บันทึกปรากฎการณ์นรกนรกคนเป็น
โรคเอดส์มาจากมนุษย์วิปริต
โรคร้ายแรงเพราะกรรมหนักหนา
พระจี้กงเสด็จลงประทับทรง กลอนนำเสด็จ
นรกคนเป็นฟ้ากำหนดยุคสาม
โอกาสงามจงอย่าฝืนจิตสวรรค์
งดบาปกอปรกุศลสร้างคุณธรรม
งานมหากัลปกฤกษ์แดนนิพพาน
พระจี้กง : บันทึกปรากฎการณ์นรกคนเป็นใกล้อวสานแล้วเบื้องบนเมตตา เพราะมิอาจทนเห็นเวไนยสัตว์ที่มืดมัวในกฎแห่งกรรมจนไม่รู้เรื่อง จึงเปิดโอกาสเผยความลับแต่งตำราเพื่อชาวโลกจะได้รู้ได้เข้าใจ มิใช่ต้องรอให้ตายก่อนค่อย “ตัดสิน” หรือ “ตอบสนอง” ควรรู้ว่าการจับเอา “วิญญาณคนเป็น” ไปรับทุกข์เป็นการบอกชาวโลกอย่างประจักษ์แจ้งว่า ความเจ็บปวดของกายเนื้อนั้น เป็นการลงโทษชนิดที่ไร้รูปลักษณ์หากชาวโลกล่วงรู้ถึงความเมตตาของจิตฟ้า โดยไม่โทษฟ้าเบื้องบนที่ลำบากใจ และก็ไม่โทษอาตมาที่พาเฟยหลวนเที่ยวตะลอน ๆเหน็ดเหนื่อยเพื่อแต่งหนังสือ
เฟวหลวน : ราตรีสวัสดิ์อาจารย์ ถึงเวลาแต่งหนังสืออีกแล้ว ฟังอาจารย์ว่าเมื่อครู่นี้ว่า หนังสือบันทึกปรากฎการณ์นรกคนเป็นใกล้วอวสานแล้ว ก็หมายความว่าคืนนี้หลังจากวิญญาณไปเที่ยวกลับมาแล้ว ก็จบอย่างบริบูรณ์ซินะ
พระจี้กง : วิญญาณเที่ยวนรกคนเป็นน่ะพอแล้ว เป็นไปตามกำหนดของเก้าสิบเก้าฟ้าดินแต่กำหนดของเก้าสุริยะ ซึ่งโรงเจของเจ้าได้แต่งหนังสือท่องเที่ยวด่านเก้าสุริยะแล้ว เบื้องบนได้จัดให้เหมาะสมกับงานครบรอบ 10 ปีของโรงเจเจ้า ดังนั้นพระแม่องค์ธรรมเหล่าหมู่จึงเมตตาเป็นพิเศษ มีพระโองการให้อาตมาพาเจ้าไปเข้าเฝ้าสมเด็จแม่องค์ธรรมในคราวหน้าก็จะครบเป็นตอนที่ 10 พอดี
เฟยหลวน : หา.....พบท่านเหล่าหมู่ จริงหรือเปล่าอาจารย์ไม่ใช่โกหกหนูนะคะ เพราะนี่เป็นสิ่งที่ศิษย์ถวิลหาเชียวละ (ดีใจจริงเลย)
พระจี้กง : อาตมาไม่พูดเล่น โกหกเจ้าได้หรือ! เอาละเวลาไม่มากนัก รีบ ๆขึ้นบนปทุมาสน์เถอะ
เฟยหลวน : ค่ะ! ศิษย์พูดพล่อยไปค่ะ ไม่ใช่ท่านอาจารย์จะโกหกหนูหรอก แต่เพราะหนูดีใจจนเกินไปจึงพูดเผลอพล่อย ๆ เห็นทีจะต้องแก้นิสัยกันจริงจังเสียที วันหลังจะได้พูดสิ่งที่ไม่ตั้งใจอันกลายเป็นวจีกรรมไป อาจารย์ขา! หนูขออภัยค่ะ! ขอบคุณอาจารย์ที่บอก ศิษย์นั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญอาจารย์ออกเดินทางเถอะ
พระจี้กง : รู้ผิดพแล้วแก้ไข กุศลใหญ่นะ ถึงแม้จะเป็นวจีกรรมโดยไม่ตั้งใจก็ต้องรู้ว่าแรงกรรมที่ทำไว้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องแบกรับเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรต้องระมัดระวังให้มาก เอาละ!หลับตาเสีย! ขึ้น.......ถึงแล้วท่านยมบาลกำลังรออยู่ข้างหน้าโน้นรีบเข้าไปคารวะ
เฟยหลวน : ค่ะ! ศิษย์เฟยหลวนขอคารวะท่านยมบาลและเหล่าเทพทั้งมวลในช่วงแต่งหนังสือนี้ช่างรบกวนพวกท่านเสียจริงทำให้เพิ่มภาระความวุ่นวายให้แก่พวกท่านไม่น้อย ศิษย์ขอถือโอกาสนี้กราบขอบคุณพวกท่านด้วยค่ะ
ยมบาล : เฟยหลวนมิต้องเกรงใจ นี้เป็นโองการสวรรค์และก็เป็นงานที่มีเกียรติ เมื่อหนังสือพิมพ์ออกสู่ชาวโลกคงได้ฉุดช่วยคนไม่น้อย พวกเราก็ได้อาศัยบุญของโรงเจท่านได้ออกแรงเพียงเล็กน้อยไปกล่อมเกลาชาวโลก พวกเราก็รู้สึกอบอุ่นภายในใจ ทางโลกจิตใจวิปริตอย่างนี้ก็จำเป็นต้องใช้ทั้งหนังสือคำพูดต่าง ๆไปกล่อมเกลา จึงจะไปได้ยาวไกล
เฟยหลวน : ค่ะ!ขอบคุณท่านยมบาลที่ชี้แจง
ยมบาล : ไม่ต้องเกรงใจ ! อย่างนี้ก็ขอเชิญท่านอรหันต์จี้กงและเฟยหลวนไปชมที่รับโทษหนักในนรกคนเป็นด้วยกันเถิด
เฟยหลวน : ว้า!คิดแล้วน่ากลัว โดยเฉพาะพวกหนอนเป็นเส้น ๆ ศิษย์น่ะกลัวมากที่จริงก็น่ากลัวนะ ว้า......มีเสียงร้องน่าสงสารมาแต่ไกล ๆ ศิษย์ไม่กล้าฟังต่อไปอีกแล้ว
พระจี้กง : อย่ากลัวเลย!มีสติหน่อย อาตมาอยู่ด้วย
เฟยหลวน : ค่ะ! ที่เห็นวันนี้ทำไมจึงมีหนอนดูดเลือดอยู่เต็มตัวไปหมด วิญญาณเป็นๆเหล่านั้น อุ้ย!...น่ากลัวจัง บางคนตัวแทบจะแตกสลาย พวกหนอนพวกนี้มันมาจากไหนกันนะดูพวกเขา (เธอ)น่าสงสารมากนะ
ยมบาล : นี้เป็น “หนอนกรรม” เป็นกรรมเวรที่ตนเองได้ก่อเอาไว้ต้องได้รับผลตอบสนองเช่นนี้
เฟยหลวน : เอ้อ!พวกวิญญาณเป็นๆที่พวกเขา (เธอ)ได้รับเคราะห์กรรรมอยู่ที่นี่นั้น แล้วสภาพกายเนื้อของพวกเขาจะเป็นเช่นไรกันคะ
ยมบาล : นี่คือสิ่งที่ชาวโลกในศตวรรษที่ 20พูดกันว่าเป็น “โรคแห่งความตายมืด” เป็นโรคร้ายแรงที่ไม่มีทางรักษาชาวบ้านเรียกว่า “โรคเอดส์” วิญญาณเป็น ๆของผู้ป่วยเขา(เธอ) จะมีสภาพทุกข์ทรมาน
เฟยหลวน : โอ้ย! “เอดส์” ขอเรียนถามท่านยมบาลอะไรคือ “โรคเอดส์” แล้วมีสาเหตุความเป็นมาอย่างไร ศิษย์เห็นแต่ในหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เท่านั้น เกี่ยวกับสาเหตุความเป็นมาของเอดส์ทั้งไม่รู้และไม่เข้าใจ รู้เพียงว่าเป็นพวกลักเพศ ทั้งเพศเดียวกันกับพวกสองเพศอะไรเหล่านั้น พวกเราก็พูดว่าเป็น “โรคเอดส์” ใช่แบบนี้หรือเปล่า ขอท่านยมบาลอธิบายหน่อย
ยมบาล : คนที่เป็นโรคนี้ มิใช่เป็นเพียงแต่พวกลักเพศหรือพวกเพศเดียวกัน หรือพวกที่ชอบทั้งสองเพศ หรือสำส่อนชายหญิงยังมีพวกที่ชอบแบบตะวันตกที่ชอบ “เซ็กซ์หมู่” หรือแลกผัวแลกเมียกัน......ต่างๆเป็นต้น พวกที่ฝืนคุณธรรมผิดประเพณีนิยม มักจะเป็นโรคนี้ได้ง่าย สาเหตุจากพวกสำส่อนทางเพศและไม่นับถือคุณธรรมจึงเกิดโรคนี้ขึ้น
เฟยหลวน : กับกายเนื้อ พวกเขาเจ็บป่วยกันอย่างไร ที่ทำให้หมอลงความเห็นว่าเป็นโรคเอดส์
ยมบาล : เอดส์เป็นโรคที่คนทันสมัยปัจจุบันเรียกขานกัน ที่จริงแล้วโรคนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แต่สมัยนั้นไม่มีชื่อเรียกมาสมัยนี้การแพทย์เจริญ จึงได้ตั้งชื่อว่า โรคเอดส์ แต่การแพทย์เจริญก็มิใช่จะสามารถรักษาโรคนี้ได้ อันนี้ต้องรอเบื้องบนที่จะมีโองการให้มียาอะไรมาสกัดกั้นโรคนี้ ชาวโลกจึงจะมียาใหม่ผลิตออกมาได้ ทุกอย่างล้วนเป้นกำหนดการของเบื้องบนทั้งสิ้น
เฟยหลวน : ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง แล้วสภาพอาการเป็นอย่างไร
ยมบาล : เริ่มแรกอาการจะมีเป็นไข้หวัดมีไข้ ทำให้ผู้ป่วยหมดแรงต่อไปก็จะอาเจียนและอุจจาระร่วง ต่อมน้ำเหลืองบวม ปอดจะเป็นวัณโรคแล้วก็จะไอติดต่อกันนานๆ เมื่ออาการต่างๆ ปรากฎออกมาหมดแล้ว คนไข้ก็ถึงขั้นโคม่าและสิ้นชีวิตในที่สุด
เฟยหลวน : ว้า!ถ้าวันหลังมีไข้หวัดก็ต้องรีบ ๆไปหาหมอแล้วจะได้ไม่กลับกลายเป็นโรคร้าย
ยมบาล : ใช่แล้ว! ชาวโลกมักไม่สนใจกับไข้หวัดเกิดขึ้นมักจะคิดว่าเป็นโรคเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆไม่ทำอันตรายต่อร่างกาย หารู้ไม่ว่าเรื่องเล็กๆอย่างโรคหวัดเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆนี้เอง
เฟยหลวน : อื้อ! ขอเรียนถามอีกที คนเป็นโรคนี้ มีสาเหตุแบ่งออกกี่อย่าง
ยมบาล :นี่ก็แบ่งเป็นชาติก่อนกับชาตินี้ ที่ชาติก่อนก็คือจิตฟ้าปางก่อน (อยู่ในท้อง) ธรรมดาเรียกว่า เหตุกับผล ตอนมีท้องก็ได้รับเชื้อโรคเข้าไป หรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน อันเป็นผลตอบสนอง ที่ชาตินี้คือเป็นผู้ไม่รักตนสงวนตัว สำส่อนทางเพศหรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่แยกแยะ ซึ่งเป็นโอกาสที่เหมาะสมจึงถูกเบื้องบนลงโทษ
เฟยหลวน : เป็นเช่นนี้ ศิษย์พอเข้าใจบ้างแล้ว มองดูพวกที่แช่อยู่ในน้ำร้องโอดโอย ช่างน่าสงสาร น่าสมเพชเวทนายิ่ง พวกเขาน่าจะสำนึกผิดตั้งแต่แรก ดูพวกเขา (เธอ) แขนขาถูกตรึงแน่น ดูเหมือนพวกหนอนจะตุมเต้าขึ้นไปดูดเลือดบนตัวน่ากลัวมากนะ! แล้วแบบนี้จะอธิบายว่าอย่างไรกันคะ
ยมบาล : พวกหนอนเหล่านี้ในทางโลก ภายใต้กล้องจุลทรรศน์พวกมันถูกแรียกว่าเชื้อโรคจุสินทรีย์ในร่างกายมนุษย์ก็มีภูมิคุ้มกันอยู่ซึ่งมันจะควบคุมเชื้อโรคในวงการแพทย์ได้ค้นพบว่า ภูมิคุ้มกันถูกเชื้อโรคทำลาย ก็เท่าที่เธอเห็นสภาพอยู่ในขณะนี้ หากชาวโลกคิดที่จะมีชีวิตรอดจากนรกคนเป็นแล้ว ทางที่ดีก็อย่าไปรบกวนมัน แล้วตั้งใจบำเพ็ญ อย่าได้ฝืนขัดคุณธรรมแห่งมนุษยชาติซึ่งควรมีอยู่ ต้องไม่เห็นแก่อารมณ์ชั่ววูบโลภความสุขชั่วประเดี๋ยวประด๋าว พึงรู้ไว้ว่าภายใต้เปลือกที่เคลือบน้ำตาลมีพิษร้ายที่ถึงแก่ชีวิตได้ ชาวโลกพึงระวัง
เฟยหลวน : ค่ะ! ขอบคุณท่านยมบาลที่ชี้แจ้งละเอียด ก็เป็นอันว่าผู้ที่เป็นโรคเอดส์เพราะสภาพภูมิคุ้มกันของร่างกายสูญเสียไปเพราะฉะนั้นจึงถูกพิพากษให้โทษถึงตาย
ยมบาล: อือ!พวกวิญญาณเป็นๆ ที่ถูกจับลงโทษใน “นรกแดนตาย” ก็เป็นทางที่จะให้พวกเขา(เธอ)ได้ลิ้มชิมรสแห่งการเจ็บปวด เขาจะได้รู้ “รสนิยม” ที่มีค่าตอบแทนสูงขนาดนี้ซึ่งเป็นการตักเตือนชาวโลกว่า ควรรักษาสภาพความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเอาไว้ อย่าทำสิ่งที่ทำลายคุณธรรม เสื่อมเสียจริยธรรม ทั้งทำลายผู้อื่นแล้วยังไม่มีประโยชน์แก่ตนด้วยต้องรู้ว่าผลที่ได้จากความสุขก็คือ ความทุกข์ที่ตามมา ชาวโลกควรคิดสักครา
เฟยหลวน : อือ! ศิษย์เข้าใจแล้ว ขอเรียนถามท่านยมบาลอีกว่าศิษย์ได้ยินเขาพูดกันว่า ถ้าตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้ว พบว่าบนตัวมีที่เขียวบ้าง ซ้ำบ้าง ห้อเลือดบ้าง บวมแดงบ้าง หรือก็เหมือนมีรอยไม้เรียวบ้าง หรือรอยแส้อะไร ทำนองนี้ในความฝันอาจรู้สึกเล็กน้อยว่าถูกคนตี แต่ก็ดูเหมือนไม่มีแต่พอตื่นขึ้นมา บนตัวมีรอยบาดเจ็บหรือรู้สึกมีอาการเจ็บอย่างนี้เป็นเพราะอะไรกันคะ หรือเพราะวิญญาณพวกเขา (เธอ) ถูกจับไปลงโทษในนรกคนเป็นใช่ไหมคะ
ยมบาล : ถูกแล้ว! อันนี้เป็นเพราะแรงกรรมที่ตอบสนอง และก็ถือโอกาสอันนี้ให้ผู้ที่ได้รับกรรมตอบสนองมีความรู้สึกและเกิดจิตสำนึกผิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่ความรู้สึกอันนี้มักจะเกิดกับบนร่างกายของผู้ที่มีคุณธรรม หรือผู้มีจิตเมตตา หรือผู้ปฏิบัตธรรม
เฟยหลวน : อ๋อ! ถ้ารู้ว่าเป็นแรงกรรมตนเองตอบสนอง แล้วจะแก้ไขอย่างไรกับแรงกรรมเหล่านี้
ยมบาล : ตอนนี้ยิ่งต้องรู้สำนึกผิดในความคิดแต่อดีต แล้วรีบๆทำบุญทำกุศลเพื่อชดเชยบุญกุศลที่ขาดไป เพื่อชำระล้างแรงกรรม
เฟยหลวน : ศิษย์เข้าใจแล้ว ศิษย์อยากเรียนถามท่านยมบาลอีกสักข้อได้ไหม
ยมบาล : ไม่เป็นไร พูดมาเถอะ
เฟยเลวน : ขอบคุณท่านยมบาล พูดก็พูด ชาวโลกมีโรคหลายอย่างนอกจากโรคมะเร็งที่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย แล้วโรคอย่างอื่นยังสามารถผ่าตัดช่วยชีวิต อย่างเช่น เนื้องอก ก็สามารถผ่าตัดช่วยชีวิตได้ แต่เนื้องอกกับมะเร็งมีแรงกรรมที่แตกต่างกันอย่างไร ศิษย์หมายความว่า เป็นในที่ที่เดียวกัน สมมุติว่า “เนื้องอกในมดลูก” กับ “มะเร็งมดลูก” ความแตกต่างของมันอยู่ที่ไหน
