mindcyber 4 months ago

ยักย้ายวาสนาบารมี

   เรื่องนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านสกุลโจว  เมืองเฉา ในครั้งราชวงศ์

ซ่งบรรพบุรุษโจวหยงจู่ เป็นเศรษฐีใจบุญมาหลายชั่วคน ปู่ของเขาได้สร้างวัดไว้จรรโลงพุทธศาสนาแต่พ่อของเขากลับรื้อถอนไม้ดีๆ จากวัดมาเพิ่มเติมบ้านอยู่อาศัย ปีหนึ่ง เมื่อทางเมืองหลวงประกาศสอบจอหงวนโจวหยงจู่ก็สมัครสอบ เขานำลูกเมียร่วมเดินทางไปด้วย ก่อนที่จะไปเขานำทองคำมากมายที่มีอยู่ แอบไปขุดหลุมฝังไว้ใต้กำแพงสวนหลังบ้าน ส่วนเพชรนิลจินดาก็นำติดตัวไปเป็นค่าใช้จ่าย เขาฝากฝังบ้านให้คนใช้เก่าแก่เป็นผู้ดูแล

     ในเมืองเฉา ยังมียาจกคนหนึ่งชื่อเจี้ยเหยิน มีอาชีพรับจ้างหาบดิน เจี้ยเหยินตัดพ้อสวรรค์อยู่เสมอว่าทำไมบางคนเกิดมาร่ำรวย แต่เขายากจนเหลือเกิน

เขาไปกราบร้องทุกข์ต่อเทพเจ้า ตงเอวี้ย ที่วัดนอกเมืองบ่อยๆ

    จนกระทั่งวันหนึ่งเทพเจ้าตงเอวี้ยได้โปรดเรียกตัวเขามาสอบ  เจี้ยเหยินกราบทูลถึงความคับแค้นใจในฐานะของตนต่อเทพเจ้า เทพเจ้าฯ จึงเรียกบัญชีบาปบุญของเจี้ยเหยินมาตรวจสอบก็ได้พบว่า ชาติก่อน เจี้ยเหยินเป็นคน ไม่เคารพฟ้าดิน ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่ ใส่ไคล้ทำลายศาสนา ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต กินทิ้งกินขว้างฯ ชาตินี้จึงต้องเกิดมายากจนเข็ญใจ และจะต้องอดตายในที่สุด เมื่อเจี้ยเหยินได้รู้ความผิดของตนในชาติก่อน ก็ตกใจกลัว รีบคุกเข่าวิงวอนต่อเทพเจ้าฯ ว่า

     "ชาตินี้ กระผมเป็นคนกตัญญูจริงๆ ขอรับ แต่ทำไมหลังจากที่พ่อแม่ตายกระผมก็ยากจนลงทุกวัน"

    "ความกตัญญูเป็นกุศลอันดับหนึ่ง" เทพเจ้าฯ กล่าว

     "เมื่อเจ้ามีความกตัญญูจริงเราก็จะดูซิว่ามีแรงบุญวาสนาของใคร  จะยักย้ายมาส่งเสริมเจ้าได้บ้าง"

     เมื่อเทพเจ้าฯ ตรวจดูก็รู้ว่า แรงบุญของตระกูลโจวรุ่งมากมาสามชั่วคนแล้ว  แต่พ่อของโจวหยงจู่รื้อถอนไม้จากวัดไปใช้ที่บ้านตน ต้องถูกตัดรอนแรงบุญที่สืบเนื่องระยะหนึ่งเป็นการลงโทษ

    เทพเจ้าฯ กล่าวแก่เจี้ยเหยินว่า "เราจะยักย้ายแรงบุญของตระกูลโจว  มาเป็นรางวัลกตัญญูแก่เจ้ายี่สิบปี จากนี้ไปมิให้ทำความชั่วร้าย มิฉะนั้นจะเรียกคืน"

    เจี้ยเหยินตกใจตื่นขึ้นจากความฝัน เขาได้พบว่าตนเองฟุบหลับอยู่ใต้โต๊ะบูชาที่วัดนั่นเอง ฝ่ายคนใช้พ่อบ้านของโจวหยงจู่ วันหนึ่งเมื่อกลับจากนอกบ้านมาก็ได้พบว่า ข้าวของเงินทองในบ้านถูกขโมยขนไปจนเกลี้ยง ความเป็นอยู่ของแกค่นแค้นลงทันที

