้ 49 ปี ข้าคิดถึงสามีเก่ากับลูก ๆ 2 คนที่เมืองเจียงโจว ต่อมาได้ข่าวว่า หลังจากข้าหนีตามชู้ไป เขาก็แต่งงานใหม่ ความหวังสุดท้ายของข้าหมดสิ้นแล้ว ในที่สุดข้าก็ตรอมใจตาย ท่านยมบาลกล่าวโทษข้าคบชู้สู่ชายทอดทิ้งสามีและลูก ๆ ขาดกุลสตรีที่ดีของแม่บ้าน นรกขุมที่ 1 สั่งลงโทษข้า 10 ปี นรกขุมที่ 2 ที่ 3 กล่าวโทษเช่นกัน มาถึงนรกขุมที่ 4 ระหว่างสอบสวนได้พูดถึงการหลอกลวงของหลินว่านเจียว จึงรู้เขาตายก่อนข้า 1 ปี ถูกยมบาลลงโทษ 200 ปี ส่วนข้าบาปหนักกว่าต้องรับโทษ 270 ปี เมื่อครบกำหนด ท่านพระอรหันต์กษิติครรภ์ ทรงเห็นว่า ข้าสำนึกผิดแล้ว จึงเมตตาอนุญาตให้ข้าไปเกิดใหม่ได้ แต่ข้ายังเจ็บแค้นไม่หายที่ถูกนายหลินหลอกลวง จนบ้านแตกสาแหรกขาด จึงไม่ยอมไปเกิดใหม่ จิตของข้ามีแต่ความพยาบาท จึงได้ค้นเสาะหาเขาเพื่อแก้แค้น
ส่วนหลินนั้นเมื่อพ้นโทษทัณฑ์แล้ว 62 ปี จึงได้ไปเกิดใหม่เป็นหลินชู่ซิ่ว ในปัจจุบันนี่เอง ข้าค้นพบเขาเมื่อเขาอายุ 30 ปี แต่เนื่องด้วยช่วงนั้น ดวงเขากำลังขึ้น ต้องรอจนเขาอายุ 32 เศรษฐกิจทางครอบครัวเริ่มถดถอยข้าเลยหาวิธีทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก ต่อมาก็ทำให้ขาของเขาทั้ง 2 ข้างเดินเหินไม่ได้ เร็ว ๆ นี้ข้ากำลังคิดจะเอาชีวิตเขา แต่ข้าไม่มีธงของยมบาลทวงหนี้ชีวิตไม่ได้ อีกทั้งท่านพระเจ้ากวนอูทรงปกป้องด้วย ที่ข้ากล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นความสัตย์จริง ขอเทพเจ้ากวนอูทรงเมตตาตัดสินความด้วย
ประธานกวน : สำหรับเรื่องนี้ ข้าขอแนะว่า เวรควรระงับด้วยการไม่จองเวร ขอเพียงหลินชู่ซิ่วสำนึกผิด และประกอบกรรมดีสร้างสมบุญบารมี แล้วอุทิศส่วนกุศลให้ เจ้ายินดียกโทษให้ไหม
วิญญาณ : เมื่อเหล่าเทพแห่งหมินเต๋อถังช่วยเหลือ และจัดการให้ข้าเช่นนี้ ข้ายินดียกโทษให้
ประธานกวน : แล้วอุบาสิกาหลินละ เจ้ามีความเห็นอย่างไร?
หลิน : ขอให้ข้าหายเป็นปกติ ข้ายินดีไปรับใช้ที่ศาลเจ้ากวนอู
ประธานกวน : ตกลง เมื่อทั้งสองฝ่ายยินยอม และเพื่ออุบาสิกาหลินทำตามที่เขาสาบาน วิญญาณหฮางห้ามรบกวนเขาอีกขอให้สองฝ่ายพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นหลักฐาน
วิญญาณ : ถ้าหลินยอมทำตามที่ตกลงไว้ และข้ายังไปรบกวนอีก ข้ายินดีไปรับโทษที่นรกอเวจี จะได้ไม่ไปผุดไปเกิดอีกขอเทพเทวาเป็นพยาน
ประธานกวน : เรื่องนี้ได้จบลงแล้ว ข้าขอขอบใจท่านเหวินปั้น ทำหน้าที่บันทึกเพื่อไว้อยู่ในหนังสือกฏแห่งกรรม ข้าก็จะกลับละ