mindcyber 1 year ago

ถนอมกายคน เคารพชีวิต

ตั้งเป้งเสียก

                เริ่มแรกต้องขอบคุณที่เบื้องบนเมตตา ที่ให้โอกาสแก่พวกเราได้มาร่วมบุญสัมพันธ์เพื่อรับแสงรัศมีองค์พุทธะ หัวข้อธรรมที่นำมาสนทนากันในวันนี้คือ “ถนอมกายคน เคารพชีวิต" เมื่อคราวเกิดแผ่นดินไหว“ 921” เป็นครั้งที่รุนแรงของไต้หวัน ชีวิตหลายพันคนและทรัพย์สินต่างพินาศลงในพริบตาบางคนคิดอยากมีชีวิตอยู่ก็อยู่ไม่ได้บางคนคิดจะตายก็ตายไม่สำเร็จ ช่วงเวลานั้นต่างก็ยื้อแย่งต่อรองกับเทพเจ้า นี่คือช่วงที่เศร้าที่สุดของชีวิตมนุษย์

                 เมื่อหันกลับมามองดูคน ที่ไม่รู้จักถนอมกายคน ไม่เคารพชีวิตแต่ละวันใช้ชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อเมามัน คล้ายกับซากศพที่เดินได้ แต่ละวันมีแต่เรื่องราวต่างๆ บ้างก็เสวยกามคุณเกินประมาณ เป็นการทำร้ายชีวิตไม่รู้จักรักถนอม

                 เซียนพุทธเมตตาสอนเราว่า “ร่างกายคนได้มายาก กลางแผ่นดินเกิดได้ยาก ธรรมแท้พบยาก ธรรมาจารย์พบได้ยาก วันนี้ได้เกิดเป็นคนแล้วกายคนที่ได้ยากก็ได้มาแล้ว ได้เกิดกลางแผ่นดินแล้ว ได้ธรรมแท้ที่พบได้ยากแล้ว ธรรมาจารย์ที่พบยากได้พบแล้ว ครบถ้วนแล้ว หากยังไม่บังเกิดศรัทธาอีก พุทธะก็ฉุดช่วยเราได้ยาก ปัจจุบัน พวกเราผู้มีโชคระดับไหนรู้ไหม สิ่งที่ได้ยากเหล่านี้ก็ได้หมด มีชีวิตอยู่ในเมืองแมนเกาะสวรรค์แห่งนี้ควรรู้จักพอและมีสุข รู้จักขอบคุณ ถนอมบุญ

                 แต่ก็มีบางคนที่ไม่รู้จักพอเพียง ไม่รู้จักว่าสุข ไม่รู้จักรู้สึกเป็นหนี้

บุญคุณ ไม่รู้จักถนอมบุญ ไม่รู้จักความไม่เที่ยง ไม่รู้จักกรรมตอบสนอง

เป็นคนดีๆไม่ชอบ ชีวิตดีๆไม่ชอบ น่าเสียดายนัก!  

 

เราจะถนอมกายคนได้อย่างไร และเคารพชีวิตอย่างไร 

                    1. ต้องมีความรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณฟ้าดิน

         (1) รู้จ้กขอบคุณฟ้าดิน คือ รู้คุณฟ้าดิน รู้คุณที่แผ่นดินรองรับและมีฟ้าคลุมไว้ เราต้องรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณของฟ้าดินทุกขณะจิตเพราะฟ้าให้กำเนิดแผ่นดินเลี้ยงดูจนเติบโตเป็นคน จักรวาลถ้าไม่มีฟ้าดินก็ไม่มีมนุษย์ชาติก็ไม่มีสรรพสัตว์ไม่มีสรรพสิ่งบนฟ้ามีหยินหยางมีอาทิตย์จันทร์ เราจึงได้รับแสงอาทิตย์มีความร้อน แสงจันทร์ให้ความนุ่มนวล โดยเฉพาะท่ามกลางฟ้าดินนี้ มีอากาศที่เราขาดเสียไม่ได้ มองดูคนในปัจจุบันนี้ซิ เอะอะอะไรก็ชี้ฟ้าด่าดิน ทำลายธรรมชาติ ละเมิดหลักธรรม ทำลายแผ่นดิน ทำร้ายความสัมพันธ์ ถ้าเราไม่รู้สึกสำนึกผิด ไม่รู้จักบุญคุณเราผู้ยืนหยัดศีรษะชี้ฟ้าเท้าเหยียบดิน จะยกย่องว่าเป็นผู้ประเสริฐได้หรือ

         (2) รู้จักขอบคุฌบิดามารดา พระคุณของบิดามารดาใหญ่หลวง ไร้ ขอบเขต

                  1) บุญคุณดูแลรักษาครรภ์

                  2) บุญคุณทนทุกข์ใกล้คลอด

                  3) บุญคุณจะให้กำเนิดจนลืมทุกข์

                  4) บุญคุณทนคลื่นไส้อาเจียน

                  5) บุญคุณคลอดบุตรเหงื่อกาฬแตก

                  6) บุญคุณที่ป้อนนมป้อนข้าว

                  7) บุญคุณที่อาบน้ำชำระล้าง

                  8) บุญคุณที่คิดถึงยามลูกเดินทางไกล

                  9) บุญคุณที่ห่วงใยสุขภาพ

                  10)บุญคุณที่สงสารถึงที่สุด

                 อีกายังรู้จักกลับมาเลี้ยงดู แพะรู้จักคุกเข่ากินนม ถ้าเกิดมาไม่รู้จักตัญญูพ่อแม่ แย่ยิ่งกว่าสัตว์ก็ไม่ปาน พ่อแม่มีแต่อุทิศให้ลูก มีแต่ให้ฝ่ายเดียว เลี้ยงดูบูชา ไม่ถือสา ไม่ร้องขออาหารปราณีต ไม่หวังผลตอบแทนพระคุณของท่านยิ่งใหญ่แค่ไหน แล้วผู้คนในสังคมปัจจุบัน ไม่ทำงานสุจริตปล้นฆ่า ลักขโมย หลอกลวง ข่มขืน เหล้า การพนัน ยาเสพติด  สิ่งที่ทำล้วนทำให้พ่อแม่เสียใจ ทำให้บรรพชนมัวหมอง ตลอดจนเห็นพ่อแม่เหมือนเข็มทิ่มแทงตา ถึงกับทำอัปยศอดสู่ เกลียดแค้นให้ตายไวๆ บางคนถึงกับฆ่าพ่อแม่เป็นอนันตกรรม เหมือนไม่ใช่คน

                    (3) ให้ถนอมทุกสิ่งทุกอย่างการถนอมบุญก็คือการสร้างบุญอย่าคิดว่าน้ำเพียงแค่หยดนี้ ไม่รักถนอม ยามขาดแคลนได้มาไม่ง่าย ถ้ารู้จักมัธยัสประหยัดการใช้ คือบุญกุศลดีงามเป็นการถนอมบุญ ที่เป็นความสุขในโลกที่สุดคือการรู้จักพอ มีบางคนติว่านี่ไม่อร่อย นั่นก็ไม่อร่อย กินจนสารพัดจะกินแล้วก็ยังติว่าไม่อร่อย วันนี้ได้เงินทองเป็นกะบุง เงินทองพันล้านก็ยังติว่าไม่พอ ทุกท่านควรรู้ว่า เมื่อความไม่เที่ยงจะมาถึงเมื่อไรก็ไม่รู้ ถ้าไม่รู้จักถนอมรักสิ่งที่มีอยู่ทั้งปวง ไม่ไปผูกบุญสัมพันธ์ ถึงที่สุดแล้ว ท่านเอาอะไรไปได้บ้าง ท่านมีอะไรอีกหรือ

                    2. ต้องเข้าใจการเกิดการตาย

                 เทพพุทธเมตตาสอนว่า เกิดๆ ตายๆ ตายๆ เกิดๆ ให้เข้าถึงเกิด ตาย หลุดพ้นกิเลสแน่ การเกิดใหม่ก็คือการไปเกิดในอีกโลกหนึ่งวิญญาณผ่านร่างกาย ร่างกายก็คือการรวมตัวของดินน้ำลมไฟสี่มหาภูติวิญญาณเคยอยู่แล้วไม่อยู่ต่อ เพราะฉะนั้นเกิดตายก็เป็นเรื่องเช่นนั้น แล้วจุดมุ่งหมายของชีวิตคืออะไร ความหมายอะไร ก็คือการสร้างต่อเนื่องกันของชีวิตในจักรวาล เพิ่มพูนบุญวาสนาของมนุษย์ชาติทั่วทั้งโลก

                 เราคงเคยได้ยินว่า "ความตายหนักดั่งขุนเขาเบาดังขนนก” ดังนี้ตั้งแต่โบราณมาแล้ว นักปราชญ์อริยะ วีระชนผู้กล้าหาญ เพื่อฉุดช่วยชาติให้ประโยชน์กับสรรพสัตว์ จับอาวุธปกป้องแผ่นดิน หัวขาดหลั่งเลือดอุทิศชีวิตให้ประเทศชาติ ถึงแม้จะตายตั้งแต่หนุ่ม แต่ได้รับการยกย่องจากปวงประชา ชื่อประวัติก้องโลก สำเร็จเทพเซียนอริยะได้

                    3. สามารถทำงานธรรมแทนฟ้า 

                    “ผู้คล้อยตามฟ้าเจริญ ละเมิดฟ้าสูญสลาย” เป็นกฎตายตัว

ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเราต้องการแสวงหาความเป็นอมตะของชีวิต ไปเกิด

ในแดนสุขาวดี กลับคืนสู่แดนอนุตตรธรรม ก็ต้องทำงานธรรมแทนฟ้า

ด้วยตามหลักธรรมฟ้า ปฏิบัติธรรมแห่งฟ้า เผยแผ่แทนฟ้า ศรัทธา

พระเจ้ามีพุทธะเป็นสรณะ เข้าใจหลักธรรมกลับสู่สัจจะ

                 มีผู้ได้ธรรมเป็นสงฆ์ผู้ใหญ่ เป็นอาจารย์บุญ เป็นธรรมาจารย์ฉุดช่วย พวกเขาได้อุทิศต่างๆ แต่ละวันถวายชีวิตทำงานแทนฟ้า แพร่ข่าวดีของพระเจ้า แพร่พุทธธรรมของพุทธองค์ กินก็ไม่อิ่มนอนก็ไม่ดี แต่มีความสุขรู้ชะตา ท่านดูซิว่าพวกเขาอายุสั้นหรือตายไม่ดีหรือ? เท่าที่เห็นล้วนได้รับแสงพุทธะรังสีส่อง พุทธธรรมลึก พระเจ้าอวตาร ที่เห็นล้วนมีใจสงบสุขได้ธรรม มีเมตตาอิสระ ธรรมลักษณ์เรียบร้อย

                 สรุป ปัจจุบันยุคสามปลายกัป เปิดให้ฉุดช่วยทั้งสามโลก

ดังนั้น ภัยพิบัติ แผ่นดินไหว เคราะห์ภัยมนษย์ที่เกิดขึ้น คนจำนวน

ไม่น้อยสูญหายชั่วพริบตา และคนไม่มีชีวิตดำรงอยู่ หลายคนไม่มีทาง

ให้เดิน หลายคนไม่มีบ้านให้กลับ แผ่นดินไหว 921 นี้ หวังว่าใจคน

จะตกใจตื่น อย่าหลงทาง อย่าได้สร้างบาปอีก ผู้หลงทางก็ให้หันกลับ

ชำระสะสาง  

0
626
งักฮุย

งักฮุย

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

สะท้อนใจ

หล่ออุ่งฮวด

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

ตกเบ็ดไม่เมตตา

กวนอิม

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

อริโยวาท

สมันตภัทรโพธิสัตว์

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago
ซุปแห้ว

ซุปแห้ว

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago