คนทั่วไปที่หลงเข้าข้างตนเองว่าเป็นปัญญาชนคนดีแต่พออยู่ระหว่างทางเลือกที่จะเป็นผู้ให้ หรือผู้ได้ ก็จะเอาแต่ได้ไว้ก่อน
พี่น้องที่คลานตามกันมาก็เช่นกัน พอพูคถึงแบ่งสมบัติ ความเป็นพี่น้องก็ห่างหาย เหลือแต่ “ใครจะได้อะไรมากน้อยกว่ากัน”
พ่อแก่คนหนึ่งเพิ่งสิ้นลมไป ลูกชายสองคนของแกที่ใช้ชีวิต อยู่นอกบ้านกลับมาจัดการงานศพ
แต่ยังไม่ทันจะจัดการอะไรได้ก็ถกเถียงกันเสียก่อนว่า บ้านหลังใหญ่ของพ่อควรจะตกเป็นสมบัติของใคร เมื่อพูดจาตกลงกันไม่ได้ก็ถกเถียงชกต่อยเอาเป็นเอาตายกัน
ในที่สุด น้องชายถูกพี่ชายกระทืบม้ามแตก ศพพ่อยังนอนแข็งทื่อลืมตาโพลงอ้าปากค้างอยู่บนเตียง ลูกชายคนเล็กนอนเเผ่ลิ้นจุกปากนัยน์ตาถลนอยู่ที่พื้นข้างเตียงเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง
ตำรวจมารวบตัวพี่ชายไปเข้าคุก น้องชายถูกนำส่งโรงพยาบาล อาการเป็นตายเท่ากัน
ศพพ่อ ญาติ ๆช่วยกันจัดการไปตามเรื่อง
บ้านหลังใหญ่ของพ่อปิดตาย ไม่รู้เมื่อไรจะมีใครเข้าไปครอบครอง
อย่าหยามเหยียด เกลียดพี่น้อง ต้องเผื่อแผ่
เพราะพ่อแม่ แลดูลูก ทุกคนนั่น
แม้แขนขา จะยาวสั้น มันต่างกัน
ส่วนลึกนั้น ท่านห่วงหา รักอาทร
อย่าฉกฉวย ด้วยคิดว่า “ข้ามาก่อน”
ใครเดือดร้อน ผ่อนกระหาย ให้น้องพี่
อย่าห่วงตัว กลัว “จน” กว่า ถ้าเขามี
เอาศักดิ์ศรี ไว้ที่ใด เมื่อวายวาง