เซียนอึ่งเจียะกง
พูดเรื่องเซียนง่ายประจักษ์เซียนยาก ธรรมแม้มากเพียงใจส่องบั้นปลาย
จิตหนึ่งคิดสว่างใสล้วนฝึกกาย สุขสบายเดินนั่งล้วนสำราญ
ชาวโลกฝึกเวียนได้สามวันก็คิดเป็นเซียน ดังนั้น ทุกครั้งที่คนคุยกันยามว่าง หรือยามที่อยู่คนเดียวในที่เงียบสงบแล้วครุ่นคิด ก็มักจะคุยโวถึงการสำเร็จเซียน กับการพอใจกับความคิดมายาจนได้ใจ ปากก็คุยฟุ้ง หากไม่รู้ว่าพูดเรื่องเซียนง่ายแต่จะสำเร็จประจักษ์เป็นเซียนนั้นยาก
เพราะว่าชาวโลกล้วนสามารถหลุดจากการถูกหลอกของกิเลสรอบด้าน อีกทั้งโลภยึดติดอยู่กับชื่อเสียงเกียรติยศผลประโยชน์ ทุกๆ คนล้วนจมปลักอยู่ในปล่องบุปผานาๆ หลงอยู่ในภาพความงามรุ่งโรจน์ เมาอยู่กับการเสพความร่ำรวย ทุกคนดำดิ่งอยู่กามคุณ เมาอยู่กับชีวิตและตายในความฝัน ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เห็นแจ้งในทุกข์จนละทิ้งความจอมปลอมแล้วไปบำเพ็ญสัทธรรม เช่นนี้แล้วจะสามารถมีคุณสมบัติพอที่จะสำเร็จประจักษ์เซียนได้อย่างไร น่าเสียดายนัก! ชาวโลกขาดแคลนสัมมาปัญญา สัมมาทิฏฐิ พอใจพูดธรรมะเพียงแค่ปาก พูดเสียถูกหลักถูกการไปทุกข์ แต่ว่าพอจะปฏิบัติเขาจริง กลับติดขัดไปเสียทุกเรื่องทุกทางก็ไม่ใช่ธรรมะแล้ว นี่ก็คือผู้ที่เรียกกันว่าปฏิบัติกันในปัจจุบัน เป็นข้อขัดแย้งเป็นโรคสังคมที่พบได้มากที่สุด
<b>พุทธพจน์</b>: ธรรมทั้งหลายอยู่ที่ใจ ข้างนอกใจไม่มีสภาวะ นอกสภาวะไม่มีใจ สภาวะ ทั้งหมดคือใจ ใจทั้งหมดคือสภาวะ หยู้กล่าวว่า “ที่ว่าธรรมะนั้นไม่อาจหลักห่างได้ ที่หลีกห่างได้ไม่ใช่ธรรรม” คำพูดที่ว่าธรรมะอยู่กลางใจตนอย่าได้แสวงหาเอาจากภายนอก หวังว่าชาวโลกจะเข้าถึงเหตุผลอันนี้ อย่าได้เอาความว่างเปล่าไปพูดถางคนเป็นเซียน โดยเอาแต่พูดปากเปล่าไม่ฝึกฝน