เมื่อแกไม่มีอะไรจะกินหนักๆ เข้า ในบ้านก็ไม่เหลืออะไรพอที่จะหยิบขายได้ เหลือแต่กำแพงสวนหลังบ้านเท่านั้นที่ไม่มีความจำเป็นขณะนี้ แกจึงตัดสินใจบอกขายเพื่อเอาเงินมาประทังชีวิต ชายชราบอกความประสงค์นี้แก่เจี้ยเหยิน ผู้มีอาชีพรับจ้างขนดิน

    วันรุ่งขึ้น เจี้ยเหยินตกลงกับผู้รับซื้อได้แล้วก็นำเครื่องมือมารื้อถอนกำแพงบ้านโจวหยงจู่ แน่นอน เขาขุดพบทองคำที่ฝังอยู่ใต้กำแพงนั้น เขาขอบพระคุณเทพเจ้าตงเอวี้ยเป็นล้นพ้น ตอนกลางวันเจี้ยเหยินขนอิฐไปให้ลูกค้าตามปกติพอตกกลางคืนก็ขนทองคำไปไว้ในบ้านตน เขาต้องใช้เวลาขนทองคำมากมายเหล่านั้นถึงสิบคืนทีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต เจี้ยเหยินเริ่มต้นค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น เขาประกาศความเป็นมหาเศรษฐีในที่สุด เงินทองเปลี่ยนแปลงจิตใจคนได้เสมอ เจี้ยเหยินกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ ตระหนี่ถี่เหนียวขึ้นมาพร้อมกับความร่ำรวย สำหรับโจวหยงจู่ คุณวุฒิของเขาน่าจะสอบได้ แต่บุญของวาสนามีอันเป็นถูกตัดทอนไปเพราะบาปของพ่อ เขาจึงสอบตกกลับมารับสภาพของคนสิ้นเนื้อประดาตัวเขาจำใจต้องขายบ้าน หอบหิ้วลูกเมียไปเมืองลั่วหยังเพื่อจะขออาศัยอยู่กับญาติ แต่เมื่อมาถึง ปรากฏว่าญาติผู้นั้นได้ย้ายบ้านไปนานแล้ว

    โจวหยงจู่ซมซานกลับมาบ้านเกิดอีก เวลานั้นเป็นฤดูหนาว สามชีวิตต้องสั่นสะท้านอยู่ริมทางมีคนแนะนำให้เขาไปขอความช่วยเหลือจากเศรษฐีเจี้ยเหยิน ซึ่งโจวหยงจู่มิรู้ว่า เขาคือผู้ขโมยขุดทองคำของตนไป  เมื่อเศรษฐีเห็นหนูน้อยฉังโซว่ ลูกชายของโจวหยงจู่ก็นึกอยากได้เพราะตนไม่มีลูก จึงพยายามหว่านล้อมขอซื้อ จนในที่สุดโจวหยงจู่ก็ยอมเซ็นสัญญาขายลูกให้ ในที่นั้นมีพยานรู้เห็นคือนายเฉินผู้ทำบัญชีให้เศรษฐี เมื่อได้ตัวเด็กและสัญญามาแล้ว เศรษฐีก็เงียบหายเข้าไปห้อง นายเฉินรู้นิสัยเศรษฐีดี เขาทนเห็นโจวหยงจู่ถูกหักหลังซึ่งๆ หน้าไม่ได้ จึงตามเข้าไปทวงถามเงินค่าตอบแทนให้ ซึ่งเศรษฐีกลับตะคอกว่า

    "ข้าฯ รับเลี้ยงลูกของมันไม่ให้อดตายก็เป็นบุญเท่าไหร่แล้วยังจะเอาอะไรอีก ถ้าอยากได้เด็กคืนก็เอาทองคำแท่งหนึ่งมาแลกคืนไป ในสัญญาเขียนไว้อย่างนั้นไม่ใช่หรือ"

    เป็นอันว่าโจวหยงจู่เสียรู้เศรษฐีไปอย่างแก้ไขไม่ได้ เวลาสิบกว่าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว  เด็กชายฉังโซว่โตเป็นหนุ่มแล้ว ส่วนเศรษฐีนั้นกลายเป็นคนแก่ที่นอนเจ็บหลายปี

