mindcyber 6 months ago
admin #hell

ครั้งที่ 47 ตอน ท่องแดนตัดลิ้นร้อยแก้มนรกน้อย

ครั้งที่ 47 วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2521

ตอน ท่องแดนตัดลิ้นร้อยแก้มนรกน้อย

ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จลงตรัสเป็นกลอนมีความว่า :

โลกมนุษย์ วุ่นวายหนอ มิควรยุ่ง

เนื้อนาบุญ ปลอดภาษี หว่านไถนา

ลูกคลื่นหลัง ซัดคลื่นหน้า ในคงคา

ชั่วพริบตา ใบไม้ร่วง อีกคราเอย


อรหันต์จี้กง :อ่านตามคำกลอนนี้แล้ว อาจมีคนพูดว่าอาตมานั้นเป็นผู้ที่หมดความมานะ เป็นผู้สิ้นหวัง ก็ล้วนแต่คนจะพูดไป อาตมาก็ไม่มีปัญญาที่จะไปห้ามปรามได้ ความมีมานะบากบั่นคล้ายกับการไต่บันได หากคิดจะมุ่งก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เมื่อบรรลุถึงขั้นสุดแล้ว ไม่รู้จักยับยั้งฝีเท้าก็จะต้องล่วงหล่นลงร่างกายก็จะย่อยยับแหลกลาญไม่มีชิ้นดี ดังนั้นชาวโลกควรจะสำนึกรู้ตัว ชีวิตของผู้คนในชาติหนึ่งมิได้ยืนอยู่ยงยาวนานอะไรนักหนา ห้องหอบ้านช่องตึกรามนั้นเพียงให้ท่านได้ยืมอาศัยอยู่ได้ไม่กี่สิบปีเท่านั้นเอง ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีวิธีใดที่จะยึดอยู่ได้ตลอดกาล เมื่อเหยียดแข้งเหยียดขานอนแผ่เมื่อใด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะสูญสิ้น พวกลูกหลานก็จะเชิญให้ท่านย้ายไปอยู่ยังแหล่งอื่นลูกคลื่นในแม่น้ำคลื่นลูกหลังซัดไล่คลื่นลูกหน้า คนรุ่นใหม่เข้ามาแทนคนรุ่นเก่า หากไม่สำนึกรู้ตัวโดยเร็ว รอคอยจนฝุ่นไอ (ผืนดิน) เต็มตัว (กลบหน้า) มองไม่เห็นวี่แววแห่งความสดใสใหม่แล้ว เวลานั้นก็จะกลายเป็นบุคคลในอดีตกาลเสียแล้ว วันนี้เตรียมท่องนรก เจ้าหยางเซิงจงขึ้นดอกบัวเสีย

หยางเซิง :ขอรับคำบัญชา คำสวดมนต์หน้าศาลเจ้าได้ดังกังวานขึ้น คือเสียงดนตรีที่สวดส่งผู้คนกลับขึ้นไปสู่แดนตะวันตก

อรหันต์จี้กง :เสียงสวดเร่าให้คนตื่นขึ้น คนตายแล้วไม่มีวันกลับเราไปนรกกันเถิด…ถึงแล้วละ เจ้าหยางเซิงลงจากดอกบัวเสีย

พัศดี :ยินดีต้อนรับท่านอาจารย์และท่านหยางเซิง แห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งมาเยี่ยมชมคุกนี้ และคุกนี้คือ "แดนตัดลิ้นร้อยแก้มนรกน้อย" อยู่ในความปกครองของขุมที่เจ็ด ท่านทั้งสองแต่งหนังสือตามเทวโองการมีความดีใหญ่หลวง น่าสรรเสริญเทิดทูนเป็นอย่างยิ่ง

หยางเซิง :ที่ท่านพัศดียกย่องนั้น ข้าพเจ้าไม่สามารถจะรับไว้ได้ การท่องนรกเพื่อแต่งหนังสือก็ได้รับการดูแลคุ้มครองอุ้มชูจากท่านอีกด้วย ต้องขอขอบคุณจากขั้วหัวใจโดยแท้ วันนี้ได้มาถึงคุกของท่าน ขอท่านจงเปิดประตูแห่งความสะดวกให้ด้วย

พัศดี :ต้องเปิดประตูแห่งความสะดวกให้แน่นอน ท่านทั้งสองเชิญตามข้าพเจ้าเข้าไปภายในคุกตรวจชมให้ละเอียดถ้วนถี่ได้

หยางเซิง :ขอบคุณมาก…ถึงหน้าประตูคุกแล้วยามรักษาการณ์ตั้งแถวแสดงความเคารพอยู่ ภายในคุกส่งเสียงขรมระงมไปด้วยเสียงคร่ำครวญทรมาน ยมทูตใช้ตะขอเหล็กงัดปากของพวกวิญญาณโทษออกแล้วก็สับเกี่ยวดึงเอาลิ้นออกมา เห็นวิญญาณโทษร้องตะโกนขึ้นทันที แล้วก็ใช้มีดที่คมกริบตัดเอาลิ้นให้ขาดเลือดสดๆ เปรอะเปื้อนเต็มหน้าอก ถึงขนาดนี้แล้ว พวกยมทูติยังไม่ยอมหยุด ยังหย่อนเอาเหล็กเจาะๆ เอาแก้มของวิญญาณโทษทั้งสองข้าง แล้วจึงใช้เส้นลวดร้อยไว้ ล่ามให้ติดกับเสาหลักวิญญาณโทษก็ร้องครวญครางแล้วก็สลบเหมือดไป การลงโทษแบบนี้สยดสยองและรุนแรงเหลือหลาย

พัศดี :ลิ้นติดเนื่องถึงขั้วหัวใจ ผู้ที่โดนตัดเข้าล้วนมีความเจ็บปวดแสนจะทรมาน บรรดาที่ถูกทำโทษแบบนี้ มือไม้เท้าตีนสั่นเทาไปหมด อุจจาระ-ปัสสาวะเรี่ยราดลงพร้อมกันในทันที

หยางเซิง :ยมโลกทำเครื่องมือทำโทษผู้คน ล้วนเป็นยาขนานที่ตรงต่อโรคทั้งนั้น เป็นที่น่าทึ่งน่าประหลาดใจมาก มิทราบว่าวิญญาณโทษเหล่านี้มันทำผิดโทษฐานอะไรบ้าง?

พัศดี :บรรดาที่มารับโทษในคุกนี้ ล้วนมีความผิดทางวาจา การสูญเสียศีลธรรมในการพูด ข้าพเจ้าจะสั่งให้วิญญาณโทษมาบอกเล่าถึงความผิดในตอนที่มันมีชีวิตอยู่ เพื่อลงพิมพ์ "เที่ยวเมืองนรก" ปลอบเตือนชาวโลก

หยางเซิง :ขอบคุณมากที่ท่านพัศดีให้ความร่วมมือ

พัศดี :วิญญาณโทษออกมาแล้ว ท่านหยางเซิงจงสอบถามได้ทุกประการ

หยางเซิง :ขอถามคุณยายผู้นี้ว่า ท่านมารับโทษยังที่นี้ด้วยเหตุใดมิทราบ?

วิญญาณโทษ :ฉันเพียงแต่พูดพล่อยไปเท่านั้น มิได้ทำความผิดอะไรเลยนี่ !

