กบเป็นพยาน

    ที่อำเภอซันเอวี๋ยน มณฑลสั่นซี มีสะพานทอดข้ามคลองสายหนึ่ง  เรียกว่าสะพานซันเอวี๋ยน ที่เชิงสะพานนี้ มีพ่อค้าเต้าฮวย (อย่างเค็ม) คนหนึ่ง แซ่ลี้ ใครๆ พากันเรียกว่า "เต้าฮวยลี้"เหตุที่เต้าฮวยของแกหอมหวานอร่อยเป็นพิเศษ จึงทำให้ขายดิบขายดียิ่งนัก

     ในเวลานั้น มีพ่อค้าใหญ่คนหนึ่งเป็นชาวเมืองชิงไห่ เดินทางมาค้าขายในอำเภอซันเอวี๋ยนอยู่เสมอ  คนทั่วไปเรียกเขาว่า "เหล่าจาง" ทุกครั้งที่เหล่าจางเดินทางมาถึงอำเภอซันเอวี๋ยน เขาจะต้องแวะกินเต้าฮวยของเต้าฮวยลี้ทุกครั้ง จนเวลาล่วงเลยไปนานวันเข้า เต้าฮวยลี้และเหล่าจางจึงกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน

     ครั้งหนึ่ง เหล่าจางเอ่ยถามเต้าฮวยลี้ว่า "เต้าฮวยลี้ น้ำเต้าฮวยของนายทำไมจึงหอมหวานอร่อยนัก  นายมีสูตรลับพิเศษอย่างไรหรือ"

     เต้าฮวยลี้ตอบว่า "เหล่าจาง เรื่องสูตรลับน่ะมีแน่ แต่เราไม่เปิดเผยต่อใครง่ายๆ หรอก  นี่เราเห็นว่านายทำการค้าใหญ่โตอยู่คงไม่มาแย่งอาชีพขายเต้าฮวยของเราหรอก ฉะนั้นถ้าอยากรู้จริงๆ เราจะบอกตามความจริง..."

     เต้าฮวยลี้พูดพลางขยับตัว วางท่าอย่างคนมีวิชาดีแล้พูดต่อไปว่า "กลิ่นหอมในน้ำเต้าฮวยที่ใครๆ  เข้าใจว่าเป็นน้ำเห็ดหอมสดนั้น ความจริงไม่ใช่ มันคือน้ำต้มน่องกบต่างหาก"

      "เฮ้ยเป็นไปได้หรือ" เหล่าจางอุทานอย่างไม่น่าเชื่อ

     "จริงซิ ม่ายงั้นมันจะหอมหวานเป็นพิเศษได้อย่างไรกัน"

     เต้าฮวยลี้ยืนยัน "แล้ววันหนึ่งๆ นายต้องสังหารกบสักกี่ร้อยตัว" เหล่าจางถามต่อ

      "ประมาณร้อยกว่าตัว" เต้าฮวยลี้ว่า

      "วันหนึ่งๆ ต้องสังหารชีวิตมากมายถึงเพียงนั้น โอน่าเสียดายแท้" เหล่าจางสะท้อนใจแล้วถามต่อไป "ทำไมนายไม่เปลี่ยนอาชีพใหม่ล่ะ จะได้ไม่ต้องทำบาปทำกรรมมากมายอย่างนี้ทุกวัน"

      เต้าฮวยลี้ตอบว่า "เราก็รู้ว่า สังหารชีวิตเขาไว้มากมายเหลือเกิน  อยากจะเปลี่ยนอาชีพ แต่เมื่อไม่มีทุนก็ขยับขยายอะไรไม่ได้"

      "เอาอย่างนี้ ถ้านายคิดจะเปลี่ยนอาชีพจริงๆ เราจะให้เงินทุนก้อนหนึ่ง" เหล่าจางว่า

      "ก็ดีน่ะสิ" เป็นอันว่าเหล่าจางก็ได้ให้เงินเต้าฮวยลี้  ไปเป็นทุนสองร้อยตำลึง จากนั้น เต้าฮวยลี้ก็เปลี่ยนอาชีพจากขายเต้าฮวยเป็นเปิดร้านขายเครื่องปั้นดินเผา มีทั้งโอ่งไห ชามจาน ภาชนะของใช้ต่างๆ ส่วนเหล่าจางเมื่อค้าขายเสร็จแล้ว ก็เดินทางกลับบ้านของตนที่เมืองชิงไห่ไป การค้าของเต้าฮวยลี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ

     จนสิบปีต่อมา ฐานะก็เป็นปึกแผ่นเข้าขั้นเศรษฐีย่อยๆ ทีเดียว ฝ่ายเหล่าจางพ่อค้าจากเมืองชิงไห่  หลังจากมอบเงินสองร้อยตำลึงให้เต้าฮวยลี้ไปทำทุนแล้ว ก็ไม่เคยติดต่อข่าวคราวของเต้าฮวยลี้ถึงสิบปีเต็ม เพราะไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องเดินทางมาค้าขายที่อำเภอซันเอวี๋ยนอีก