    วันหนึ่งเป็นวันเฉลิมเทพเจ้าตงเอวี้ย(ยี่สิบแปดค่ำเดือนสาม) เศรษฐีจึงให้ฉังโซว่ไปกราบวิงวอนเทพเจ้าฯ แทนตน ในวันนั้นมีสาธุชนมากราบไหว้กันล้นหลาม และส่วนมากจะค้างคืนกันที่วัด ฉังโซว่เห็นระเบียงที่เหมาะแก่การค้างคืนอยู่มุมหนี่ง แต่ปรากฏว่ามีสามีภรรยาแก่ๆ อยู่คู่หนึ่งพักอยู่ก่อนแล้ว เขาไม่รู้เลยว่าคนทั้งสองคือพ่อแม่ที่แท้จริงของตนซึ่งร่อนเร่จากไปนานเกือบยี่สิบปี และเพิ่งกลับมาด้วยความหวังว่าจะบังเอิญได้เห็นหน้าลูกสักครั้ง

    ฉังโซว่วิงวอนต่อเทพเจ้าฯ ขอให้อาการป่วยของเศรษฐีซึ่งเขาหลงคิดว่าเป็นพ่อจงหายวันหายคืน  แต่ครั้งนี้เทพเจ้าฯ มิได้แยแสต่อเศรษฐีเลย คงปล่อยให้เขาเจ็บป่วยตายไปอย่างทรมาน ฉังโซว่เป็นทายาทคนเดียวของเศรษฐี เขาได้รับมรดกที่เศรษฐีเฝ้าเหนื่อยยากหามาเก็บสะสมไว้ทั้งหมด

    วันหนึ่ง ขณะที่โจวหยงจู่และภรรยาเดินดูความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองที่ตนเคยอยู่อย่างระทึกใจ ภรรยาก็เกิดอาการปวดหัวใจขึ้นมาอีก  และพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร้านขายยาร้านหนึ่งมีป้ายประกาศว่า "บริจาคยาให้คนยากจน" ทั้งสองรีบตรงเข้าไปขอความช่วยเหลือทันที เมื่อได้กินยาและนั่งพักสักครู่จนอาการทุเลาแล้ว ทั้งสองก็กล่าวอำลาเจ้าของร้าน แต่พอได้สบตากันอีกครั้ง ครั้งนี้ เหมือนมีอะไรดลใจเจ้าของร้านและสองสามีภรรยาต่างขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วเริ่มต้นถามไถ่จนได้ความว่า เจ้าของร้านก็คือนายเฉินคนทำบัญชี ร้านขายยาร้านนี้เป็นของฉังโซว่ลูกชายเศรษฐีหรือลูกแท้ๆ ของสองสามีภรรยานั่นเอง แล้วทุกอย่างก็จบลงอย่างเรียบร้อยในที่สุด

    เราจะวิเคราะห์และสรุปแง่มุมของเรื่องนี้พอสังเขปว่า

    1. ที่เจี้ยเหยินตกต่ำลงทันทีหลังจากที่พ่อแม่ตาย เป็นเพราะหมดสิ้นบารมีที่แผ่คุ้ม

    2. กรรมเก่าของเจี้ยเหยินมีผลให้ต้องอดตาย แต่เพราะแรงกตัญญูในชาตินี้ ชะตากรรมจึงเปลี่ยนไป

    3. วาสนาที่เจี้ยเหยินได้รับ เป็นของผู้อื่นที่หยิบยืมให้ใช้ชั่วคราว เขาไม่รู้จักการใช้เงินสร้างบุญที่เป็นของตนเองจริงๆ ในที่สุดเขาจึงได้แต่เป็นผู้เหนื่อยยาก อดออมสะสมไว้ใช้คืนแก่เจ้าของเดิม

    4. การกระทำของพ่อแม่บรรพบุรุษมีผลในทางเสริมวาสนาบารมีของลูกหลาน และมีผลในทางทำลายได้เช่นกัน

0
212
ยำหมูยอเจ

ยำหมูยอเจ

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago
วิธีทำน้ำสลัดอย่างข้น

วิธีทำน้ำสลัดอย่างข้น

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ครั้งที่ 60 ตอน ท่องสำนักรวมกุศล กองให้รางวัลคนดี กองลงโทษคนชั่ว

1654918052.jpg
mindcyber
2 weeks ago

ครั้งที่ 17 ท่องแดนเหล็กขูดหน้านรกน้อย

1654918052.jpg
mindcyber
2 weeks ago
ยำเส้นหมี่(เจ)

ยำเส้นหมี่(เจ)

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago