ครั้งที่ 15 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519
ท่องขุมที่ 3
ตอน พบเจ้ายมบาลขุมที่ 3 (ซ่งตี่อ๊วง)
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จปรากฏตัว ตรัสเป็นกลอนมีความว่า :
เขียนบททรง แต่งตำรา ประกาศธรรม
พระรำพัน สิ่งจริงแท้ ยมโลก
ด่านนรก รับทรงศีล อย่าสะทก
ไม่โกหก มิต้องกลัว ยมบาล
อรหันต์จี้กง :การท่องนรกในวันนี้เข้ามาเป็นระยะที่สามแล้ว ขุมในแดนนรก เราสรรหาเยี่ยมชมแต่ที่มีเอกลักษณ์พิเศษของแต่ละสิ่ง ซึ่งแสดงออกถึงการเป็นแบบอย่างของขุมนั้นๆ เท่านั้นก็พอแล้ว มิเช่นนั้นแล้ว จะเที่ยวชมนรกน้อยให้ทั่วทั้ง 10 ขุม โดยตลอดก็จะต้องใช้เวลาหลายปี ทั้งนี้ก็เพราะเหตุว่าต้องการจะให้หนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" ออกสู่โลกโดยเร็วเพื่อช่วยกอบกู้ชักจูงมวลมนุษย์ ดังนั้นจึงเลือกชมแต่สิ่งที่มีความสำคัญเท่านั้น เจ้าหยางเซิง เตรียมท่องนรก รีบขึ้นบนดอกบัวเร็ว
หยางเซิง :ขอรบบัญชา กระผมนั่งเรียบร้อยแล้วครับท่านอาจารย์ เริ่มเดินทางได้แล้วละ…..
อรหันต์จี้กง :ถึงแล้วละ รีบลงจากดอกบัวเร็ว
หยางเซิง :เบื้องหน้ามีหอสูงอยู่หลังหนึ่ง คล้ายกับสถานที่ปิดประกาศของเมืองมนุษย์ มีกระดาษสีแดงปิดอยู่บนนั้นพวกข้าราชการยมโลกและยมทูตหลายคนรุมล้อมอ่านกันเสียงขรมอยู่ เราจะเดินหน้าเข้าไปดูบ้างว่าในนั้นได้เขียนอะไรไว้บ้าง
อรหันต์จี้กง :ข้ารู้แล้วละ เจ้าอยากชมก็รีบไปเถิด
หยางเซิง :พวกข้าราชการของยมโลกและยมทูต เมื่อเห็นเราเดินมา ไฉนแต่ละคนแสดงความหวาดหวั่นประหลาดใจออกนอกหน้า ต่างก็หลบหลีกไป ?
อรหันต์จี้กง :พวกยมทูต - ข้าราชการเหล่านี้รู้ว่าเจ้าน่ะเป็นคนในแดนมนุษย์ ในกายได้พกพาเทวโองการมา จึงหลบหลีกไม่กล้าละเมิด ดูซิ…กระดาษสีแดงที่ประกาศนั้นเขียนว่าอย่างไรกัน ?
ที่แท้คือเทวโองการของท่านเง็กเสียงอ๊วงตี่ เขียนไว้ว่า :จอมศาสดาแห่งยมโลก ได้รับเทวโองการจากท่านเง็กเสียงอ๊วงตี่มีความว่า ข้าฯ สถิตเบื้องสวรรค์สืบราชสมบัติมาเป็นเวลาสามพันปีแล้ว ทรงอำนาจสิทธิ์ขาดตลอดเก้าชั้นนรก และหกทางแห่งการเกิดของดวงวิญญาณ ย้อนทวนจากวิญญาณเดิมลงประทับยังแดนมนุษย์เป็นต้นมา สมัยโบราณกาลนั้น จิตใจของผู้คนละมุนละม่อม ดวงกมลผุดผ่องบริสุทธิ์ ดังนั้นเมื่อเกิดก็เกิดเป็นมนุษย์ เมื่อตายก็ขึ้นสวรรค์ อันความจริงนั้นไม่มีนรก ตราบมาจนสมัยกลาง จิตใจคนเริ่มชั่วร้าย ดวงกมลค่อยเคล้าเปื้อนด้วยผงธุลี ความทำนองคลองธรรมเกิดวิปริต ต่างสร้างกำแพงปิดล้อมก็เลยสร้างนรกขึ้นเอง นอกจากปฏิบัติด้วยความซื่อสัตย์สุจริต กตัญญู สงวนตัวในทางดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และฝึกตนบำเพ็ญธรรมแล้ว นอกจากที่กล่าวมานี้แล้ว ทุกๆ คนต้องตกลงในห้วยแห่งเวียนว่ายตายเกิด ขณะนี้เราได้พบกับโลกที่อุบาทว์ สรรพสิ่งวุ่นวายอึกทึก ใจคอของคนกลับโหดร้ายยิ่งขึ้นก่อกรรมทำชั่วไม่เคยหยุดหย่อน เฉพาะอย่างยิ่งเพลิงแห่งคาวโลกีย์โหมแรงเหลือหลาย วิญญาณดั้งเดิมแห่งความเที่ยงแท้บริสุทธิ์ของฟ้าดินหลุดร่วงหล่นหาย โดยสร้างเคราะห์กรรมให้กับตนเองจึงเกิดฆาตเคราะห์เป็นเนืองนิตย์ สวรรค์ท่านมีความเมตตาไม่อาจทนดูมวลชนตกต่ำ จึงประกาศพระธรรมที่เที่ยงแท้ ในขณะที่มนุษย์ก่อกรรมมหาศาล คอยช่วยผู้คนที่มีบุญสุนทาน บัดนี้สำนักธรรมเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมืองไถ่ตง ซึ่งขึ้นตรงต่อสวรรค์ด้านใต้แห่งชมพูทวีป อำมาตย์กวน ผู้ได้รับเทวโองการให้เปิดทรงวิญญาณประกาศธรรมเพื่อสืบต่อความเมตตาเอื้ออารีจากท่าน ขงจื้อ - เม่งจื้อ ในกาลก่อน และรับช่วงธรรมะอันถ่องแท้จากพุทธเต๋าในกาลต่อมา เผยแพร่ศีลธรรมวัฒนธรรมกอบกู้ โปรดสัตว์ทั่วแผ่นดินมีผลงานที่เฉิดฉายเจิดจ้าข้าฯ ต้องการที่จะให้ชาวโลกทราบถึงความจริงแห่งเมืองนรกจึงได้มีโองการสั่งให้ไปยังสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งเขียนแต่งหนังสือมณีพจน์ "เที่ยวเมืองนรก" ขึ้น สั่งให้ท่านอรหันต์จี้กงนำพา หยางเซิงนักทรงพู่กันศักดิ์สิทธิ์นำวิญญาณท่องนรกทั้ง 10 ขุมนำเหตุการในการลงโทษของแต่ละขุมเผยต่อมวลชน และในระหว่างท่องนรกนั้นแสดงออกซึ่งหลักธรรมอันถ่องแท้เพื่อปลิดทำลายทิ้งความงมงายของชาวโลกด้วย ในระหว่างการแต่งหนังสือ เมื่อท่านอรหันต์จี้กงนำหยางเซิงเสด็จถึงแห่งใดแล้ว ให้ข้าราชการบริพารของแต่ละขุมทำการต้อนรับช่วยกันเขียนแต่งหนังสือเพื่อที่มณีพจน์เล่มนี้จะได้เสร็จสิ้นแต่เนิ่นๆ เพื่อทราบเทวโองการแล้วให้ปฏิบัติตาม หากมีการขัดขืนคำสั่งจะถูกทำโทษอย่างมหันต์ จึงประกาศให้ทราบดังกล่าว ณ วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2519 ที่แท้คือเทวโองการของท่านเง็กเสียง อ๊วงตี่ ให้นรกทุกขุมปฏิบัตินั่นเอง
อรหันต์จี้กง :ใช่แล้ว จะแต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" นอกจากมีเทวโองการไปยังแดนมนุษย์แล้ว แดนนรกก็ต้องออกประกาศเช่นกัน รีบเดินไปข้างหน้าเถิด ไปเยี่ยมคำนับท่าน ซ่งตี่อ๊วง แห่งขุมที่ 3
หยางเซิง :นรกขุมที่ 3 ห่างไกลจากที่นี่กี่มากน้อยไม่ทราบ ? บนถนนเห็นแต่พวกยมทูตและพวกวิญญาณผีเดินกันไปๆ มาๆ ไม่เห็นปราสาทของขุมเลย
อรหันต์จี้กง :ไม่ไกลนักจะถึงแล้ว รีบขึ้นบนดอกบัวเถอะ เพื่อประหยัดเวลา
หยางเซิง : เอาละครับ เริ่งเดินทางได้……
อรหันต์จี้กง :ถึงแล้วละ ลงจากดอกบัวเร็ว ข้างหน้าคือขุมที่ 3 รีบเข้าไปทำความเคารพท่านยมบาลซ่งตี่อ๊วง และตุลาการทั้งฝ่ายพลเรือน - ทหาร ได้พร้อมกัน ออกจากปราสาทมาต้อนรับเราแล้ว
หยางเซิง :ขอรับกระผม คำนับมายังท่านซ่งตี่อ๊วงและเทวทูตทั้งหลาย วันนี้เรารับเทวโองการให้ท่องนรกแต่งหนังสือ ขอได้โปรดให้การแนะนำชี้แจงด้วย
ซ่งตี่อ๊วง :เชิญลุกขึ้นเถิด มิต้องมีพิธีมากนัก ทราบมานานแล้วว่าสำนักของท่านตั้งใจในการประกาศเผยแพร่ศาสตร์อันศักดิ์สิทธิ์มาก และได้ชักนำผู้คนบำเพ็ญธรรมจนบรรลุผลบุญเป็นจำนวนมาก รู้สึกเลื่อมใสศรัทธามานานหนักหนา เชิญท่านทั้งสองเข้ามานั่งพักในปราสาทสักครู่เพื่อพบปะสังสรรค์กัน
หยางเซิง :ขอขอบคุณ ท่านยมบาลที่ชมเชย กระผมมิอาจกล้ารับด้วยความอาย สำนักของกระผม ภายใต้การนำของท่าน คู ศิษย์ทั้งหลายร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยสวรรค์ท่านประกาศแนะนำ ก็เพื่อทำตามหน้าที่ของตนที่พึงมี มิกล้าเอื้อมอาจว่ามีคุณธรรมให้ใหญ่ยิ่งประการใดเลย
อรหันต์จี้กง :ไม่ต้องเกรงใจ เราเข้าไปพักในปราสาทเถิด
ซ่งตี้อ๊วง :เชิญท่านทั้งสองนั่งตามสบาย โต๊ะม้าที่ทำด้วยไม้อันหยาบกระด้างนี้ ไม่นุ่มนิ่มเหมือนโซฟาของแดนมนุษย์นายพลรีบถวายน้ำชาท่านทั้งสองเร็ว
นายพล :ขอรับคำบัญชา ท่านทั้งสองเชิญดื่มน้ำชาครับ
หยางเซิง :ขอขอบพระคุณมาก ห้องรับแขกห้องนี้ตกแต่งวิจิตรแบบโบราณ สะอาดมาก บนฝาผนังมีภาพศิลป์แขวนอยู่มากหลาย อบอวลด้วยบรรยากาศแห่งวรรณคดี
ซ่งตี่อ๊วง :ถูกต้องแล้ว ข้าราชบริพารของขุมนี้จะมาดื่มน้ำชาสังสรรค์ในยามว่างอยู่เสมอๆ เพราะเหตุว่าข้าราชการในแดนนรกล้วนได้รับการเลือเฟ้นเลื่อนขึ้นมาจากผู้สร้างบุญกุศลของโลกมนุษย์ ดังนั้นจึงอยู่ในสถานที่ที่สะดวกสบายแห่งนี้ได้มิใช่ว่าแดนนรกล้วนแต่มีความทุกข์ทรมานก็หาไม่ แดนนรกก็เปรียบเสมือนคุกตารางของแดนมนุษย์ ผู้ที่รับทุกข์เข็ญล้วนเป็นพวกที่ต้องโทษ ดังนั้นผู้ช่วยซ้ายขวาของข้าพเจ้าก็เหมือนกับข้าราชการพนักงานในเรือนจำของแดนมนุษย์ เดินเหินก็เป็นอิสระเสรี ด้วยเหตุนี้หากจิตใจไม่ขาดกุศลบุญ ทำความดีสร้างบุญในแดนมนุษย์เมื่อวิญญาณลอยมาถึงยังยมโลก ข้าพเจ้าก็ต้อนรับด้วยอัธยาศัยที่ดี ข้อนี้ขอให้ชาวโลกทั้งหลายจงเข้าใจด้วยหากว่าตอนนี้อยู่ในโลกมนุษย์มีความคอชั่วช้าฉ้อฉล ความประพฤติชั่วร้ายโหดเหี้ยม ไม่ประกอบอาชีพที่สุจริต เมื่อตายแล้วตกมายังแดนนรก มือต้องร้อยด้วยโซ่เหล็ก หัวต้องใส่ขื่อคา แส้หนังแส้เหล็กเฆี่ยนตี จะมีความสุขสบายอย่างนี้ได้อย่างไรกัน
อรหันต์จี้กง :วันนี้เราหมดลงแล้ว เจ้าหยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนัก ขอบคุณมากที่ท่านยมบาลให้การแนะนำ วันอื่นมีโอกาสจะได้มาเยี่ยมใหม่
หยางเซิง :ขอขอบพระคุณท่านยมบาล และท่านนายพลมากที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นดียิ่ง เพราะว่าเวลาจำกัด เราจะกลับแล้วละ รอลาท่านทั้งหลายครับ
ซ่งตี่อ๊วง :มิต้องมีการคารวะ ขอส่งท่านทั้งสองหวังว่มาเที่ยวอีกครั้ง
อรหันต์จี้กง :รีบออกจากปราสาทเร็ว เตรียมตัวกลับสำนัก
หยางเซิง :ฉุกละหุกวุ่นวายมาก เวลามันน้อยเสียจริงๆ
อรหันต์จี้กง :อย่าได้พูดอะไรมาก เรารีบออกเดินทางกลับสำนัก….ถึงสำนักแล้ว
หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม
ที่เมืองไถหนาน นาย ก. สืบทอดกิจการโรงงานเครื่องเหล็กจากบิดา ชั่วเวลาไม่ถึง 8 ปี กิจการประส...