จิวคี่กี
สายธารไหลริน แมกไม้เขียวขจี ดอกไม้ป่างดงามแต่งแต้มบ้านป่างามดั่งมนต์ขลัง
ดวงตะวันไต่สู่กลางนภา ทันใดก็ให้มีกวางตัวหนึ่งวิ่งกระโจนเข้าไปในกลางบ้านหลังนั้น แล้วก็ใช้เขาทั้งคู่ช้อนเด็กน้อยให้ขึ้นขี่บนหลังของมัน เด็กน้อยร้องไห้ลั่นบ้านด้วยความตกใจ หญิงกลางคนวิ่งเข้าไปดูในบ้านกวางตัวนั้นจึงวิ่งออกไปที่ราวป่าพร้อมกับเด็กน้อย หญิงแม่บ้านตกใจจนหน้าซีด จึงรีบวิ่งตามออกไปนอกบ้านพอไปถึงราวป่าก็พบว่าเด็กน้อยนั้นอยู่สุขสบายนั่งอยู่บนพื้นหญ้า เมื่อพบหน้าแม่ก็ยิ้มหัวเราะด้วยความดีใจ แม่บ้านรีบวิ่งเข้าไปอุ้มเด็กน้อย ท่าทางไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ
แม่ลูกรีบกลับมาที่บ้าน พอมาถึงก็ตกตะลึงเข่าทรุด ต้นไม้ใหญ่หลังบ้านต้นหนึ่ง ขณะที่เธอวิ่งออกมาตามหาลูก ได้ล้มครืนลงมา ทำให้ผนังบ้านล้มพังลงมา ทั้งไก่ทั้งสุนัขถูกต้นไม้ล้มทับตายหมด
ขณะนี้เอง นางก็หวนระลึกได้ว่า มีวันหนึ่งเมื่อปีกลาย มีพรานป่าคนหนึ่งวิ่งตามกวางตัวหนึ่ง กวางตัวนั้นวิ่งเข้ามาในบ้านของนาง ปกตินางเป็นคนมีเมตตาอยู่แล้ว ก็คิดไม่อยากให้กวางต้องตาย จึงเอาผ้าคลุมกวางเอาไว้ เมื่อนายพรานเข้ามาในบ้านก็ไม่เห็นกวางอยู่ในบ้าน จึงจากไป พอนายพรานออกไปไกลมากแล้ว นางจึงปล่อยกวางออกไป สัตว์มีจิตวิญญาณ ก่อนไปมันผงกหัวแสดงความขอบใจที่ช่วยชีวิตมัน มิน่าเล่าเมื่อนางมีเมตตา ได้ช่วยชีวิตกวางไว้ กวางจึงคิดตอบแทนคุณ ได้ช่วยชีวิตของสองแม่ลูก ไม่ต้องถูกต้นไม้ทับตาย เมื่อนางคิดมาถึงจุดนี้จึงรำพึงขึ้นว่า “ช่วยชีวิตสัตว์มีวิญญาณก็เท่ากับช่วยชีวิตของตนเอง”