mindcyber 10 months ago

หนี้ชีวิต

   ฟังเสี่ยวหยูในนามของมหาบัณฑิตผู้ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน ซึ่งประวัติศาสตร์จีนจารึกยกย่องไว้ตั้งแต่ครั้งราชวงศ์หมิงถึงปัจจุบัน ท่านเป็นผู้รอบรู้แกร่งกล้าสามารถ เป็นผู้ปกป้องพระเจ้าหมิงไท่จู่ (จูหงอู่) ช่วยเชิดชูพระองค์ จนสถาปนาเปิดศักราชราชวงศ์หมิงขึ้นในครั้งนั้น ปฏิบัติหน้าที่จงรัภักดีต่อแผ่นดินเสมอมาจนสิ้นรัชสมัยและสืบต่อไปจนถึงรัชสมัยพระเจ้าหมิงฮุ่ยตี้ ทุกคนในแผ่นดินต่างยอมรับว่า ฟังเสี่ยวหยู เป็นข้าแผ่นดินที่ซื่อสัตย์และให้คุณต่อบ้านเมืองที่สุดในยุคนั้น

    คนดีย่อมจะได้รับผลของกรรมดีตอบสนองหลักสัจธรรมของฟ้าดินเป็นเช่นนั้น  แต่อนิจจา ท่านจะต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร สิบชั่วโคตร แต่โบราณมาโทษสาหัสเพียงไรก็จำกัดโทษไว้เพียงเจ็ดชั่วโคตร หรือที่สุดคือเก้าชั่วโคตร คือญาติพี่น้องทางฝ่ายพ่อสี่โคตร ญาติพี่น้องทางฝ่ายแม่สามโคตร และญาติพี่น้องทางฝ่ายเมียสองโคตร แต่กรรมอันใดหรือ ที่ส่งผลให้ฟังเสี่ยวหยูต้องได้รับโทษถึงสถานนี้

    เหตุแห่งกรรมนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ฟังเสี่ยวหยูยังไม่เกิด บิดาของฟังเสี่ยวหยูเป็นผู้มีความรู้ทางภูมิศาสตร์รู้ทำเลมงคลที่สร้างสุสานได้เป็นเลิศ  วันหนี่งท่านก็ได้ค้นพบสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อเล็งซ้ายเล็งขวาประกอบการพิจารณาโดยละเอียดแล้ว ก็ปักใจได้ว่าเป็นทำเลมงคลดีมากสำหรับที่จะสร้างสุสานของบรรพบุรุษเพราะสุสานที่สร้างอยู่บนทำเลมงคล จะมีผลให้ลูกหลานเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข ฯลฯ เมื่อตัดสินใจแน่นอนแล้ว ก็คำนวนการ กำหนดเวลามงคลที่จะสร้างสุสานทันที

     ในคืนนั้นบิดาของฟังเสี่ยวหยูได้ฝันไปว่า มีชายชราคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมยาวสีแดงเดินตรงเข้ามา  โค้งกายคารวะให้อย่างนอบน้อม พร้อมกับกล่าวว่า

     "สถานที่ที่ท่านจะไปสร้างสุสานตรงนั้น เป็นที่อยู่อาศัยของเรามาช้านาน เราขอคารวะวิงวอนท่านได้โปรดเลื่อนกำหนดการสร้างออกไปอีกสองสามวันเถิด ให้เราได้โยกย้ายลูกหลานไปจากที่นั้นเสียก่อน  แล้วท่านจึงค่อยลงมือสร้างเราจักขอบพระคุณท่านมิรู้ลืมทีเดียว"

    ชายชราในชุดแดงกราบคารวะวิงวอนแล้ววิงวอนอีก กำชับแล้วกำชับเล่าขอให้เลื่อนกำหนดออกไปอีกสองสามวันแล้วจึงค่อยลงมือขุดดินตรงนั้น จากนั้นก็คารวะลาไปด้วยความนอบน้อม บิดาของฟังเสี่ยวหยูตื่นขึ้นจากความฝัน แม้ความฝันนั้นจะชัดเจนเพียงใด ท่านก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงฝันอันเหลวไหลเท่านั้น เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของลูกหลาน วงศ์ตระกูลต่อไปในวันข้างหน้า กำหนดวันเวลาอันเป็นมงคลนั้นถึงอย่างไรก็จะเลื่อนไปมิได้เป็นอันขาด

    วันรุ่งขึ้นเมื่อฤกษ์งามยามดี ท่านก็สั่งให้คนงานขุดดินตรงบริเวณนั้นทันที คนงานหลายคนช่วยกันขุดดินอย่างเต็มกำลัง  และพลันก็ขุดลงไปพบโพรงใหญ่มันมะเลื่อมโพรงหนึ่ง ในโพรงนั้นปรากฏงูตัวสีแดงๆ นับร้อยเลื้อยกันยั้วเยี้ยเต็มโพรง บิดาของฟังเสี่ยวหยูสั่งให้คนงานใช้ไฟเผางูทั้งหมดทันที ในคืนนั้นเอง บิดาของฟังเสี่ยวหยูก็เห็นชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีแดงอีก ครั้งนี้ใบหน้าของชายชราเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เจ็บปวดรวดร้าว และน้ำตานองหน้า ชายชราได้เอ่ยขึ้นว่า

