ชายผู้หนึ่ง ทำงานเป็นสถาปนิกในบริษัทแห่งหนึ่งมานานหลายสิบปี เขามีความสามารถเป็นเลิศทางด้านออกแบบก่อสร้าง วันหนึ่งเจ้านายเรียกตัวให้เข้าพบ กำชับให้เขาหาสถานที่ที่ดีที่สุด วัสดุอุปกรณ์ที่ดีสุด ส่วนแรงงานก็ให้ใช้คนงานที่ดีที่สุด เพื่อที่จะสร้างบ้านที่ดีที่สุดและแน่นอนผู้ควบคุมการก่อสร้างก็คือเขานั่นเอง
เมื่อเลือกสถานที่ได้แล้ว ชายผู้เป็นสถาปนิกก็คิดในใจ “ในเมื่อให้เราเป็นผู้วางแผนงานและไม่มีใครมาคอยควบคุม หลายปีที่ลำบากมา นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้เอาคืนบ้าง ” จึงหาซื้อวัสดุที่ถูกที่สุด คนงานก่อสร้างก็เป็นคนงานที่ห่วยที่สุด ทุกอย่างทำอย่างขอไปที ในที่สุดบ้านหลังนั้นก็สำเร็จเป็นรูปร่าง
หลังจากสร้างบ้านเสร็จ ผู้จัดการก็ได้จัดงานขึ้นบ้านใหม่ ในวันนั้นผู้จัดการได้มอบกุญแจบ้านให้แก่ชายผู้ควบคุมการก่อสร้าง และยังกล่าวอีกว่า
“ ทางบริษัทต้องการตอบแทนที่คุณลำบากเพื่อบริษัทมานานหลายสิบปี บ้านหลังพิเศษนี้ทางบริษัทขอมอบเป็นของขวัญแก่คุณ!”
โบราณกล่าวว่า “ ต่อให้กล้วยไม้บานอยู่ในป่าลึก ก็ยังหอมขจรแม้จะไม่ใครเห็น สุภาพชนบำเพ็ญธรรมสร้างคุณงาม อย่าเพราะยากแค้นแล้วเปลี่ยนปณิธาน”และอีกบทหนึ่งที่ว่า “ หากทะเลไร้คลื่น จะเกิดกัปตันที่ดีได้อย่างไร?” ในขณะที่ท่านเผชิญกับอุปสรรคการทดสอบจะสามารถ “ แม้นมั่งมีหลงระเริง แม้นยากจนไม่เปลี่ยนแปลงปณิธาน แม้นมีอำนาจไม่คดโกง ” มารับมือได้หรือไม่?
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
ปุถุชนเอาตาและหูมานำพาใจ กัลยาณชนอิงใจมานำพาตาและหู อย่าได้เป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่เย้ายวนหรือวุ่นวาย สะเทือนต่อจุดหมายแห่งการบำเพ็ญ
“สรรเสริญหรือใส่ไคล้ ในจิตใจไม่สั่นคลอน
กล่าวได้ว่าแน่นอน เห็นแจ้งแล้วต่อชีวิต
ปรีดาหรืออาฆาต ไม่กรี๊ดกร๊าดเปลี่ยนสีหน้า
เช่นนี้จึงกล่าวว่า การบำเพ็ญมาถึงเรือน”