เกิดเป็นโคนมโคเนื้อแตกต่างกัน ต่างก็สละร่างเพื่อชดใช้กรรม
อรหันต์จี้กงเสด็จประทับทรง วันที่ 14 กันยายน 2524 กลอนว่า:
เดือนปีดั่งจรวดเวียนบรรจบ
ผู้ยากหลบหนาวใครเกื้อกูล
ผู้ร่ำรวยมีความสุขบริบูรณ
สินเพิ่มพูนผลเนื่องก่อกุศล
วัวควายชดใช้เวรอย่างเฉื่อยชา
บ่อบุญมาขนขึ้นเต็มทน
ให้เขาฆ่าโถชีวิตสุดมืดมน
นฤมลเปลือยเต้าน่าบัดสี
อรหันต์จี้กง :ฤดูใบไม้ร่วงมาถึงแล้ว รู้สึกเย็นซ่าน พวกท่านส่วนใหญ่ต้องสรวมเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น พอลมหนาวมาถึง ก็ใส่เสื้อขนสัตว์ คนเราต้องอาศัยขนแกะหนังวัวมาเสริมให้อบอุ่น หรือเป็นเพราะว่ามนุษย์มีความต้านทานความหนาวด้อยกว่าแกะแพะหรือว่าร่างกายมนุษย์นั้นเย็นเฉียบ ไม่มีปัญญาแผ่ความอบอุ่นของจิตใจหรือ? วันนี้จะพานายหยางเซิงออกไปสำรวจให้แน่อีกที
หยางเซิง :ผมนั่งเรียบร้อยบนปทุมทิพย์แล้ว ขอเชิญอาจารย์ออกเดินทางได้....
อรหันต์จี้กง :ถึงที่หมายแล้ว
หยางเซิง :อาจารย์ครับ วันนี้นำมาที่นี่ ได้กลิ่นเหม็นคาวคละคุ้งไปทั่วทั้งข้างในและนอกห้อง บนพื้นมีของชิ้นโตๆ กองอยู่พวกนี้เป็นอะไรครับ
อรหันต์จี้กง :ที่นี่เป็นโรงฟอกหนังสัตว์ เมื่อวัวถูกฆ่าตายแล้วหนังจะถูกนำมาที่นี่ นำมาฟอกเป็นหนังสำหรับทำรองเท้าเสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด หมวก ต่างๆ ให้คนใช้
หยางเซิง :ทำไมหนังวัวจึงมีคุณค่ามากนัก
อรหันต์จี้กง :ทำไมผิวหนังคนยังต้องเสริมผิวหนังวัวเพื่อป้องกันอีกเล่า!
อรหันต์จี้กง :หนังวัวมันก็เปลี่ยนแปลงมาจากหนังคน ไม่เชื่อจะพาไปดู เราไปที่โรงฆ่าสัตว์ แล้วจะรู้เอง
หยางเซิง :ดีครับ
อรหันต์จี้กง :ขึ้นนั่งปทุมทิพย์ จะพาไปโรงฆ่าสัตว์ของเมืองไทเป เพราะไม่ไกลกันนัก...มาถึงแล้ว
หยางเซิง :ได้กลิ่นคาวเลือดโชยมา อยากจะอาเจียน เห็นที่นี่ขังวัวไว้หลายตัว คงกำลังจะนำไปฆ่ากระมัง!