    "เราอุตส่าห์วิงวอนท่านด้วยดี แต่ท่านกลับเผาลูกหลานแปดร้อยชีวิตของเราจนหมดสิ้น ในเมื่อท่านล้างโคตรของเราเช่นนี้  เราก็จะล้างโคตรของท่านเช่นกัน"

    ความฝันในครั้งนั้น บิดาของฟังเสี่ยวหยูไม่อาจคิดว่าเหลวไหลได้อีกต่อไป  แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเหตุแห่งกรรมนั้นได้ก่อขึ้นแล้ว จึงได้แต่สะทดสะท้านกับผลกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันข้าหน้าเท่านั้น จากนั้นไม่นาน ฟังเสี่ยวหยูก็ถือกำเนิดขึ้น เด็กคนนี้มีลักษณะดีทุกประการ อีกทั้งมีลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือลิ้นแหลมเหมือนงู ฟังเสี่ยวหยูเติบโตขึ้นเป็นคนฉลาดเฉลียว มีไหวพริบความจำดีเรียนเก่ง มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่จงรักภักดี สำนึกในหน้าที่ จนต่อมาได้รับตำแหน่งมหาบัณฑิตกรมวัง หลังจากที่พระเจ้าหมิงจู่ ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิงถึงกาลสวรรคตแล้ว พระเจ้าหมิงฮุ่ยตี้ราชบุตรขึ้นครองราชย์สืบต่อสันติวงศ์ เจ้ามืองเอี้ยนซึ่งมีศักดิ์เป็นอามุ่งหวังจะแย่งชิงบัลลังก์หมิง จึงยกทัพลงมาจากเมืองเหนือมุ่งตรงนครหลวง ตลอดรายทางไม่มีหัวเมืองใดกล้าขัดขืนเลย จนแม้ขุนนางน้อยใหญ่ในเมืองหลวงเองต่างก็ยอมสยบเพื่อเอาตัวรอดกัน

    มีแต่ฟังเสี่ยวหยูเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อผู้ช่วงชิง เจ้าเมืองเอี้ยนบัญชาให้มหาบัณฑิตฟังเสี่ยวหยูเขียนประกาศเป็นทางการว่า "เจ้าเมืองเอี้ยนยาตราทัพเข้าเมืองหลวง เพื่อปกป้องคุ้มครองราชวงศ์หมิง" แต่ฟังเสี่ยวหยู กลับเขียนประกาศความเป็นจริงให้ชาวบ้านชาวเมืองตื่นตัวว่า "เจ้าเมืองเอี้ยนทรยศ ช่วงชิงราชบัลลังก์ราชวงศ์หมิง" เจ้าเมืองเอี้ยนโกรธแค้นยิ่งนัก สั่งจับตัวฟังเสี่ยวหยูทันทีและถามว่า "เจ้าไม่กลัวถูกฆ่าเก้าโคตรหรือ"

     "ฆ่าล้างสิบโคตรเล่า เป็นไร" เจ้าเมืองโกรธจัด จึงมีบัญชาทันทีว่า "เอาละเราจะล้างเจ้าสิบโคตร" เมื่อบัญชาแล้ว เจ้าเมืองเอี้ยนก็มาคิดว่า โคตรพงศ์วงศาของคนเรามีเพียงเก้าโคตรจะนับเอาญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรวามเข้าไปอีกด้วยเล่า จึงจะครบสิบโคตรคิดไปคิดมาก็นึกถึงคำที่ว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างครูอาจารย์กับศิษย์นั้นเปรียบได้ดังบิดามารดากับบุตร" คิดดังนี้แล้ว เจ้าเมืองเอี้ยนจึงประกาศว่าให้ฆ่าอาจารย์ของฟังเสี่ยวหยูด้วยรวมเป็นสิบโคตรตามที่ลั่นวาจาออกไป

    โดยกฏแห่งกรรม ฟังเสี่ยวหยูถือกำเนิดมาเพื่อเป็นชนวนนำทาง  ให้เกิดการประหัตประหารชีวิตเผ่าพันธ์วงศานี้พร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะเขาถือกำเนิดจากวิญญาณของชายชราสวมเสื้อแดง ซึ่งถือเป็นเจ้าตระกูลงูแปดร้อยตัวในโพรงนั้น หนึ่งชีวิตต่อหนึ่งชีวิตมิยอมให้ลดหย่อนได้เลย อาจารย์ของฟังเสี่ยวหยู ถูกนำมาเป็นชีวิตที่แปดร้อยครบตามจำนวนชีวิตที่ถูกเผาในครั้งนั้น เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ท่านคิดว่าใครหรือเป็นผู้กำหนดหนี้ชีวิต


0
420

กินเนื้อสัตว์เป็นเวรกรรม

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

บัณฑิตลิ้มแห่งชานตง

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

โอวาทพระพุทธจี้กง

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

กามวิบาก

ไหลฉางชุน

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ไม่จมน้ำตายเพราะเต่า

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago