อาจารย์จิตรกรท่านหนึ่งพยายามสอนศิษย์ให้มีอารมณ์สุนทรีย์ให้มีมโนภาพที่ละเอียดลึกชึ้ง
สามารกใช้ให้ปลายพู่กันสร้างสรรค์ชีวิตจิตญาณอันโลดแล่นได้ในแผ่นภาพ
วันหนึ่ง อาจารย์ออกข้อสอบให้ศิษย์แสดงจินตนาการเกี่ยวกับ “ความสงบ”
ศิษย์คนหนึ่งวาดผืนน้ำราบเรียบปราศจากริ้วรอยใด ๆ เงาของต้นไม้ที่สะท้อนลงในบึงนั้นชัดเจนแจ่มใส แสดงว่า สงบไม่มีแม้แต่ลมพัดพลิ้ว
ศิษย์อีกคนหนึ่งวาดขุนเขาทะมึนหนักแน่น เหนือขึ้นไปเป็นท้องฟ้าสีครามที่ไม่มีแม้เศษของปุยเมฆหรือนกน้อยสักตัวบนท้องฟ้าอันดูเงียบงันนั้น
แต่ศิษย์อีกคนหนึ่งกลับวาดน้ำตกโกรกจากหน้าผา กระแทกหินอย่างแรงเป็นชั้นๆ จนน้ำแตกซ่านเป็นฟองขาว ข้างๆน้ำตก มีต้นไม้เล็ก ๆอยู่ต้นหนึ่ง มีนกน้อยตัวหนึ่งบนต้นไม้ มันนอนซุกหัวอยู่กับปีกอย่างสบาย
“สงบ” เหมือนไม่ได้ยินเสียง อะไรมารบกวนเลย
สองภาพแรกแสดงให้เห็นความ “สงบ” ของสภาพแวfล้อม
ภาพที่สามสะท้อนให้เห็นความ “สงบ” ของสภาวะจิตใจ
สภาพที่ดู “สงบ” จะถูกรบกวนด้วยสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดความวุ่นวายได้ ทุกขณะ แต่สภาวะจิตใจอัน สงบ ย่อมสงบได้ในทุกสถาน
บำเพ็ญใจ
สงบเงียบ เรียบราบใจ ไม่ร้อนรุ่ม
ไม่กลัดกลุ้ม คุมจิตมั่น ไม่หวั่นไหว
สิ่งรอบข้าง ดังโฉงฉาง ช่างปะไร
ก็เพราะใจ ได้สงบ พบสุขแล้ว