อรหันต์จี้กง :ฆ่าคนด้วยคำพูดมิใช่ความผิดดอกหรือ ? เธอไม่พูดความจริงต้องถูกลงโทษให้หนักกว่านี้อีก

วิญญาณโทษ :เอาละค่ะ ! อีฉันจะพูดความจริงก็แล้วกัน ตอนมีชีวิตอยู่อีฉันชอบอิจฉาริษยาคนอื่นมาก มักจะยุยงให้แตกกันเสมอๆ เคยใช้วาจากล่าวร้ายให้โทษผู้อื่น ทำให้เกิดความบาดหมางปั่นป่วนในครอบครัว พี่น้องต้องแตกแยกออกจากกัน ทำให้พ่อแม่ที่แก่เฒ่าขาดการเลี้ยงดูสงเคราะห์ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ผู้อื่นต้องรับเคราะห์กรรมนี่

พัศดี :เธอเป็นผู้หญิง "ปากหมา" (ปากเสีย) ที่ชาวโลกชอบกล่าวถึงนั่นแหละ ตัวเป็นผู้หญิง ไม่มีศีลธรรมในวาจา ใช้คำพูดยุยงปลิ้นปล้อน ทำลายครอบครัวที่มีสุขอย่างกลมกลืนสมบูรณ์และก็เคี้ยวหมาก ดื่มเหล้า เมายาไม่ขาดปาก ยามปกติคำพูดคำจาก็ไม่มีการยับยั้ง บางครั้งก็ตะเบงเสียงเอ็ดตะโรลั่นบ้านบางครั้งก็พูดแนบหูผู้ชายกระซิบสั่ง ที่กระทำไปล้วนคำพูดที่ไม่สุจริตหรือเป็นเรื่องไม่ดีไร้สาระ ลิ้นของเธอนั้นมีพิษสงจำตัดให้ขาดลงจึงจะทำให้เธอนิ่งเฉยพูดไม่ออก เพื่อจะได้ให้ไปบำเพ็ญทางวจีธรรมอีก

อรหันต์จี้กง :ลิ้นนั้นคมดังมีดดาบ "นรกตัดลิ้น" มีพวกผู้หญิงเป็นส่วนมาก เพราะว่าผู้หญิงนั้นพูดมากแล้วใจคอคับแคบ ทำให้เกิดคลื่นลมปั่นป่วนได้ง่ายที่สุด บ้างก็ตัวนั้นเป็นหญิง แต่ไม่มีคุณสมบัติที่อ่อนหวานแม้แต่น้อย พูดจาทีไรเสียงดังยังกับฟ้าร้องโดยวาจานั้นไปทำให้ผู้อื่นเกิดความโกรธเคืองก็ยังไม่รู้สึกตัวเมื่อตายลงต้องให้หัวควายหน้าม้าตัดซ่อมลิ้นของมันเพื่อทำให้สุ้มเสียงนั้นได้ลดต่ำลง จึงหวังว่าบรรดาผู้หญิงในโลกมนุษย์จงใช้วาจานุ่มนิ่มจะดีกว่า เพื่อไม่ต้องไปขัดใจขัดคอใครให้เสียน้ำใจกัน

หยางเซิง :ขอถามสุภาพบุรุษผู้นี้ ว่าท่านทำผิดฐานอะไรบ้าง จึงต้องมารับโทษชนิดนี้ยังที่นี้เล่า ?

วิญญาณโทษ :ตอนมีชีวิตอยู่นั้น ผมมีนิสัยร้อนรุนแรงมาก พอพบเห็นเรื่องที่ไม่สบอารมณ์หรือได้ยินคำพูดที่ขัดหูเข้า ก็จะแหกปากแผดเสียงด่าทอเป็นการใหญ่โดยไม่เกรงกลัวผู้หลักผู้ใหญ่ หรือโคตรเหง้าบรรพบุรุษของผู้อื่น ล้วนด่าเปิงไปหมด นอกจากนี้แล้วก็มิได้ทำอะไรชั่วร้ายเลย เมื่อตายลงแล้วท่านยมบาลไม่ลดละจะเล่นงานผม หาว่าผมปากเสียชอบด่าคน ทำสกปรกให้อภัยมิได้ ตัดสินให้เข้ามาตกอยู่ในคุกนี้รับการลงโทษให้ตัดลิ้นร้อยแก้ม แสนที่จะทรมานจึงขอเตือนชาวโลกจงอย่าได้เลียนแบบผมเที่ยวไปด่าทอผู้อื่นมิเช่นนั้นเมื่อตกถึงนรกแล้วทุกข์นั้นจะไม่สามารถบรรยายได้ถูก