อรหันต์จี้กง :ใช่แล้ว พวกวัวเหล่านี้กำลังรอโทษทัณฑ์
หยางเซิง :ดูเหมือนเป็นโคเนื้อ
อรหันต์จี้กง :มันเป็นโคกเนื้อที่ถูกเลี้ยงเอาไว้กินเนื้อ เดี๋ยวฉันจะเสกมัน เธอจะได้คุยได้ “เจ้าโคเนื้อ เจ้าโคเนื้อ” อยู่ที่นี่เป็นทุกข์เป็นร้อย รอคอยการประหาร น้ำตาไหลริน ใครสอนให้พวกเจ้าฆ่าไม่หยุดหย่อน ใครบอกให้ทำหน้าด้าน ไม่รู้ทำนองคลองธรรม ชาตินี้เกิดเป็นวัว ต้องสละเนื้อให้เขากินเนื้อหนึ่งชั่งก็ใช้หนึ่งชั่ง แทงมีดหนึ่งครั้งก็ถูกแทงหนึ่งครั้งได้โอกาสแล้ว อรหันต์จี้กงจะเป่าคาถาให้ รีบเล่าเรื่องชาติก่อนให้ฟัง เป็นการเตือนสติชาวโลก
หยางเซิง :ฉันเป็นคนทรงสำนึกเซินเต๋อถัง แห่งเมืองไถจงวันนี้ได้รับคำบัญชาให้มากับอาจารย์ มาแต่งหนังสือ “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” ขอให้เธอพูดความจริงจะได้เป็นสาระในการแต่งหนังสือเตือนสติชาวโลก
วัว ก : เมื่อครู่ได้รับการเจิมของท่านอรหันต์จี้กง รู้สึกตื่นขึ้นทันที หวลคิดถึงอดีตชาติ ไม่กล้าที่จะกลับไปทำอีกชาติก่อนผมเกิดในตระกูลมั่งมี เยาว์วัยถูกพ่อแม่ตามใจจนเสียใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย กินเหล้าเมายา อีกทั้งติดการพนัน ใช้จ่ายเกินตัว ทำให้พ่อแม่ไม่พอใจ ด่าว่าด้วยถ้อยคำที่ต่ำทราม ผมโกรธขึ้นมาเลยหนีออกจากบ้านไปมั่วสุมอยู่กับคนเลว เพียรปล้นจี้กเขากิน วันหนึ่งขณะกำลังจี้คนเดินถนน เจ้าทรัพย์แหกปากร้องขอความช่วยเหลือ ผมใจร้อนเลยชักมีดแหลมออกมาแทงเขาที่อกสามที แล้วรีบฉกเงินหนีไป เจ้าทรัพย์บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาล ระหว่างทางทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็ขาดใจตาย ฉันแย่งทรัพย์มาได้รู้สึกดีใจแต่ก็กลัวมาก เลยเข้าบ้านกินเหล้าให้สบายใจ เพราะความกลัวเลยใช้เหล้าช่วย เงินที่ได้ก็นำไปซ่อนไว้ที่บ้านเพื่อนผู้หญิง ต่อมาวันหนึ่งอยู่ในบ่อนการพนัน ทำอวดใหญ่โต พูดว่า การจี้ปล้นเป็นเรื่องธรรมดาด้วยคำพูดนี้ มีคนไปบอกตำรวจ ในที่สุดถูกตำรวจจับได้ ถูกดำเนินคดีจนถึงขั้นลงโทษประหารชีวิต ในคดีจี้ปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์พอตายลงยมทูตหน้าขาว-ดำจับลงนรก ถูกลงโทษแสนสาหัสหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากพ้นจากขุมนรกต้องไปเกิดเป็นวัว 3 ชาติ ชาตินี้เป็นชาติที่ 2 เพราะบ้านเจ้าทุกข์ชอบรับประทานเนื้อ พอฉันถูกฆ่าแล้ว เนื้อถูกนำไปขายที่ตลาด บ้านเจ้าทุกข์ก็จะซื้อหามารับประทาน เพราะไปฆ่าเขาจึงต้องใช้หนี้ด้วยการสละเนื้อ
หยางเซิง :กรรมเวรหนีไม่พ้นเท่าที่พูดมา เอาเนื้อเจ้าไปใช้เขาแต่ทว่าพวกเขากินเนื้อมีขีดจำกัด วันตัวหนึ่งมากมายเช่นนี้พวกคนอื่นก็ยังซื้อไปกิน แล้วจะมีเวรกรรมอะไรกับเขาเหล่านั้น