     ครั้งหนึ่งบังเอิญเหล่าจางมีธุระจะต้องเดินทางไปเมืองซีอัน มณฑลสั่นซี  เหล่าจาง นึกถึงเต้าฮวยลี้ขึ้นมาได้ไม่รู้ว่าป่านนี้ชีวิตความเป็นอยู่จะเป็นอย่างไรบ้าง จึงเดินทางเลยขึ้นไปถึงอำเภอซันเอวี๋ยน เพื่อเยี่ยมเยือนเต้าฮวยลี้ พอได้พบกัน เหล่าจางดีใจยิ่งนักที่เห็นเต้าฮวยลั้อยู่ดีมีสุขฐานะร่ำรวยขึ้นอย่างผิดคาด แรกทีเดียว เต้าฮวยลี้ก็ดีใจที่ได้พบหน้าเพื่อนเก่าอีก จึงสั่งให้ภรรยาจัดเตรียมเหล้ายาอาหารมาเลี้ยงเป็นการใหญ่ แต่ในระหว่างอาหารนั่นเอง เต้าฮวยลี้ก็มีความคิดว่า

      "เมื่อสิบปีก่อน เหล่าจางให้เงินเราไว้ทำทุนสองร้อยตำลึง แต่ไม่ได้บอกชัดเจนว่า  ให้เปล่าหรือให้ยืม บัดนี้จากสองร้อยตำลึงกลายมาเป็นการค้าใหญ่โตขนาดนี้เหล่าจางคงไม่ต้องการเงินสองร้อยตำลึงคืนเป็นแน่ ถ้าเขาจะถือสิทธิ์เป็นเจ้าของกิจการร่วมกับเรา เราก็ปฏิเสธไม่ได้น่าเสียดายที่ทรัพย์สินกิจการของเราจะต้องถูกแบ่งไปครึ่งหนึ่ง"

     เมื่อคิดดังนั้นแล้ว เต้าฮวยลี้ก็แอบเรียกเมียมาเสี้ยมสอนให้มอมเหล้าเหล่าจางให้เมาเต็มที่ในคืนนั้น  การเลี้ยงสุราอาหาร ดำเนินไปจนเกือบเที่ยงคืน กลางดึกนั้นเอง เหล่าจางซึ่งถูกมอมเหล้าจนไม่ได้สติก็ถูกสองสามีภรรยาช่วยกันลากตัวไปโยนลงคลอง ด้วยเกรงว่าศพจะลอยขึ้นมา จึงได้ใช้แผ่นหินแผ่นใหญ่หน้าโม่ผูกคอติดตัวเหล่าจางเป็นเครื่องถ่วงไว้ สองสามีภรรยาโล่งใจที่กำจัดเจ้าหนี้ไปได้ และคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีใครรู้เรื่องเลย นอกจากเขาและภรรยาเท่านั้น

     ครั้งนั้นนายอำเภอคนเก่าแก่แห่งอำเภอซันเอวี๋ยนถึงกำหนดเกษียนอายุ  นายอำเภอคนใหม่กำลังเดินทางมารับตำแหน่ง เส้นทางที่ขบวนเสลี่ยงจะไปสู่จวนว่าการอำเภอ จะต้องข้ามสะพานซันเอวี๋ยน ซึ่งทอดข้ามคลองที่เต้าฮวยลี้และภรรยาฆ่าถ่วงน้ำเหล่าจาง เมื่อเสลี่ยงของนายอำเภอคนใหม่ มาถึงเชิงสะพานเท่านั้น เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นทันที กบจำนวนมากมายนับหมื่นนับพัน แห่กันมาเต็มคลองกระโดดขึ้นมาขวางสะพานไว้ โดยไม่กลัวอันตรายถึงชีวิตเลย ใครจะตีจะไล่อย่างไรก็ไม่ยอมถอย จนนายอำเภอต้องลงมาจากเสลี่ยง เมื่อพิจารณาแล้ว นายอำเภอคนใหม่ก็คิดว่า คงจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างเป็นแน่ จึงได้พูดกับกบนับหมื่นนับพันเหล่านั้นว่า

      "เรารู้ว่าพวกท่านมีเหตุผลที่ขวางทางเราเช่นนี้  หากมีสิ่งใดที่เราจะช่วยเหลือคลี่คลาย หรือให้ความเป็นธรรมได้ ก็โปรดนำเราไปหาต้นเหตุนั้นเถิด เมื่อเราไปถึงจวนอำเภอรับตำแหน่งแล้ว เรื่องแรกที่เราจะจัดการก็คือเรื่องของท่านทั้งหลายนี่แหละ"

      พอนายอำเภอพูดจบลง กบทั้งหลายก็พากันกระโดดลงไปในคลอง  ไปรวมกันอยู่เป็นฝูงใหญ่ข้างๆ บริเวณที่ศพของเหล่าจางจมอยู่ นายอำเภอจึงสั่งให้ผู้ติดตามจัดการทดน้ำบริเวณนั้น เข้าตำราน้ำลดตอผุด พอน้ำในคลองงวดลงศพของเหล่าจางก็ปรากฏแก่สายตาคนทั้งหลายทันที นายอำเภอรีบชันสูตรศพ แล้วสั่งให้จัดการนำไปฝังกบนับหมื่นนับพันเหล่านั้น มุงดูอยู่บนชายฝั่งคลองด้วยความโศกเศร้าอาดูร เสียงร้องของมันทั้งหลายทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์สะท้านไปตามๆ กัน นายอำเภอเก็บแผ่นหินหน้าโม่ไปเก็บไว้เป็นหลักฐานสำคัญ

     จากนั้นก็ประกาศรับซื้อตัวโม่หินเก่า มีผู้นำหินโม่เก่ามาขายนายอำเภอมากมาย  นายอำเภอก็รับซื้อไว้หมดสิ้น แต่ก็ยังไม่ได้ตัวโม่ที่ต้องการ จนกระทั่งวันหนึ่ง มีชายขี้ยาคนหนึ่งแบกตัวโม่หินมาขายให้นายอำเภอ เมื่อรับซื้อไว้แล้ว นำไปประกอบกับแผ่นหินหน้าโม่ที่เป็นหลักฐานของกลาง ก็ปรากฏว่าเข้ากันได้พอดี เป็นหน้าโม่ของตัวนี้ไม่ผิด นายอำเภอจึงสั่งให้จับกุมตัวชายขี้ยาผู้นั้นทันที ชายขี้ยาให้การว่า เขาขโมยตัวโม่หินนี้มาจากบ้านอา เนื่องจากวันนั้นเขาไปขอเงินอาเหมือนอย่างเคย แต่บังเอิญไม่พบ ความอยากยาเสพติดทำให้เขาคิดขโมยอะไรติดมือออกมาขายสักอย่างหนึ่ง บังเอิญเหลือบไปเห็นโม่นี้วางทิ้งไว้ลับตาคน และนึกขึ้นได้ว่าทางอำเภอต้องการจะซื้อ จึงได้ขโมยแบกออกมาขาย นายอำเภอออกหมายจับอาของชายขี้เมา ซึ่งเป็นเจ้าของโม่มาสอบสวน เขาคือเต้าฮวยลี้นั่นเอง

     ด้วยวิธีการอันแยบยลและชาญฉลาดของนายอำเภอ คดีฆ่าถ่วงน้ำรายนี้  ก็ได้คลี่คลายเปิดเผยขึ้น นายเต้าฮวยลี้ถูกพิพากษาโทษประหารชีวิต และริบทรัพย์ นายอำเภอจัดการสร้างสุสานฝังศพของเหล่าจางผู้มีมโนธรรมต่อชีวิตกบทั้งหลาย และมโนธรรมน้ำใจที่มีต่อเพื่อนอย่างสมเกียรติ สุดท้ายนายอำเภอได้นำแผ่นหินหน้าโม่ที่ถ่วงศพของเหล่าจางมาโบกปูนติดไว้ข้างสะพานซันเอวี๋ยน เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวเมือง และผู้สัญจรไปมา ชีวิตทุกชีวิตรู้จักรักตัวกลัวตาย รู้จักเสียดายเลือดเนื้อและเชื้อสายของตนทั้งนั้น เหล่าจางเป็นผู้ให้ชีวิตแก่กบเหล่านั้น แม้จะเป็นชีวิตเล็กๆ แต่ความสำนึกบุญคุณก็มิได้ด้อยไปกว่าคนร่างใหญ่ที่จิตใจงามเลย


0
519
พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ (อ่านว่า /พฺระ-กะ-สิ-ติ-คัน-โพ-ทิ-สัด/, สันสกฤต: क्षितिगर्भ; Kṣitigarbha; กฺษิติครฺภ)

พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ (อ่านว่า /พฺระ-กะ-สิ-ติ-คัน-โพ-ทิ-สัด/, สันสกฤต...

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago
เตียวหุย

เตียวหุย

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

10 ขั้นตอนการพัฒนาจิต วางมือหมด

แปลโดยท่านพุทธทาส

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

บันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับ อิทธิฤทธิ์ของหนังสือเทวราชโองการ

1654918052.jpg
mindcyber
5 months ago

ครั้งที่ 52 ตอน ท่องแดนน้ำมันลวกกายนรกน้อย

1654918052.jpg
mindcyber
5 months ago