ยมบาล : อย่างนี้แตกต่างกันมากนัก “มะเร็ง” เป็นโรคแห่งฟ้าปางก่อน เป็นโรคกรรมที่วนเวียนมากตอบสนอง จึงได้ชื่อว่า โรคสิ้นหวัง นั่นเป็นระดับความหนาของบาปกรรมที่หนักมากสำหรับ “เนื้องอก” ส่วนใหญ่มักเป็นบาปกรรมที่ก่อไว้ในปัจจุบันชาติ อย่างที่เจ้าพูดถึง “เนื้องอกในมดลูก” ว่าทำไมจึ่งได้เป็นโรคนี้ มักเกิดจากความมักมากในกาม หรือไม่ก็เกิดจากแท้งลูกหลายครั้งเป็นสาเหตุ เพราะฉะนั้นสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ไม่เห็นอย่ากระทำ เหนือศีรษะ 3 ฟุตมีเจ้าอยู่ ในที่ลับตาหรือที่ไม่มีคนเห็นอย่ารังแกผู้อื่น ตาสวรรค์เห็นเสมอ มิใช่ไม่มีการตอบสนองเพียงแต่เวลายังมาไม่ถึ่ง เมื่อถึงคราวตอบสนองแล้วสำนึกผิดก็สายไปเสียแล้ว
เฟยหลวน : การตอบสนองของกรรมไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อยนิดฟังดูแล้วขนลุก ท่านยมบาลหมายถึงว่า ชาวโลกที่เจ็บป่วยหากเอาชื่ออะไรมาเรียกก็มักจะเกี่ยวข้องกับเวรกรรมที่กระทำซึ่งเป็นผลของกรรมนั้น ที่แสดงออกมาให้เห็นใช่ไหมคะ
ยมบาล :ถูกแล้ว
พระจี้กง :คืนนี้ท่านยมบาลอธิบายให้อย่างชัดเจน ได้พูดถึงสาเหตุของโรคที่เปลี่ยนแปลง หวังว่าชาวโลกจะเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมีกรรมกำหนด อย่าทำอย่างไม่ดีมิฉะนั้นตนเองต้องรับทุกข์เอง และก็หวังให้ชาวโลกรู้ว่าการที่เบื้องบนรั่วไหล “นรกคนเป็น” ให้ล่วงรู้มีความลำบากใจเพียงใด เอาละเวลาดึกแล้ว เฟยหลวนรีบอำลาท่านยมบาลและเหล่าเทพทั้งมวลเสีย เราจะได้กลับโรงเจกัน
เฟยหลวน : ค่ะ! ขอบคุณท่านยมบาลที่หลายวันมานี้ได้อธิบายอย่างละเอียดลออ เชื่อว่าชาวโลกคงเข้าใจ ศิษย์ขอขอบคุณท่านยมบาลและเหล่าเทพที่เมตตากรุณาแทนชาวโลกไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย (คุกเข่าสงสามครั้งแล้วกราบเก้าครั้ง)
ยมบาล: มิได้! มิได้! รีบๆขึ้นมา นี่ก็เป็นหน้าที่อยู่แล้ว หากมีที่ขาดตกบกพร่อง หวังว่าท่านอรหันต์จี้กงจะกรุณา
พระจี้กง: ท่านยมบาลและเทพทั้งหลายช่างเกรงใจจริง รบกวนมานาน ขอบใจทุกท่านที่เหน็ดเหนื่อยมาหลายวัน
ยมบาล:,เหล่าเทพ:มิบังอาจ! มิบังอาจ! ขอน้อมส่งเสด็จท่านอรหันต์จี้กง
พระจี้กง : เฟยหลวน รีบๆ ขึ้นบนปทุมาสน์
เฟยหลวน : ศิษย์นั่งเรียบร้อยแล้ว ขอเชิญอาจารย์ออกเดินทางได้
พระจี้กง : เอ้อดี! หลับตาเสีย ....ขึ้น.....ถึงโรงเจจ๋วงเซินถังแล้ว เฟยหลวนลงจากปทุมาสน์ วิญญาณกลับเข้าร่าง อาตมากลับละ
เฟยหลวน : ศิษย์ขอน้อมส่งเสด็จท่านอาจารย์