หมอกบางยามเช้าปกคลุมผืนป่าที่หนาทึบ เหมือนหญิงสาวที่พึ่งตื่นนอนมาตลอดคืน ซึ่งได้ชำระล้างด้วยน้ำเย็นจากบ่อน้ำ หน้าที่แหลมเรียวก็นวลผ่องเผยปรากฏความสดชื่นเอื่ยมอ่อง ทั่วพื้นดินที่ขมุกขมัวเริ่มเปิดทัศนียภาพที่ซ่อ่นเร้นกลไกการเกิดที่ไม่สิ้นสุด
ธรรมาจารย์กตี้ซุ่นก็ปรากฏกายที่แม้จะผอม แต่ก็สดใสอยู่กลางป่านั้นธรรมาจารย์ตี้ซุ่นมีจิตวิสัยที่ดีงาม โอบอุ้มสรรพสิ่งด้วยความเมตตาไว้ในอกเสมือนเป็นกายเดียวกัน เมื่อพบกับผู้ทุกข์ยากไม่มีที่พึ่งพิง บ่อยครั้งที่ใจเกิดเวทนาสงสาร น้ำตาก็จะไหลอาบหน้า ก็จะรีบถอดเสื้อผ้าให้และยอมกินน้อยลงทุ่มเทกำลังช่วยหลือ สัตว์ทั้งหลายในป่าจะสามารถรู้สึกถึงความเมตตารักใคร่ด้วยความแจ่มใส ต่างมีความสบายที่จะเข้าใกล้ เจ้ากระรอกน้อยจะตวัดหางเดินตามอาจารย์ตี่ซุ่นที่กำลังเดินคิดอย่างช้าๆ นกน้อยก็พากันบินวนอยู่หลายรอบก่อนจะบินลงเกาะที่หัวไหล่ของตี่ซุ่นต่างแบ่งปันธรรมปีติอยู่รอบๆ
เมื่อจบการเดินจงกรมอันเป็นกิจวัตร แล้วก็เดินกลับมาที่วัดเต้งซัวมีเสียงอีกทึกอยู่นอกวัด เขาผลักประตูออกดู ไก่ป่าตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากพรานล่าสัตว์ติดตามมา มันรีบถลันหาที่หลบซ่อนจึงได้โอกาสมุดเข้าห้องของอาจารย์ตี่ซุ่น หลบซ่อนอยู่ข้างเตียง ตี่ซุ่นเห็นตาที่ตกใจกลัวของไก่ป่าทำให้ใจอดทนไม่อยู่ จึงเตือนนายพรานให้หยุดฆ่าสัตว์ตัดชีวิตว่า “การฆ่าทำลายชีวิต บาปกรรมหนักมาก ขอให้ท่านมีใจเมตตา ปล่อยเจ้าตัวน่าสงสารนั้นเสียเถิด”
นายพรานไม่รู้สึกถึงความหวังดีนั้น จึงตอบกลับด้วยอาการชาเย็นว่า “รีบคืนสัตว์ล่ามา ไม่ต้องพูดพล่ามมาก!”
อาจารย์ตี่ซุ่นแข็งขันของชีวิตไก่ป่า พูดดีหว่านล้อม แต่นายพรานใจดุจเหล็กหิน ไม่ยอมหยุดว่า “ไม่ได้! ไม่ได้! การปล่อยชีวิตเป็นเรื่องของผู้ออกบวช การปล่อยเจ้าไก่ป่าตัวอ้วนนี้แล้ว คนที่บ้านข้าคงต้องไปกินลม!” อาจารย์ตี่ซุ่นไม่อาจต้านทานความใจแข็งของนายพรานนั้นได้ ในใจก็คิดแต่จะช่วยเจ้าไก่ป่าที่บาดเจ็บนั้น จึงปลดมีดขึ้นแล้วเฉือนใบหูตนเองข้างหนึ่งส่งให้นายพราน แล้วพูดว่า “อาตมาไม่มีเงินจะซื้อไก่นั้น ตอนนี้เอาหูข้างหนึ่งแลกกับชีวิตไก่ป่าตัวหนึ่ง ขอท่านผู้บริจาคช่วยส่งเสริมด้วย ปล่อยมันไปเสีย”
นายพรานถูกการกระทำอันเฉียบพลันนั้นหยุดไว้ เห็นตี่ซุ่นกระทำเพื่อสัตว์เดรัจฉานที่ต่ำต้อยเช่นนั้น ยอมทำร้ายตัวเองเพื่อช่วยชีวิต สภาวะความเลวทรามของตนเองถูกทำลายไปด้วยการกระทำอันสูงส่งของอาจารย์ตี่ซุ่นทำให้ซาบซึ้งถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จึงสาบานว่าจะไม่ล่าสัตว์อีก”
ไม่นานนัก เรื่องนี้ได้แพร่สะพัดไปถึงหมู่บ้านใกล้ไกล นายพรานจำนวนมากยกย่อมถึงความเมตตาของตี่ซุ่น เกิดมีใจโพธิสัตว์ขึ้น ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ ไม่ฆ่าสัตว์อีกต่อไป