บันทึกปรากฎการณ์นรกนรกคนเป็น
นรกคนตายไม่มีคนมีชีวิตนอกจากบุญกุศลทำให้เปลี่ยนแปลง
พระจี้กงเสด็จลงประทับทรง กลอนนำเสด็จ
สถานธรรมจ๋วงเซินถังช่วยเกล่อมเกลา
ผู้บำเพ็ฐจิตต้องเฝ้าตลอดกาล
จรกคนเป็นฟ้ากำหนดปรากฎการณ์
พุทธจิตเพลาพิสาสไม่มีสอง
พระจี้กง : พุทธมีแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับบุญสัมพันธ์ที่ต่างกัน จึงให้เลือกผู้มีบุญสัมพันธ์แล้วบำเพ็ญน่าเสียดาย สถานธรรมในปัจจุบันต่างก็มีกำแพงกั้นขอบเขตมีความเห็นที่ต่างกัน จึงเป็นเหตุให้การเผยแผ่มหาสัทธรรมไม่กว้างขวางเต็มที่ กลับกลายเป็น “ปู่พูดปู่มีเหตุผล ย่าพูดย่ามีเหตุผล” หาใช่เป็นความต้องการของเบื้องบนไม่ด้วยเหตุนี้อาตมาหวังว่าผู้บำเพ็ญธรรมในโลกนี้ โดยเฉพาะหัวหน้าสถานธรรม หรือผู้รับผิดชอบต่อพระเจ้า ต้องไม่มีความคิดว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น ควรรู้ว่าพุทธธรรรมมีความเสมอภาคเพียงแต่ละคนมีกรรมสัมพันธ์ไม่เหมือนกัน การบำเพ็ญจึงต่างกัน การบำเพ็ญกับการเข้าถึงธรรมจะสำเร็จได้ช้าหรือเร็ซต่างกันเท่านั้น
ปัจจุบันชะตาฟ้ากำหนดแปรผัน ขอเพียงมีใจจะทำงานด้านธรรมะ เบื้องบนก็จะส่งเทพศักดิ์สิทธิ์มาให้ความช่วยเหลือในการเผยแผ่ธรรมะ เพราะฉะนั้นชาวโลกควรเข้าใจ ขอเพียงมีผู้จะขยายธรรมะโดยยอมปฏิบัติธรรมอย่างเท้าติดดินเท่านั้นก็จะรู้สึกได้ว่ามีเทพพุทธมาช่วยเหลือ
เฟยหลวน : ราตรีสวัสดิ์อาจารย์ ทำให้ท่านอาจารย์ต้องลำบากลำบนอีกแล้ว อาจารย์พูดเมื่อตะกี้นี้ ศิษย์มีความรู้สึกเห็นด้วยความเห็นผิดของคนในสถานธรรมปัจจุบันนี้ก็ถูกท่านอาจารย์พูดออกมาแล้ว
พระจี้กง : ปัจจุบันในท้องถิ่นภาคกลาง ความเจริญทางธรรมะของโรงเจจ๋วงเซินถังของเจ้านี้คงเส้นคงวามาตลอด ยึดมั่นในอุดมการณ์เพิ่มการอบรม เบื้องบนรู้สึกอบอุ่น ดังนั้นจึงมอบหน้าที่ให้เป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ขอให้บรรดาศิษย์ของจ๋วงเซินถังควรพิจารณาอย่างลึกซึ้ง ถึงความประสงค์ของเบื้องบนที่มอบภาระอันหนักนี้ แต่ละคนควรเตรียมตัวที่จะออกมารับใช้ได้ทันที เพื่อบูชาพลังจิตของตนเอง อย่ามัวแต่เฝ้าเป็นห่วงแต่บ้านช่องต้องรู้ไว้ว่าชะตาฟ้ากำลังแปปรเปลี่ยน ได้ทำให้งานด้านธรรมะของโรงเจก้าวหน้าไป ไม่เพียงแต่ศิษย์ของจ๋วงเซินถังเท่านั้นแต่เป็นมวลชนของจ๋วงเซินถังด้วย มิเพียงทำงานให้โรงเจเท่านั้น แต่ทำงานให้กับมหาชนอีกด้วย อันภารกิจเช่นนี้ก็เพื่อต้องการให้พวกเราได้มีโอกาสสร้างบุญเพิ่อชำระล้างหนี้กรรมสำหรับนายจ๋วงซิวก็หาใช่เป็นเพียงอาจารย์ของโรงเจจ๋วงเซินถังเท่านั้น หากแต่เป็นอาจารย์ของมหาชน ก็อย่างที่พูดจุดมุ่งหมายของ๗๋วงซิวตั้งแต่นี้ไปก็เพิ่ออบรมกล่อมเกลาให้มาก ๆโดยทั่ว ๆ ไปมิเพียงอบรมแต่ศิษย์ของโรงเจเท่านั้น หวังว่าศิษย์ทั้งหลายคงเข้าใจ
เฟยหลวน : ที่จุดนี้ก็เหมือนอาจารย์จ๋วงซิวซึ้งรู้พอสังเขปเพราะฉะนั้นในทุกวันนี้งานที่ทำก็ได้บอกให้ผู้บำเพ็ญในโรงเจรู้ว่า ทิศทางที่จะเดินไปทางไหน กับงานธรรมะที่จะเผยแผ่ส่วนใหญ่ก็เพื่ออบรมกล่อมเกลาโดยทั่ว ๆไป
พระจี้กง : ที่ผ่านไปแล้วก็คือ เกิดในจีนได้ยาก มหาสัทธรรมได้ยินได้ยาก เกิดเป็นมนุษย์ได้ยาก ธรรมาจารย์พบได้ยาก ตอนนี้อาตมาขอเพิ่มคำว่า “ทำกุศลได้ยาก” ขอให้ศิษย์หยั่งรู้ให้ล้ำลึก เอาล่ะ คืนนี้เวลาก็ดึกแล้ว เฟยหลวนขึ้นบนปทุมาสน์เราจะเดินทางกัน
เฟยหลวน : จะไปทัศนศึกษานรกคนเป็นอีก โอ้ ศิษย์คิดถึงสภาพการณ์ของวิญญาณคนเป็นที่กำลังรับทุกข์เหล่านั้นแล้วรู้สึกใจคอไม่สงบ มือไม้หนาวเย็นไปหมด จิตใจก็ทนไม่ค่อยไหวแต่เพื่อการแต่งหนังสือปลอบเตือนชาวโลก ไม่อยากไปก็ต้องไปเห็นทีต้องทนฝืนไป
พระจี้กง : สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เวไนยสัตว์ได้ก่อกรรมเอาไว้เองก็จำเป็นต้องได้รับการตอบสนองจากผลกรรมอันนั้น มิใช่เบื้องบนไม่เมตตา และก็มิใช่อาตมาจะใจจืด มันเป็นกรรมที่ตนเองก่อมาเองจริง ๆ ก็จำเป็นต้องให้ตนเองไปชดใช้กรรมบ้างการไปเที่ยวนรกคนเป็นก็เพื่อให้ชาวโลกที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว จะได้หวาดเกรงคอยระมัดระวังถึงการกระทำของตนเอง สำหรับจิตเมตตาของเฟยหลวนก็ได้แผ่ให้บรรดาวิญญาณคนเหล่านั้น ทำให้พวกเขาได้ลดการเจ็บปวดลงไปได้บ้าง เพราะฉะนั้นเจ้าไม่ต้องหวาดหวั่นกับวิญญาณคนเป็นเหล่านั้นจนใจคอไม่สงบ รู้ไหม
เฟยหลวน : ศิษย์รู้ค่ะ ขอบคุณอาจารย์ สิษย์นั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์ออกเดินทางได้
พระจี้กง : เออดี หลับตาเสีย ขึ้นได้ ......... ถึงแล้วยมบาลกำลังรอเราอยู่โน้นแล้ว รับขึ้นไปคารวะเสีย
เฟยหลวน : ค่ะ! ศิษย์เฟยหลวน ขอคารวะท่านยมทูตและท่านเทพทุกท่าน ศิษย์มารบกวนท่านเทพอีกแล้ว
ยมบาล : มิต้องเกรงใจ ลุกขึ้นเถอะ ขอร้นรับท่านพระอรหันต์จี้กงที่มาเยี่ยมอีก ขอเชิญน้ำชาข้างในขอรับ
พระจี้กง : คืนนี้อย่าดื่มน้ำชากันเลย อาตมาจะตามไปดูด้วยแต่วันนี้จะไปดูอีกแห่งหนึ่งของนรกคนเป็นหวังให้ท่านยมบาลรีบ ๆนำไป
ยมบาล : ขอรับ!กระผมได้รับสัญญาณมือเมื่อวันก่อน รู้ว่าวันนี้จะพาเฟยหลวนไปดูผู้รับทุกข์จากโรคที่ไม่มีทางรักษาคือนรกที่รับโทษหนัก ก็เป็นขุมนรกคนตายที่วิญญาณคนเป็นกำลังได้รับกรรมอยู่ขณะนี้เป็นส่วนหนึ่งของนรกคนเป็นเชิญขอรับ! เชิญท่านทั้งสองตามกระผมมาทางนี้....
เฟยหลวน : หูได้ยินเสียงร้องตะโกนเป็นช่วงๆ ฟังดูน่าสงสารนะ
ยมบาล : ถึงแล้ว! ที่นี่เป็นนรกคนตายที่ผู้รับโทษอยู่ในนรกคนเป็น
เฟยหลวน : ทำไมจึงเรียก “นรกคนตาย” คะ
ยมบาล :ที่นี่เปรียบเหมือนคุกตะรางในโลกมนุษย์ มีโทษจำคุก 2 ปี ก็มี 5 ปีก็มี ที่มีกำหนดต่างๆกันซึ่งในนรกคนเป็นก็เหมือนกันวิญญาณคนเป็นที่ถูกจับมาลงโทษจะมีกำหนดแน่นอน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับบาปมากน้อยแค่ไหน แต่วิญญาณคนเป็นในนรกคนตายก็เปรียบเหมือนนักโทษประหารในโลกมนุษย์ ซึ่งต้องถูกทรมานจนถึงวันตายจึงจะจบสิ้นกัน กายเนื้อของคนนั้นได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้หนักมากในชาติก่อนหรือชาติปัจจุบันวิญญาณของเขาจะถูกจับมารับโทษที่นี่จนกว่าชีวิตจะหาไม่เพราะฉะนั้น กายเนื้อจึงเป็นโรคที่ต้องตาย วิญญาณเป็นๆของเขาก็จะถูกจับมาลงโทษที่นี่จนสิ้นชีวิต เป็นอย่างนี้ท่านเข้าใจไหม
เฟยหลวน : อ๋อ! เป็นแบบนี้เอง ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะ ทำไมวิญญาณเป็นๆ แต่ละคนจึงถูกจับแช่อยู่ในบ่อรูปสี่เหลี่ยม(มองไปข้างหน้า...)อุ๊ย......ในบ่อมีหนอนเป็นเส้นๆเต็มไปหมด น่ากลัวจะตายแล้ว ศิษย์กลัวจะเห็นอย่างที่เห็นนี่แหละดูแล้วขนลุกซู่เลย ดูซิเหงื่อออกเต็มฝ่ามือเลย หนอนเหล่านั้นอยู่เต็มบ่อไปหมด แถมยังเกาะติดบนตัวอีกด้วย ดูเหมือนกำลังดูดเลือด เห็นแขนขาถูกดูดแน่นจนคนในนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ได้แต่ร้องไห้ตะโกน โอย.....อาจารย์ขา! น่ากลัวเหลือเกิน ที่จริงพวกนี้เขาเป็นโรคอะไรกันคะ
พระจี้กง :ดูเจ้ากลัวจนร้องเสียงหลง อย่ากลัว มีสติเอาไว้ลองดูบางคนซิว่ามีสภาพอย่างไรในบ่อ แล้วค่อยอธิบายให้ชาวโลกได้รับรู้ว่า พวกเขา(เธอ) ว่าทำกรรมอะไรเอาไว้จึงได้รับการตอบแทนอย่างนี้
เฟยหลวน : ศิษย์จะเป็นลมอยู่แล้ว ไม่กล้าดูต่อไปอีก
ยมบาล : พวกนี้มีโทษที่ต้องรับ เฟยหลวนเจ้าอย่ากลัว สภาพคนในบ่ออีหลายคน ดูๆแล้วก็ไม่นาจะกลัวอะไร
เฟยหลวน : ค่ะ...(กลัวๆอยู่ แต่ก็ดูต่อไป กลับไปคงไม่กล้ารับข้าว ทานอะไรเข้าไปคงอาเจียนออกหมด)
พระจี้กง :เฟยหลวนเจ้าท่องกลอนอะไรหรือพูดอะไรหรือ
เฟยหลวน : อ๋อ! ไม่มี ไม่มีอะไร(ก็ยังกลัวๆอยู่) ออกไปดูหนอนในบ่ออีก เห็นมันอยู่แถวๆคอหอย พวกวิญญาณเป็นๆเหล่านั้นร้องจนไม่มีเสียง บ้างก็มีหนอนเกาะติดอยู่แถวๆตับคนนั้นมีหนอนเกาะอยู่แถวๆ จมูก ที่แท้พวกนี้เป็นอะไรกันนะนอกจากที่เห็นครั้งแรกมีหนอนเกาะอยู่เต็มตัวไม่มีที่ว่างเว้นกันเลยนอกนั้นก็มีหนอนเกาะอยู่เป็นแห่งๆ ไป แต่ดูเหมือนว่าไม่เหมือนพวกวิญญาณเป็นๆ ในนรกคนเป็นเลย การเจ็บปวดจะมีระยะเวลา แต่ทางนี้จะเจ็บปวดติดต่อกันไปไม่มีวันหยุด
ยมบาล : วิญญาณคนเป็นในนรกคนเป็น การรับโทษจะมีระยะเวลาการเจ็บปวด มิได้รับโทษตลอด 24 ช.ม. แต่ผู้รับโทษในขุมนี้เป็นเพราะบาปที่ทำบาปที่สุด กรรมหนักมาก ดังนั้นตลอด 24 ช.ม. ก็จะได้รับโทษอยู่ตลอดเวลา สำหรับกายเนื้อในโลกมนุษย์ไม่มีผลการรักษาจากยาแก้ปวดหรือมอร์ฟีนดังนั้นกายเนื้อของเขาจะเจ็บปวดทรมานจนกว่าจะตาย ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ การใช้ยารักษาจะค่อยๆ ลดประสิทธิภาพลงจนในที่สุดก็ไร้ผล พูดอีกทีคือว่า แต่ละครั้งของการใช้ยาพอยาหมดฤทธิ์ลง กายเนื้อจะเพิ่มความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นทั้งนี้เพราะยาที่ใช้หรือยาชาจะมีผลชั่วระยะเวลาหนึ่งที่ทำให้กายเนื้อหมดความรู้สึก พอกายเนื้อเริ่มความรู้สึกอีกครั้งก็เหมือนกับว่ามีหนอนกำลังดูดเลือด ซึ่งแน่นอนความเจ็บปวดจะเพิ่มทวีคูณ และนี่คือทำไมคนที่ฟื้นจากยาสลบจะเพิ่มความเจ็บปวดจนทนไม่ได้ ในที่สุดพอยาหมดฤทธิ์ก็จะร้องจนสิ้นใจตายนอกเสียจากลูกหลานหรือญาติในครอบครัวที่มีความศรัทธาตั้งปณิธานมหากุศลทำมหากุศล หรือไม่ก็ต้องเป็นครอบครัวที่มีบุญกุศล มิฉะนั้นแล้วยากที่จะหลุดพ้นนรกคนตายไปได้
เฟยหลวน : ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะ อย่างนี้หมายความว่า มีคนที่เป็นโรคร้ายที่รักษาไม่หาย หากคนในครอบครัวอธิฐานขอสร้างมหกุศลแล้ว กลับหายจากโรคร้ายก็มาก อย่างนี้ใช่ไหมคะ
ยมบาล : ใช่แล้ว เบื้องบนจะดูกุศลจากบรรพชน ดูผลที่ถ่ายทอดสู่รุ่นหลังๆ แล้วดูปณิธานของคนในครอบครัวดูบุญกุศลที่กระทำไปและความศรัทธา มีความเชื่อและอดทนแค่ไหน และก็ดูอายุขัยด้วย บางครั้งก็ได้รับอภัยโทษครั้งใหญ่แล้วก็อย่างที่เจ้าเห็นว่าหนอนมันเกาะอยู่ส่วนไหน เช่นเกาะอยู่ที่คอหอยก็เป็นมะเร็งที่คอ เกาะอยู่ที่ปอดก็เป็นมะเร็งที่ปอด เกาะอยู่ที่กระเพาะก็เป็นมะเร็งกระเพาะ เกาะอยู่ที่ตับก็เป็นมะเร็งที่ตับ คือหนอนเกาะที่ไหนก็มีปัญหาที่นั่นแหละก็เป็นมะเร็งที่ตับ คือหนอนเกาะที่ไหนก็มีปัญหาที่นั่นแหละ
เฟยหลวน : แต่ไม่รู้ว่าพวกนี้ ได้รับโทษหนักตอบสนองเพราะเหตุอันใด
ยมบาล : ก่อนอื่น ต้องเข้าใจถึงสาเหตุ ที่วิญญาณเป็นๆ ได้รับเสียก่อน เขา (เธอ)อาจก่อกรรมในชาติก่อนหรือปัจจุบันชาติซึ่บาปที่ทำมากกว่าพวกวิญญาณเป็นๆ ที่รับโทศอยู่ในนรกคนเป็นมาก ซึ่งความบาปหนานี้มากจนสุดที่มนุษย์และฟ้าดินสุดจะทนได้ จึงได้ตกสู่ “นรกคนตาย” ในนรกคนเป็นเพื่อรับโทษทัณฑ์ ทำให้กายเนื้อเจ็บปวดทรมานจนตาย นี่แหละคือคนเป็นๆ ที่อยู่ในนรกบนดิน จุดมุ่งหมายต้องการให้คนได้รู้ได้เข้าใจ น่าเสียดายที่ชาวโลกไม่รู้ความแยบยลภายใน ดังนั้นถึงการแพทย์จะก้าวหน้า แต่สำหรับการเจ็บป่วยไม่มีทางหายจนถึงปัจจุบัน บรรดาแพทย์จนปัญญาหมดหนทางนอกเสียจากพบเห็นในระยะเริ่มแรกก็ไม่ต้องรับทุกข์นานทั้งนี้เพราะบุญกุศลของบรรพชนที่มีเหลือคุ้มครองมาถึงทำให้พ้นจากนรกคนตายไปได้
เฟยหลวน : อ๋อ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะ พูดเป็นว่าทุกอย่างมีกำหนดจากการที่มีสาเหตุปางก่อนจึงมีผลปางหลังใช่ไหมคะ
ยมบาล: ถูกต้องที่สุด! อย่างสาเหตุเป็นมะเร็งที่คอ เป็นเพราะชาติก่อนหรือปัจจุบันเป็นคนที่มีบุญวาสนา แต่ไม่ถนอมรักบุญวาสนา กินดื่มอย่างฟุ้มเฟือย เป็นการล้างผลาญสมบัติของเบื้องบนใช้อำนาจหน้าที่ข่มเหงคนดี ทั้งกินทั้งดื่มทั้งเล่นเสพสุขจนถึงที่สุด เบื้องบนจึงบันดาลให้ไม่ว่าอะไรก็ไม่มีทางเข้าปากสำหรับคนเป็นมะเร็งที่ตับ สาเหตุมาจากฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไปมากจิตใจดุร้ายเป็นเหตุ สำหรับมะเร็งของลำไส้ก็เพราะจิตใจคับแคบ เพราะเขามีส่วนหนึ่งที่ใจคอไม่ดี คิดวางแผนทำร้ายผู้อื่น อิจฉาผู้อื่นที่มั่งมี จึงเกิดใจมุ่งร้าย ต่อไปก็คิดฆ่าเขา ตีชิงวิ่งราว เพราะเหตุนี้ชาตินี้จึงได้รับกรรมชนิดนี้ตอบสนอง
เฟยหลวน : ขอเรียนถามท่านยมบาล อย่างประวัติบุคคลสำคัญก็ดี หรือท่านผู้อาวุโสของสถานธรรม หรือเป็นธรรมาจารย์พวกเขาทั้งชีวิตโอบอุ้มแต่ความเมตตาของสวรรค์ ช่วยเหลือคนอื่น ช่วยชาวโลก แต่บางคนกลับไม่ได้ตายดี บัางถึงกับเป็นโรคร้ายเจ็บปวดทรมานจนถึงสิ้นชีวิต อย่างนี้เป็นเพราะสาเหตุอะไร
ยมบาล: อันนี้เป็นเพราะเบื้องบนต้องการให้กายเนื้อของเราชำระล้างหนี้จากเจ้ากรรมชาติก่อน เพื่อรับอริยมรรคเป็นวิธีการที่จะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนเกิดอีก ก็อย่างที่เจ้าพูดเมื่อครู่นี้ ท่านบุคคลสำคัญหรือผู้ทรงธรรม พวกเขาต่างจงรักภักดีต่อชาติ เพื่อประชาชน หรือประกอบคุณงามความดีตลอดชีวิต แล้วทำไมจึงต้องได้รับทุกข์ทรมานเช่นนี้ ถึงแม้ปัจจุบันชาติจะสร้างมหากุศลแต่บาปกรรมที่สั่งสมมาจากอดีตชาติยังมีอยู่ และเพราะเบื้องบนเมตตา ไม่อยากให้เขาต้องรับทุกข์ในการเวียนเกิดอีก ด้วยเหตุนี้ความเจ็บปวดของโรคร้ายนี้จึงเป็นการชดใช้หนี้กรรม ทำให้หนี้ที่ตกค้างอยู่หมดไป เป็นการชำระล้างให้หมดหนี้ในชาตินี้ แล้วแปรเปลี่ยนเป็น “อริยชน” ก็ตรงกับคำพูดที่ว่า “ผลบุญสำเร็จสมบูรณ์”
เฟยหลวน : ศิษย์เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณท่านยมบาลที่ชี้แจ้ง อี๊ด ! ทำไมเจ้าหนอนดูดเลือดคนนั้นจึงลดน้อยลงไป เมื่อครู่นี้ยังเห็นเกาะเต็มบริเวณท้อง ทำไมจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ เป็นเพราะอะไรกันคะ
ยมบาล: อ๋อ นี่ก็ยืนยันได้ว่า ญาติในครอบครัวต้องมีคนทำบุญกุศลเพื่อชำระล้างแรงกรรมจึงทำให้หนอนค่อย ๆน้อยลง พอคนในโลกมนุษย์ทำบุญทำกุศลให้ ทางนี้ก็มีผลตอบรับก็ทำให้โทษกรรมของวิญญาณคนเป็นลดน้อยลงไปโดยอัตโนมัตินี่แหละคือแรงกุศลที่ไม่อาจคาดคิดได้เลย ชาวโลกได้ทำบุญกุศลไว้มากน้อยแค่ไหนก็จะลดแรงกรรมลงได้มากน้อยเท่านั้นไม่เพียงแต่ “นรกคนเป็น” แม้ใน “นรกคนตาย” ก็ยังได้ผลแม้แต่ผู้ป่วยก็รู้สึกได้ หากความรู้สึกของผู้ป่วยช้า ก็อย่าได้พร่ำบ่นจนต้องก่อวจีกรรม มิฉะนั้นแล้วบุญกุศลที่บรรพชนสร้างไว้ก็พลอยไม่ได้ผลไปด้วย ขอให้ชาวโลกจงเข้าใจจุดนี้ไว้ด้วย
เฟยหลวน : อ๋อ! ที่แท้เป็นเบบนี้เอง ศิษย์ยังคิดว่าเป็นเพราะพวกหนอนมันดูดเลือดจนอิ่มแล้วพากันถอยหนีไปเสียอีกที่แท้มิใช่ ก็ตอนที่เข้ามาทีแรกเห็นมีหนอนดูดกินอยู่เต็มตัวทั่วไปหมด พวกนี้เป็นโรคอะไรกัน ทำไมจึงดุน่ากลัวอย่างนี้
ยมบาล: อ๋อ! นั่นเป็นโคที่ติดต่อกำลังฮิตอยู่บนโลก นั่นคือ “โรคเอดส์” ละ
เฟยหลวน : โรคเอดส์ โรคที่ภาษฝรั่งว่ากันว่า AIDS นั่นหรือ ศิษย์เองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจกับโรคเอดส์นี้นัก เพียงได้ยินเขาว่ากันว่าคนที่เป็นโรคนี้มักเกิดจากเที่ยวสำส่อนหรือลักเพศ ศิษย์เองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ท่านยมบาลจะช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยได้ไหมคะ
เฟยหลวน : ถ้าพูดแลัวเรื่องมันยาว
พระจี้กง : คืนนี้ดึกมากแล้ว คราวหน้าค่อยมาฟังยมบาลอธิบายให้ละเอียดดีกว่า เฟยหลวนกราบลาท่านยมบาลเสีย พวกเรากลับกันเถอะ
เฟยหลวน : ว้า! กำลังเข้าเรื่อง ไม่รู้ว่าเวลาดึกไปเสียแล้ว ศิษย์ขอกราบลาท่านยมบาลที่ช่วยแถลงไขให้อย่างละเอียดขอบคุณค่ะ!
ยมบาล: มิต้องเกรงใจ ขอน้อมส่งเสด็จท่านอรหันต์จี้กง
พระจี้กง : ขอบใจมาก เฟยหลวนขึ้นบนปทุมาสน์
เฟยหลวน : ค่ะ! ศิษย์นั่งเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ เชิญอาจารย์ออกเดินทางได้
พระจี้กง : เออดี!ปิดตาเสีย.........ขึ้น......ถึงโรงเจจ๋วงเซินถังแล้ว เฟยหลวนลงจากปทุมาสน์ วิญญาณกลับเข้าร่าง อาตมากลับละ
เฟยหลวน : ขอน้อมส่งเสด็จท่านอาจารย์