พระนพภางค์เจ้า (กิ่วเทียนซือเหม็งจิงกุง)
ด้วยโคมหนึ่งส่องทางอันมืดมน คุณธรรมถ่ายทอดโปรดเวไนย์
อบรมโง่งมมิทำส่งเดชไป ความลวงหมดสิ้นไซร้ลอยหลุดพ้น
คนเรามักปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองเสมอ ส่วนใหญ่มักสวมหน้ากากแสดงอำนาจโอ้อวดและลวงหลอกเป็นต้น ศักดิ์ศรีของคนทำไมจึงช่างเปราะบางเช่นนี้ ง่ายต่อการทำลาย ถูกติฉินนินทา รู้สึกว่าศักดิ์ศรีถูกทำลายไปรักษาหน้าไม่อยู่ (หน้าแตก) ก็เกิดโทสะรุนแรง จึงเกิดอารมณ์เลวร้ายนี้ทำให้เจ็บแค้นสั่งสมเพื่อหาโอกาสแก้แค้นเพื่อเอาหน้าคืนมา
อันที่จริงเมื่อพูดถึงศักดิ์ศรี ระดับศักดิ์ศรียิ่งสูงก็ยิ่งเปราะบาง โอกาสหน้าแตกก็ยิ่งมากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงต้องปล่อยวางอัตตาลง เอาหน้าตาที่ลวงปลดวางลง ต้องยอมรับตนตามความเป็นจริง
คนเราถ้าไม่สามารถมองทะลุถึงความลวงแห่งศักดิ์ศรีได้ ก็จะยึดติดในอัตตาหลงใหลตนหนักหน่วงขึ้น พอถูกถากถางเพียงน้อยนิดก็เจ็บปวดรุนแรง โดยเฉพาระชีวิตสังคมปลดปล่อยเช่นปัจจุบันทุกคนต่างมีมุมมองของตน ล้วนเกิดความคิดเห็นที่แตกต่างตลอดจนได้รับการต่อต้าน แล้วก็ตัดความหวังดีของเธอ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ก็เพราะถูกศักดิ์ศรีทำร้ายเอา เช่นนี้แล้วจะมีอารมณ์ดีได้อย่างไร การพัฒนาสร้างสรรจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
คนเราต้องมีชีวิตและอารมณ์ที่สงบสุข นอกจากการทำลายอัตตากับหลบเลี่ยงไม่ให้ยึดติดกับการแสวงหาศักดิ์ศรีแล้ว ก้าวต่อไปก็คือไปปกป้องศักดิ์ศรีของผู้อื่น จึงจะเห็นความงามของอารมณ์แห่งมนุษยชาติได้ ชีวิตที่มีอารมณ์สงบมีความจำเป็นมาก ถ้าหากชีวิตต้องดิ้นรน ทั้งยังโลกแล่นอยู่บนความอยากที่รุนแรง ชีวิตก็จะหิวกระหายอยู่กับการได้เสีย ทำให้จิตวิญญาณขัดแย้งกับการกล่าวโทษผู้อื่น ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เรียกได้ว่าถึงที่สุดแห่งความเลวร้ายแล้ว อารมณ์เลวร้ายนอกจากการบ่งบอกถึงความโชคร้ายไม่มีสุขแล้วก็ยังกระทบกระเทือนไปถึงสุขภาพด้วย เพราะความมีชีวิตชีวาก็ขึ้นตรงต่อโชคลาภโดยตรง ด้วยเหตุนี้สภาพการทำงาน จังหวะชีวิต ความอยากได้ของจิตใจล้วนต้องได้รับการตระเตรียมและการจัดระเบียบ
ที่กล่าวว่า “ใจปกติคือเต๋า” ก็แฝงเร้นอยู่กับชีวิตปกติท่ามกลางการเคลื่อนไหวและหยุดนิ่ง ขอเพียงสามารถจัดการให้ดี นั่นคือ “เต๋าละ” ภูเขาเขียวไม่เคลื่อนที่ ที่เคลื่อนคือเมฆขาวลอยไปมา หากไม่ถูกสภาวะจิตพาเตลิดก็ทำให้ชีวิตสับสนวุ่นวาย ขึ้นลงไม่แน่นอน ชีวิตอารมณ์ก็อาจพูดได้ว่าหยุดนิ่งแล้ว
นอกจากนี้ ชีวิตต้องฝึกให้นิ่งเงียบ ถ้าหากการพูดจะเป็นการกระทบต่อศักดิ์ศรีผู้อื่น หรือไม่ก็จะยั่วยุโทสะตนเอง ดังนั้นการฝึกนิ่งเงียบเป็นผลดีทั้งต่อตนเองและผู้อื่น นี่เรียกว่าเอาความนิ่งเงียบเป็นคำพูด เอาความสงบเป็นการกระทำ ตอนนี้ก็จะได้รับความสงบสุขที่สวยงาม
คนเราไม่อาจหลีกเลี่ยงจากความทุกข์ยาก ตกระกำลำบากหรือถูกมรสุมกระหน่ำรุนแรงจะต้องไม่ย่อท้อที่จะยืนหยัดมีชีวิตอยู่ อ่อนเอนยอมรับชะตากรรมของตนไปเผชิญหน้ากับความจริงและขยันหมั่นเพียร หลบเลี่ยงกล่าวโทษผู้อื่นแล้วรับผิดชอบตนเอง ไปแบกรับไม่ใช่ตนต้องจมปลักอยู่กับความน่าสงสาร ต้องตื่นขึ้นไปเข้าใจทัศนะในคุณค่าของตนกับกลไกการเคลื่อนไหวเข้าใจเงื่อนไขของตน ปลดปล่อยใจเถื่อนและความคิดที่ฟั่นเฟือน กล้าหาญตัดสินใจ เช่นนี้แล้วย่อมสามารถกลายเป็นอุดมการณ์ของตนในภายหลังได้