พัศดี :ภาษิตท่านว่า "ใจร้ายนั้นคนมองไม่เห็น ปากร้ายทุกคนต่างได้ยิน" ปากที่ร้ายกาจนั้นจะทำให้ผู้อื่นเจ็บใจได้ง่ายที่สุดก่อเรื่องก่อราวเสมอๆ ทำให้กินแหนงแคลงใจไร้ความสมัครสมานที่เรียกว่า "บาดแผลจากคมมีดหายได้ง่าย แต่เจ็บช้ำจากคำกล่าวร้ายยากที่จะลบเลือน" เวลาด่าทอนัยน์ตาไม่ยอมมองคนเลยหยาบช้าสามานย์สิ้นดี เหยียดหยามฉีกหน้าผู้คนสารพัด เรียกได้ว่า "ไม่เว้นแม้แต่โคตรเหง้า" ก็เป็นความผิดที่หนักหนาชนิดหนึ่ง เฉพาะอย่างยิ่งกับผู้บำเพ็ญธรรม คำพูดคำจายิ่งต้องตั้งอยู่ในหลักธรรม ห้ามใช้คำพูดที่มีสิ่งสกปรกปะปนเคลือบแฝงเป็นอันขาด มิเช่นนั้นศีลธรรมทางปากเสื่อมคลาย ผลธรรมก็เน่าเปื่อย หมดสิ้นความหวังที่จะบรรลุธรรม แต่ตายลงแล้ว "นรกตัดลิ้นร้อยแก้ม" จะมีส่วนให้รับ

หยางเซิง :ขอถามครูบาผู้นี้ ท่านมาสวดมนต์ที่นี้ด้วยหรือ

วิญญาณโทษ :นะโมพุทโธ มนต์ช่างสวดยากหนักหนาหวนนึกถึงปางก่อน เลื่อมใสในอิทธิฤทธิ์ของพระพุทธอันใหญ่ยิ่งมโหฬารจึงได้ออกบวชรับศีลเป็นภิกษุสงฆ์ขยันท่องอ่าน ค้นคว้าในทางพระธรรมคัมภีร์จนรู้ซึ้งแตกฉาน ได้แต่งตำราประกาศธรรมหรือขึ้นธรรมมาสน์บรรยายธัมมะ มักจะวิจารณ์ติเตียนศาสนาอื่นๆ เขา โดยถือเอาพระพุทธเป็นใหญ่แต่องค์เดียว ว่านอกนั้นแล้วเช่นเทพเจ้า เจ้าชั้นกษัตริย์ เจ้าแม่ต่างๆ ล้วนเป็นเจ้ากระจอกว่าเป็นภูตเป็นมารนอกศาสน์มิใช่ศาสนาของพระพุทธท่านที่เป็นศาสน์แท้เพียงองค์เดียว ไม่ต้องไปเคารพนับถือ ผู้ที่รับการกล่อมเกลาอบรมจากผมก็มีไม่น้อย จากนั้นมาดูหมิ่นดูแคลนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นินทาให้ร้ายศาสนาอื่น ทั้งนี้ผมได้ทำตามพูดตามคำจดบันทึกของคัมภีร์พระธรรม จึงไม่รู้ว่ามีความผิด เมื่อตายลงแล้วดวงวิญญาณโดนผูกมัดไม่สามารถเอาตัวรอด ที่แท้นั้นคือโดนควบคุมตัวจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก โดยโทษที่กล่าวร้ายเสียดสีผู้อื่นไม่เบาเลย จึงทำให้ผมต้องตกเข้ามาอยู่ในนรก ไม่สามารถไปยังแดนตะวันตก ขอท่านอาจารย์ได้โปรดช่วยเหลือกอบกู้ผมด้วย