วัว ก : เจ้ากรรมนายเวรบ้านเดียวกินเนื้อผมไม่หมด ก็เหมือนเราทำลายคนคนเดียว แต่ชาวบ้านหลายคนเจ็บใจและเจ็บแค้นแทน พวกเขาโกรธการกระทำของผม คบเคี่ยวเคี้ยวฟัน อยากจะกินเลือดกินเนื้อผม ดังนั้น พวกเขาจึงช่วยกันซื้อเนื้อไปกินกันเอร็ดอร่อยอย่างนี้ค่อยหายแค้นแทนเจ้าทุกข์
หยางเซิง :ถ้าเช่นนั้น พวกกินเนื้อพวกนั้นก็ช่วยลดโทษให้เธอไม่เพียงมีบาปยังได้กุศล
อรหันต์จี้กง :ถ้าแบบนี้ มิใช่เป็นการแชร์ชาวบ้านฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือ ที่จริงพวกถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์ ก็เพื่ออโหสิกรรมให้กับสัตว์วิธีหนึ่ง ยิ่งมีใจเมตตากรุณาเป็นเพื่อนที่ดี พวกถือศีลไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่รับเนื้อ สวดมนต์ไหว้พระทุกๆ วัน แผ่ส่วนกุศลไปยังสัตว์เดรัจฉานจะได้ลดโทษลง ไม่เพียงแต่ลดโทษยังได้บรรลุธรรมอีกด้วย สามารถพ้นจากทุกข์ทรมานได้เร็วขึ้นทำไมต้องกินเนื้อที่มีบาป โดยไม่คาดคิด เราก็ไปแปดเปื้อนบาปด้วย ยังทำให้บุญกุศลที่มีอยู่ลดน้อยลงไป ไม่มีทางได้กินฟรีหรอก กินเนื้อไปชิ้นหนึ่งต้องจ่ายบุญกุศลไปส่วนหนึ่ง มีคำกล่าวว่า “เอาเปรียบคนอื่นไปส่วนหนึ่ง ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปส่วนหนึ่ง” อันนี้ยุติธรรมดี เพราะฉะนั้นกินเจ กินเนื้อแล้วแต่คนเลือกเอา พวกกินพืชผัก ซึ่งได้รับพลังจากแสงอาทิตย์กินแล้วไม่ต้องสูญเสียบุญกุศล ถ้ากินเนื้อ เพราะสัตว์มีวิญญาณพวกมันอุทิศร่างกายให้เราสามมื้อ เธอกินเนื้อเขา เธอก็ต้องอุทิศกุศลไปใหเขา เพื่อคนจะได้พ้นโทษ อันนี้เป็นทางยุติธรรมที่สุด กินเนื้อเขาแล้วก็ต้องชดใช้เงินเป็นไปได้หรือ สัตว์ถูกแยกร่าง ถ้ามันพูดได้มันคงต้องฆ่าเธอแน่ๆ
หยางเซิง :เนื้อสัตว์ไม่แพง ใครๆก็ซื้อกินได้
อรหันต์จี้กง :ทุกๆ คนที่กินเนื้อ การแผ่กุศลก็เป็นหน้าที่ของทุกๆ คน อันนี้ง่ายมาก
หยางเซิง :อาจารย์พูดมีเหตุผล อยากถามวัวอีกตัวดู เธอกลับเกิดเป็นวัว รูสึกนึกคิดอย่างไร?
วัว ข :โคเนื้อยังโทษไม่หนัก ไม่เหมือนวัวใช้งาน ต้องลาไถ ตากแดดกรำฝน ถูกตี ถูกด่า แต่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายปี ไม่ใช่เพียงปีเดียวก็ตายแล้ว
อรหันต์จี้กง :วัวก็ยังอยากมีชีวิตยืนยาว แต่สวรรค์นั้นยุติธรรมต่อพวกเธอ พวกที่ไม่ต้องทำงานก็ต้องอุทิศเนื้อให้ชาวโลกกิน
วัว ข :ท่านอรหันต์พูดให้สบายใจ กรุณาสงสารด้วยเถิด
อรหันต์จี้กง :ฉันกินเจมานาน ยังไงก็ไม่กินเนื้อเจ้าหรอก ไม่ต้องกลัว
วัว ข:ถ้าหากท่านอรหันต์จะกินเนื้อผม ก็จะโชคดีละถ้าหากกินเนื้อผม ผมก็จะได้เกาะตัวท่านเอาไว้ จะได้ขึ้นสวรรค์ไปกับท่าน ถ้าให้คนธรรมดากินแล้ว ถ้าหากเขาไม่มีบุญกุศลคิดจะอุทิศสักนิดให้ผมยังไม่ได้เลย
อรหันต์จี้กง :เจริญพร !!เธอมีจิตกุศลดี ฉันจะถอนขนเธอจะได้แผ่กุศลให้เธอ จะได้ให้วิญญาณกลับสู่สภาพเดิมในเร็ววัน
วัว ข :ขอบคุณท่านอรหันต์ที่ไม่ทอดทิ้ง ช่วยถอนเร็วหน่อย
อรหันต์จี้กง :เธอไม่กลัวเจ็บหรือ?
วัว ข :กันฟันทนสู้ อยากได้กุศล ก็ต้องอดทน
อรหันต์จี้กง :ก็ได้ ถอนขนขึ้นมาหลายเส้น แผ่กุศลให้เธอร้อยเท่า
หยางเซิง :ชาวบ้านพูดว่า “มากอย่างขนวัว”คำนี้มีความหมายว่าอย่างไร
อรหันต์จี้กง :หมายความว่าไร้คุณค่า หยางเซิง สัมภาษณ์ต่อเถอะ
หยางเซิง :ขอถามหน่อยว่าทำไมต้องเกิดเป็นวัว
วัว ข :ชาติก่อนมีนิสัยเจ้าชู้ ตอนเรียนหนังสือชอบจับมือต้องแขวนเพื่อนนักเรียนหญิง แล้วยังทำบัดสีบัดเถลิงต่อผู้หญิงที่เดินผ่านไป บางครั้งก็ลวนลามไม่เกรงกลัวสายตาชาวบ้านเพราะว่า แม่เสียตั้งแต่ยังเล็ก พ่อก็แต่งงานใหม่ เมียใหม่มีนิสัยเจ้าชู้ ตอนผมเรียนอยู่มัธยมปลาย รูปร่างก็เติบโตสูงใหญ่แม่เลี้ยงทำเป็นเอาอกเอาใจคอยอยู่ใกล้ชิดเสมอ วันหนึ่งพ่อผมออกไปธุระไกลบ้านไม่กลับ แม่เลี้ยงถือโอกาสสมสู่กับผมผมเองนิสัยก็เจ้าชู้อยู่แล้ว ใจก็คิดเอาไว้แล้ว คิดว่าแม่เลี้ยงไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิด เมื่ออยู่ใกล้ก็ทำผิดทำนองคลองธรรม เนื่องจากตัณหาราคะมีมาก ต่อมาภายหลังพ่อจับผมได้ โกรธเป็นการใหญ่แต่ผมก็แสดงความเสียใจต่อหน้า แท้จริงก็ไม่ยึดถือทำนองคลองธรรม ยังแอบสมสู่กับแม่เลี้ยงมาตลอด เมื่อตายลงวิญญาณตกลงนรก เนื่องจากนิสัยเจ้าชู้ข่มขืนหญิงชาวบ้านประพฤติผิดศีลธรรม ร่วมประเวณีกับแม่เลี้ยง ยมบาลลงโทษสถานหนัก ภายหลังพ้นโทษ ถูกให้มาเกิดเป็นไก่ 2 ชาติ เป็นวัว 2 ชาติ ตอนนี้เป็นวัวชาติเดียว ....คิดถึงตอนเป็นคน ไม่อยู่ในศีลธรรมเลยต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานรู้สึกเสียใจ
อรหันต์จี้กง :เธอมันหนังหนาไม่มียางอาย ทำผิดทำนองคลองธรรม ตอนนี้ขนขึ้นเต็มตัว เหมือนคนป่าที่ไร้การศึกษาคราวนี้เกิดเป็นวัวแล้วหนังก็ยังต้องให้เขาเอาไปทำรองเท้า ให้เขาย่ำยี จะได้ลดบาปลง
วัว ข :ได้โปรดช่วยให้ผมได้เกิดเป็นคนด้วยเถิด ชาติหน้าเป็นคนจะรักษาศีลประพฤติตนเป็นคนดี ไม่ให้ผิดพลาดแม้แต่น้อย
อรหันต์จี้กง :เธอเล่าเรื่องชาติก่อนด้วยความเป็นจริง ก็มีบุญกุศลจะให้เธอเกิดเป็นคนชาติหน้า โชคดีที่ตอนนี้มีการโปรดสัตว์ทั้งสามโลก เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานมีทุกข์อยู่มาก อาศัยทำหนังสือ “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” เป็นเครื่องเตือนสติชาวโลก อาศัยบุญอันนี้โปรดสัตว์จากกองทุกข์ ถ้าหากชาวโลกประพฤติตนเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน หรือฆ่าสัตว์ไว้มาก หรือสร้างเวรกรรมไว้มาก ถ้าได้พิมพ์หนังสือนี้เพื่อเตือนสติชาวบ้านก็จะได้บุญกุศลจะได้แผ่ส่วนบุญไปให้พวกสัตว์บ้าง เวรกรรมก็จะได้ลดน้อยลง เหมือนในโรงฆ่าสัตว์ที่ติดตั้งที่เซ่นไหว้วิญญาณสัตว์พอได้ฤกษ์ก็จัดพิธีเซ่นไหว้ เหตุผลก็อันเดียวกันพวกที่ฆ่าสัตว์ก็ต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ พวกที่กินเนื้อสัตว์ก็เช่นเดียวกัน พวกเราเปลี่ยนสถานที่สอบสวนดีกว่า ไปสัมภาษณ์โคนมให้รู้เรื่องทางบาปชาติก่อน
หยางเซิง :ขอรับ ผมขึ้นนั่งบนดอกปทุมทิพย์แล้ว...
อรหันต์จี้กง :ถึงที่หมายแล้ว
หยางเซิง :ที่นี่ที่ไหนครับ? ข้างในมีโคนมเลี้ยงไว้เยอะ
อรหันต์จี้กง :ที่นี่คือ ที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่นอกเมืองไทเป เอาไว้เลี้ยงโคนม
หยางเซิง :ใช้วิธีอะไรไปสัมภาษณ์
อรหันต์จี้กง :ให้ฉันเจิมมันก่อน “เจ้าโคนม เจ้าโคนม แบกถุงนมให้ชาวบ้านดื่มกิน บุญกุศลไหลหลั่ง รีบๆ ตื่น รีบเล่าสาเหตุออกมา
หยางเซิง :อาจารย์เจิมให้มัน มันเริ่มอ้าปากพูดแล้ว
วัว ค : ท่านสองคนเป็นใคร วันนี้ทำไมมารบกวนพวกเรา?
อรหันต์จี้กง :ฉันคือ อรหันต์จี้กง เขาคือคนทรงเมืองไถจงสำนักเซิ่นเต๋อถัง เราศิษย์อาจารย์ได้รับบัญชาจากสวรรค์มาทำหนังสือ “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก”
วัว ค : ที่แท้ก็คือท่านอรหันต์จี้กงที่เจิมให้ฉัน ถึงได้ระลึกถึงชาติก่อนได้อย่างฉับพลัน ฉันจะตั้งใจทำความดีเพื่อชดเชยฉันยินดีเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชาติก่อนให้ชาวโลกฟัง ฉันชาติที่แล้วเกิดในอเมริกาเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้า เนื่องจากรูปร่างหน้าตาดีหุ่นดี เปลื้องผ้าให้ชาวบ้านชมเปลือยอกและของสงวนให้แขกชม พวกแขกต่างชมแล้วตาค้างปากเปรี้ยว ตบมือดีใจใหญ่ ต่อมาก็คบหากับคนมีเงินขายตัว ทำอยู่แบบนี้จนกระทั่งอายุได้ 45 ปี ค่อยเปลี่ยนอาชีพมาขายเพชรพลอย แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุรุ่ยสุร่าย หาความสำราญไปเรื่อย เที่ยวนอนกับคนอื่น ชีวิตสำส่อน พอตายลงวิญญาณตกนรก รับโทษกรรมแล้วค่อยกลับชาติมาเกิดเป็นวัว อันนี้คือชีวิตชาติก่อน
หยางเซิง :เธอทำไมกลับชาติมาเกิดเป็นโคนมล่ะ ทำไมไม่ไปเกิดเป็นสัตว์ประเภทอื่น?
วัว ค: เพราะว่าฉันชาติก่อนชอบเปลือยอกและของสงวนการกลับเกิดเป็นโคนมมีน้ำนมเต็มแล้วเต่งตึง ส่วนของสงวนก็เปิดออกหมด ทั้งชาติก่อนฉันรักสวยรักงาม มีเต้านมสวยงามไว้ให้ชายขยำเล่นปลุกอารมณ์ ไม่ยอมให้เด็กทารกได้ดื่มกินนม ดังนั้นการเกิดเป็นโคนมก็เพื่ออุทิศน้ำนมของตนให้กับทารกชาวบ้านได้ดื่มกิน หรือไม่ก็ทำเป็นนมผงเพื่อชาวบ้านได้บริโภค สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากกรรมเก่าที่ได้สร้างเอาไว้
หยางเซิง :การกลับชาติมาเกิดด้วยลักษณะนี้ สมเหตุผลที่เกี่ยวกับความสนุกชาติก่อน เป็นที่กำหนดกฎเกณฑ์ของผู้สร้างช่าวอัศจรรย์ยิ่งนัก เธอเกิดเป็นโคนมนั้นมีความรู้สึกอย่างไร?
วัว ค :ฉันรู้สึกสำนึกผิดที่ประกอบการอย่างนั้นเมื่อชาติก่อน เพราะเปลือยกายบำเรอความสุขสู่ผู้ชม ทำให้พวกผู้ชายจิตใจว้าวุ่นคิดแต่กามราคะ ก่ออาชญากรรมข่มขืน ซึ่งเป็นอาชีพที่ละเมิดศีลธรรม ย่อมมีเวรกรรม โคนมกินอาหารบำรุงเลี้ยงเพื่อผลิดน้ำนม เจ้าของโคก็รีดน้ำนมไปขาย ฉันเองไม่ได้รับผลตอบแทนอะไร เมื่อเต้านมคัด ถ้าน้ำนมไม่ถูกรึดออกฉันก็รู้สึกไม่สบาย เมื่อนมถูกรีดออกไป ก็ค่อยรู้สึกสบายแต่ฉันก็แก่ชราไปทุกๆ วัน เต้านมฝ่อลง ไม่สามารถจะผลิตน้ำนมออกมาได้อีก ก็จะถูกขายไปเข้าโรงฆ่าสัตว์เพื่อให้เนื้อแก่ผู้บริโภค ฉันได้ทำงานแต่ไม่ได้รับค่าตอบแทน อย่างนี้ไม่ใช่เป็นการทรมานหรอกหรือ?
อรหันต์จี้กง :เจ้าของใกล้าตัวเจ้าเสมอ เธอถูกเขารีดนมทุกๆ วันอย่างนี้มิใช่เป็นสิ่งต้องการของเธอเมื่อชาติก่อนหรอกหรือ? ถึงแม้วิทยาการก้าวหน้ามีเครื่องรีดนม แต่ก็ได้รับการลูบคลำของเจ้าของมิใช่หรือ?
หยางเซิง :ขอถามวัวอีกตัวว่าชาติที่แล้วก่อกรรมอะไรไว้?
วัว ง :ได้ฟังเพื่อน ๆ ได้เล่าเรื่องราวชาติที่แล้ว รู้สึกอายสุดขีด ฉันเองก็เช่นเดียวกันอยู่ในกลุ่มคาวโลกีย์ ได้อยู่ในวงดนตรีวงหนึ่ง มีการแสดงระบำเปลื้องผ้า และเนื่องจากการจับกุมของตำรวจกวดขันมาก ได้แต่หลบๆ ซ่อนๆ ต่อมาภายหลังได้ไปทำงานในบาร์ใต้ดิน เปลือยกายรินเหล้านั่งอยู่ข้างแขกที่มาหยอกล้อจับเล่น และเพราะเคยอยู่กับพ่อค้าหลายคนทำให้ครอบครัวเขาแตกร้าว ก่อกรรมทำเข็ญมากมายฉันเกิดตายลงอย่างกระทันหัน พอตายไปก็ถูกพิพากษาให้มาเกิดเป็นโคนม ทุกๆ วันต้องพยุงเต้านมที่หนักอึ้ง แม้ว่าเจ้าของจะรีดนมไปแล้วก็ตาม มีความสบายชั่วไม่นาน เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นรู้สึกสูญเปล่า แต่ก็เศร้าเสียใจไม่หาย
อรหันต์จี้กง :อันนี้เป็นอาชีพประจำ ชาติก่อนอาศัยเต้านมคู่นี้เป็น “ต้นทุน” หาเงิน ชาตินี้ก็เช่นเดียวกันก็อาศัย “ต้นทุน” นี้ให้เจ้าของหาเงิน อันนี้เป็นกรรมแห่งกรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
หยางเซิง :พวกเขาอุทิศนมสดให้กับมนุษย์ นมสดใช้เลี้ยงทารกน่าจะมีบุญคุณบ้าง
อรหันต์จี้กง :พวเขากำลังทำงานเพื่อชดเชยที่ผ่านมา ชาตินี้ได้เลี้ยงดูชาวโลก ทำบุญเพื่อชดเชย ดังนั้นชาวโลกอย่าได้ดูแคลน พวกเขามีพระคุณต่าทารกในการดำรงชีพ ดังได้กล่าวมาเมื่อครู่ มันเป็นกฎแห่งกรรมเท่านั้น
หยางเซิง :ปัจจุบันนี้ ทารกส่วนใหญ่ไม่ได้กินนมคนแต่กินนมวัว อันนี้จากเหตุผลอะไร?
อรหันต์จี้กง :หญิงปัจจุบันรักตัวเองเกรงว่าถ้าให้กินนมแล้วรูปร่างจะไม่สวยงาม ดังนั้นจึงใช้นมวัวเลี้ยงแทน โชคดีขึ้นอีกหน่อยที่ว่าจะได้มีคนกลับไปเกิดเป็นโคนมมากขึ้นอีก จะได้เพียงพอกับความต้องการของชาวโลก
หยางเซิง :โคนมที่พูดถึงเมื่อครู่นี้ก็เป็นผู้หญิงกลับชาติมาเกิดทั้งนั้นหรอกหรือ?
อรหันต์จี้กง :ส่วนใหญ่ใช่ พวกผู้หญิงที่ชอบโชว์นมและของสงวน พวกแสดงระบพเปลือยหรือแสดงหนังลามกกทำลายศีลธรรมโน้มน้าวคนให้หลงตัณหาราคะ และก็พวกที่ไม่ชอบเลี้ยงลูกด้วยนม ก็ต้องเวียนเกิดเป็นโคนม
หยางเซิง :เด็กชาวโลกตั้งแต่เล็กจนโต ถูกเลี้ยงดูด้วยนมโคจนเติบโต นิสัยเหมือนวัวควายไม่มีกตัญญูกตเวทิตา ต่อผู้บังเกิดเกล้า จะมีการแก้ไขได้อย่างไร?
อรหันต์จี้กง :สภาพของโลกเปลี่ยนแปลงไป การกตัญญูกตเวทิตา ของทุกประเทศนับวันจะจมหายไป ยิ่งเกี่ยวกับการบริโภคนมโคแล้วมีผลมาก ด้วยเหตุฉะนี้อยากจะเตือนสติผู้เป็นแม่ทั้งหลายทางที่ดีเลี้ยงลูกด้วยนมของตนเอง อันนี้สามารถสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกได้ เนื่องจากนมแม่ก็มีอุปนิสัยคออยู่ นมโคก็ย่อมมีอุปนิสัยโคอยู่ จากอดีตถึงปัจจุบัน ความกตัญญูกตเวทิตาได้ห่างไกลกันมาก สิ่งเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งขอให้คุณแม่ในโลกนี้ควรรู้ สวรรค์ทรงสร้างเต้านมเพื่อให้มีการเลี้ยงดูบุตรสืบทอดสกุลมิใช่สร้างเต้านมเพื่อเป็นการค้านึกอยากค้าก็ค้า นั่นไม่เพียงแต่ไร้ศีลธรรมเท่านั้น ยังละเมิดต่อจิตสวรรค์ โปรดให้นมเลี้ยงดูทารก มิใช่ไว้ค้าขาย ยังเป็นการสร้างเสริมความรักของแม่ที่ดีต่อลูกด้วย วันนี้เราพอแค่นี้กันก่อน หยางเซิงขึ้นปทุมทิพย์
หยางเซิง :ผมนั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์กลับสำนักเถิด
อรหันต์จี้กง :ถึงสำนัก เซินเต๋อถังถึงแล้ว หยางเซิงลงมาได้ วิญญาณกลับเข้าร่างเดิม
สมัยมีชีวิตอยู่ ข้าพเจ้าเคยไกล่เกลี่ยให้แก่สามีภรรยาคู่หนึ่ง เรื่องเป็นดังนี้