ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรมะ 2 วัน ณ พุทธสถานไท่อิน กรุงเทพมหานคร
อาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พุทธศักราช 2535 ดังนี้:
มีผู้ปฏิบัติงานบางคนบอกว่า การบำเพ็ญธรรมเป็นธรรมชาติเหมือนเรือลำหนึ่งปล่อยให้เรือลอยไปเรื่อยๆ แล้วเกิดเรือไปชนหินเข้า ก็หยุดอยู่ตรงนั้นหรือ
การบำเพ็ญธรรมถึงแม้ว่า จะเป็นการบำเพ็ญแบบธรรมชาติ แต่เป็นการบำเพ็ญแบบธรรมชาติพุทธะธรรม
ชาติของพุทธะ หรือภาวะของพุทธะ คือรู้ตื่น เบิกบาน เป็นสายกลาง
ถ้าหากเราหมั่นฝึกฝนบำเพ็ญจิตของเรา ย้อนมองส่องตน พิจารณาด้วยปัญญาบ่อยๆ นานเข้าจิตพุทธะข้างใจของเรา ก็คงปรากฎเด่นชัดขึ้นตอนนั้นเราก็คงทราบว่า การบำเพ็ญธรรมของเราเป็นธรรมชาติ เป็นอย่างไร เพลงธรรมะที่ร้องไป มีใครเข้าใจเนื้อหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้าใจด้วย เห็นร้องเพลงศรัทธาของพระอาจารย์ ร่าเริงเหลือเกิน
งานประชุมธรรมสองวันนี้ จัดขึ้นมาได้ ทางคนก็เตรียมตัว ทางฟ้าก็มีการเตรียมงานเหมือนกัน เพียงแต่หลานๆ ไม่ทราบเท่านั้นเอง หลานๆได้มาฟังในวันนี้ ที่ว่าง่วงนอน ลำบาก ก็ยังถือว่าสบายแล้ว ได้นั่งเก้าอี้เซียนกันรู้ไหม ได้ฟังหัวข้อธรรมะไปมากมาย แล้วคิดจะช่วยอาจารย์ โปรดคนมารับธรรมหรือเปล่า การเป็นคนที่สมบูรณ์ ต้องมีจิตใจเหมือนมนุษย์หมายถึงดีแท้ งดงาม น้ำใจเผื่อแผ่ให้คนอื่นๆ ความหมายชื่อของอาจารย์ หมายถึง อนุเคราะห์ชาวโลก ชาวโลกมีมากมาย แต่มีคนเพียงกลุ่มเดียว ถ้าจิตใจดีแล้ว เผื่อแผ่ให้คนรอบข้าง คนรอบข้างก็จะดีขึ้น แล้วขยายวงดีขึ้น และกว้างขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนมารับธรรมะมีความเสมอภาค ไม่แบ่งแยกสกุล ฐานะ คนมาบำเพ็ญธรรมเท่าเทียมกันหมด.