เศรษฐีขี้เหนียว

    นานนมแล้วมีเศรษฐีคนหนึ่ง เป็นผู้มั่งคั่งพรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมาย แวดล้อมด้วยบ่าวไพร่รับใช้นับร้อย ไร่นาที่ครอบครองก็อุดมสมบูรณ์มีข้าวเต็มยุ้งฉางไม่เคยหมด

     แต่ทว่าเขาเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว ในแต่ละวันจะใช้เงินสักสตางค์ก็คิดแล้วคิดอีกด้วยความเสียดาย แต่ไหนแต่ไรมาเศรษฐีผู้นี้ไม่เคยจะให้อะไรใครเลยแม้แต่น้อย ทุกวัน ๆเขาใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้น เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ปะแล้วปะอีก อาหารที่กินแต่ละมึ้อ ดูแย่ยิ่งกว่าอาหารของคนยากจนเสียอีก

     ช่างน่าประหลาด...ข้างบ้านเศรษฐี มีชายคนหนึ่งไม่ได้ร่ำรวยเท่าไรนักแต่ทุก ๆ วันเขากินอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเชิญชวนเพื่อน ๆ มาร่วมรัประทานอาหารที่บ้านอยู่บ่อย ๆ

     เศรษฐีขี้เหนียวเห็นแล้วก็เกิดความไม่พอใจ พลางคิดไปว่า

      “ตัวข้ามีทรัพย์สินเงินทองมากกว่ามันหลายเท่านัก กลับอยู่อย่างลำบากยากแค้น ในขณะที่มันกินอย่างราชา ช่างไม่เหมาะสมเลยจริง ๆ”

     เมื่อคิดถึงตรงนี้ เศรษฐีจึงตัดสินใจออกไปซื้อข้าวปลาอาหารอย่างดีมาสำรับหนึ่ง แล้วแอบขี่ม้าไปยังที่ที่ไม่มีใครเห็นเพื่อจะได้นั่งกินให้หายอยากสักที

     แต่ทว่าการกระทำของเขามิอาจรอด พ้นสายพระเนตรขององค์ท้าวสักกะเทวราชเจ้าไปได้เลย พระองค์จึงทรงจำแลงกายเป็นสุนัขตัวหนึ่ง เข้ามาเดินวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ประหนึ่งว่าจะขอเศษอาหาร

     เศรษฐีขี้เหนียวไม่พอใจสุนัขตัวนี้เป็นอย่างยิ่ง และพูดออกไปว่า

      “ ถ้าแกสามารถนอนเหยียดขาทั้ง 4 ยกขึ้นชี้ฟ้าค้างไว้อย่างนั้น ข้าจะแบ่งเศษอาหารให้เจ้าสักนิดหนึ่ง”

     พอพูดจบ...สุนัขตัวนั้นก็นอนเอาขาทั้ง 4 ยกขึ้นชี้ฟ้าค้างไว้อย่างนั้น   เศรษฐีขี้เหนียวถึงกับสะดุ้ง แต่ครั้นจะแบ่งอาหารให้ตามที่พูด ก็ยังรู้สึกเสียดาย

     ดังนั้นเขาจึงคิดอุบายใหม่ แล้วพูดขึ้นว่า

      “ ถ้าตาของแกหลุดออกมากองอยู่กับพื้นเมื่อไหร่ ข้าจะแบ่งให้เจ้ากิน !”

     พูดยังไม่ทันขาดคำ ตาทั้งสองของสุนัขตัวนั้นก็หล่นลงมาบนพื้นเสียงดัง “ตุ๊บ”

     เศรษฐีเจ้าเล่ห์เห็นดังนั้นก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะคิดว่า ตาของสุนัขบอดแล้ว ย่อมไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก เขารีบยกอาหารออกเดินหนีไปเสียไกล จากนั้นจึงลงมือนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดเกลี้ยง

     ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง องค์ท้าวสักกะเทวราชเจ้าได้จำแลงกายเป็นตัวเศรษฐีขี้หนียว แล้วขี่ม้ากลับไปที่บ้านทันที พอเข้าบ้านแล้วก็สั่งคนเฝ้าประตูว่า

“หากมีใครกล้ามาแอบอ้างว่าเป็นข้า เจ้าจงใช้ไม้พลองเฆี่ยนตีแล้วขับไล่มันไปเสียโดยเร็ว !”

     จากนั้นพระองค์ได้สั่งให้นำเอาทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ในบ้านทั้งหมดออกมาแจกจ่ายให้ทานแก่คนยากคนจน จนหมดเกลี้ยง

     ฝ่ายเศรษฐีขี้เหนียว เมื่อเสร็จจากการกินอาหารอันเลิศรสแล้ว ก็เดินลูบท้องด้วยความพึงพอใจ แต่เมื่อจะกลับบ้านพบว่าม้าของตนหายไป จึงจำใจเดินกลับด้วยอารมณ์ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด

     พอถึงประตูบ้านตน คนเฝ้าประตูก็เข้ามาขวางไว้ไม่ให้เขาเข้า เศรษฐีขี้เหนียว ทั้งเหนื่อยทั้งโมโห จึงตะคอกว่า

      “ ไอ้โง่ นี้ข้าเป็นนายแก ! ตาบอดรึไง”

คนเฝ้าประตู หัวเราะแล้วตอบว่า

      “ มิน่าล่ะ !  นายท่านสั่งไว้ไม่มีผิด  เจ้านี่เองที่กล้าบังอาจมาแอบอ้างเป็นนายท่าน !”

ว่าแล้วคนเฝ้าประตูก็ใช้ไม้พลองทุบตีขับไล่เขาไป

     เศรษฐีขี้เหนียวโกรธแทบคลั่ง ยิ่งต่อมารู้ว่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตน ถูกแจกให้แก่คนยากคนจนเสียหมดสิ้น ก็คิดมากจนเป็นบ้า นับจากนั้นเขาก็กลายเป็นขอทาน ระเหเร่ร่อน กินนอนตามถนนเรื่อยมา

0
182

เหลี่ยมกลมไหวนิ่ง

พระพุทธจี้กง

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

บันทึกนรกคนเป็น ตอนที่ 6

บันทึกปรากฎการณ์นรกนรกคนเป็น

1654918052.jpg
mindcyber
3 months ago

งานเทียวโต่ว

พระอรหันต์ไคซิน

1654918052.jpg
mindcyber
1 month ago
ห่อนึ่งชาวเหนือเจ

ห่อนึ่งชาวเหนือเจ

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

หลอกต้มชาวบ้าน

วิญญาณบาปจากนรก

1654918052.jpg
mindcyber
1 month ago