อรหันต์จี้กง :ไอ้ศิษย์เวร ทางพุทธไม่มีศิษย์เลวๆ เหมือนอย่างเองนี่น่ะ ธรรมแห่งพระพุทธให้ความเสมอภาคสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะสามารถบำเพ็ญสำเร็จธรรมได้ ภายใต้กาลสมัยและสถานที่ๆ ต่างกันได้ เว้นแต่วาจาที่ยกขานขนานนามต่างกันเท่านั้นเอง เทพยดาเจ้าแม่ต่างๆ ที่ช่วยชาวโลกกอบกู้ผู้คนล้วนแล้วแต่เป็นผู้บำเพ็ญธรรมฝึกอบรมจนบรรลุสำเร็จเป็นสิ่งสูงศักดิ์ สลายเรือนร่างแล้วขึ้นสู่สวรรค์เสพสุขยังแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น ซึ่งไม่ตรงกับได้กล่าวไว้ว่า โลกแห่งความสุดยอดเนื่องจากผู้บำเพ็ญธรรมยังห่างไกลจากการบรรลุถึงผลธรรมนั้นมีอยู่จำนวนมากมักอวดถือว่าตนฉลาดเก่งมากแล้ว เพื่อที่จะรวบรวมสมัครพรรคพวกลูกศิษย์สาวก ทำการตัดทอนต่อเติมคัมภีร์ตำรา หรือแต่งหนังสือขึ้นโดยเอาความเห็นส่วนตัวเป็นที่ตั้ง เลยทำให้เกิดความพิพาทวุ่นวายทางศาสนา ทำให้ผู้เลื่อมใสในทางบำเพ็ญธรรมเชื่อถือทำตามอย่างงมงายจนเกิดคติในการดูหมิ่นศาสนาอื่น ตัวเป็นมนุษย์เช่นเดียวกันแต่จิตใจต่างกันการกระทำของมนุษย์จึงทำให้คลื่นลมโหมแรงจัดมาก โทษฐานนั้นจะให้อภัยมิได้ จึงขอเตือนพวกพระพวกนักบวชในโลกมนุษย์ว่า การบำเพ็ญธรรมสำคัญที่จิตใจต้องบรรลุ มิได้อยู่กับการก่อเรื่องทำเหตุบรรดาที่ประกาศธรรมบิดเบือนสกปรก แต่งหนังสือด้วยใจอคตินั้น หากไม่เผาหนังสือโยนพู่กันทิ้ง (คือสำนึกผิด) โดยด่วน แล้วประกาศธรรมที่ถูกต้องถ่องแท้โดยปากทีสะอาดหมดจด เมื่อตายลงแล้วล้วนจะโดนลงโทษจากนรกตัดลิ้นร้อยแก้ม ให้ไปถ่องบน "ตำราทุกข์" ทุกวันคืนจะได้รู้รสแห่งการที่ใช้ปากทำลายคน วันนี้ได้เวลาแล้วเจ้าหยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนัก

พัศดี :สิ่งที่ขาดตกบกพร่องประการใด ขอได้โปรดอภัยด้วย ให้นายทหารตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์

หยางเซิง :ขอขอบคุณท่านพัศดีและนายทหารทั้งหลาย เราศิษย์ขอลาละ ท่านอาจารย์ครับกระผมนั่งลงเรียบร้อยแล้วเชิญออกเดินทางได้….

อรหันต์จี้กง :ถึงแล้วสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง

หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม

0
299
ฮัวท้อ ( หมอเทวดา )

ฮัวท้อ ( หมอเทวดา )

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

สมเด็จพระแม่เจ้าแห่งสุขาวดี

1654918052.jpg
mindcyber
4 months ago

เอาแปดเซียนเป็นกลอน

พระอาจารย์เอี้ยเอี้ยะซือ

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago
ยำหมูยอเจ

ยำหมูยอเจ

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago
video

ต้นไม้แห่งศรัทธา

admin
mindcyber
2 years ago