โดย ท้ำจี่เฮี้ยง
คิดว่าพวกเราคงไม่รู้สึกแปลกหน้าสำหรับพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ แต่คนที่รู้จักท่านไม่ลึกซึ้งก็มีจำนวนไม่น้อย เพราะรู้เพียงว่าท่านเป็นผู้ควบคุมเมืองนรก และมักคิดว่าท่านเป็นเจ้าในทางมืด ถึงมองผ่านความเหนื่อยยากของพระองค์ที่เพียรโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ผู้มีอารมณ์ทั้งหลาย
เนื่องด้วยชาวบ้านได้บอกเล่าถึงมหาปณิธานของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์อีกทั้งในพระสูตรที่บอกถึงชื่อต่าง ๆ ของขุมนรกพร้อมทั้งบทลงโทษต่าง ๆ มากมาย ด้วยเหตุนี้ ผู้ได้ฟังจึงเกิดการเข้าใจผิด อีกคทั้งตามวัด ศาลเจ้าที่จัดสร้างองค์พระโพธิสัตว์ก็มักประดิษฐานท่านไว้ในส่วนของวิญญาณผู้วายชนม์ จึงทำให้ผู้พบเห็นมีความรู้สึกเย็นยะเยือกหวาดกลัว
ด้วยสาเหตุเหล่านี้ จึงเข้าใจผิดว่าท่านเป็นผู้ควบคุมยมโลก คิดแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่เป็นการเข้าใจอย่างลวก ๆ เพราะนี้เป็นเพียงบารมีส่วนหนึ่งของท่านเท่านั้น หารู้ไม่ว่าท่านได้แปลงกายนับร้อยพันกายเพื่อโปรดช่วยเหล่าเวไนยสัตว์ หากเราต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับท่านก็ลองศึกษาถึงคุณฌานการต่าง ๆที่มีต่อเวไนยสัตว์ พุทธองค์กล่าวว่า “ในร้อยพันเคราะห์กล่าวไม่หมด” และในพระสูตร ปณิธานกษิติครรภ์ พุทธองค์กล่าวว่า “อาตมาทรงเห็นอิทธิฤทธิ์พระกษิติครรภ์ มากมายดุจเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา ได้ยินในทุก ๆ ขณะจิตของพิธี ให้คุณประโยชน์ต่อมนุษย์และสวรรค์นับจำนวนไม่ได้” และในพระสูตรตี่อ๊วงชั้งจั๊บหลุ้ง พุทธองค์ตรัสว่า “พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์มีบุญกุศลเป็นเอนกอนันต์ พระปัจเจกพุทธะที่นับไม่ได้ พระโพธิสัตว์นี้เป็นครรภ์แห่งกุศลอันแยบคาย” ท่านมหาโพธิสัตว์ผู้อลังการ พวกเรากลับกระทำต่อท่านเหมือนเจ้าแห่งความมืด นับว่าล่วงละเมิดโทษต่อท่านยิ่งนัก
ยิ่งมีผู้รู้บางท่านได้จัด 5 มหาโพธิสัตว์ที่โปรดช่วยเวไนยสัตว์ อาทิ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์เลิศในปัญญา พระสมันตภัทรโพธิสัตว์เลิศในประพฤติ พระเมตไตรยโพธิสัตว์ เลิศในเมตตา พระองค์อวโรกิเตศวรโพธิสัตว์เลิศในกรุณา พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์เลิศในปณิธาน ท่านผู้รู้แบ่งเป็นอริยะชั้นสูงสุดและรอง ยิ่งไม่เหมาะสมเลย เพราะลักษณะแห่งปัญญา ประพฤติ เมตตา กรุณา ปณิธาน ล้วนเป็นเอกลักษณ์แห่งความเป็นพุทธะ หากปรารถนาจะสำเร็จพุทธผลแล้วจะขาดลัษณะใดลักษณะหนึ่งไม่ได้ ลองคิดดูหากขาดปัญญาจะขจัดอวิชชาได้อย่างไร หากรู้รอบในจิตทั้งปวงแล้วขาดความประพฤติจะมิล่วงสู่เพียงประโยชน์ตน ขาดประโยชน์ต่อผู้อื่นกลายเป็นยานคับแคบหากขาดเมตตาจะคล้อยตามเวไนยสัตว์ได้อย่างไร ขาดความกรุณาจะเกิดจิตเกื้อกูลช่วยเหลือได้อย่างไร และถ้าไม่มีปณิธานแล้วจะฉุดช่วยผู้ตกอยู่ในทุกข์ยากให้สบายได้อย่างไร ลักษณะทั้ง 5 ประการนี้ ถ้าพิจารณาให้รอบคอบก็คือความเป็นหนึ่งเดียว เพราะว่าจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งในลักษณะทั้ง 5 แล้วจะลุถึงพุทธผลได้หรือ และขอถามหน่อยเถอะว่ามหาโพธิสัตว์ทั้ง 5 นั้นองค์ใดบ้างที่ไม่พร้อมพูนไปด้วยมหากุศลบ้าง เป็นเพราะยังห่วงพวกเราจะไม่ได้พระสัทธรรม ให้เราพ้นทุกข์สู่สุข ควรรู้ด้วยว่าพระโพธิสัตว์ไม่ใช่ว่าจะไม่สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า หากแต่ทนที่จะละทิ้งพวกเราให้เป็นสรรพสัตว์ที่หลงใหลไม่ได้ เพราะฉะนั้นพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์จึงตั้งมหาปณิธานที่จะโปรดสรรพสัตว์ให้หมดสิ้น จึงจะลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ขุมนรกไม่ว่างเปล่า “ให้คำปฏิญาณว่าไม่สำเร็จพุทธะ” ด้วยใจที่เมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์เช่นนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราคาดคิดไม่ถึง ผู้น้อยขอแจ้งแก่ชาวโลกว่า พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ไม่ใช่โพธิสัตว์แห่งยมโลก ท่านไปทุกแห่งหนไม่ว่าจะเป็นโลกมนุษย์ สวรรค์ หรือพุทธภูมิ ล้วนมีรอยจารึกของท่าน ขอเพียงเมื่อท่านได้รู้ เข้าใจแล้วจะสรรเสริญและเคารพบูชาท่านด้วยความศรัทธา ขอให้พวกเรากับเหล่าเวไนยสัตว์ต่างได้รับการชักนำจากท่านเพื่อพ้นทุกข์ได้สุขโดยเสมอกัน พ้นจากหลงสู่ความประจักษ์แจ้ง แล้วค่อยปฏิบัติสัมมาสัมโพธิ
ผู้เขียน:พระโพธิสัตว์มีมหาปณิธาน สงสารเวไนยสัตว์ ท่านอวตารมาตั้งแต่อสงไขอันไกลเพื่อมาโปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์ ในพระสูตรมักกล่าวไว้ว่า “กองไฟร้อนแรงเปลี่ยนเป็นดอกบัวแดง พรมความร้อนลนให้เย็นสบาย” ทุกครั้งที่พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์เสด็จผ่าน นรกที่เผาไหม้เวไนยสัตว์ให้เจ็บปวดด้วยไฟนรก จะกลายเป็นดอกบัวแดงที่ใสสะอาดมารองรับฝ่าพระบาททั้งสอง เพราะเหตุนี้เวไนยสัตว์ขุมนรกจึงพ้นทุกข์ได้ชั่วคราวมีความเย็นสบาย
ในโลกวุ่นวายนี้ แม้กายเราจะอยู่ท่ามกลางนี้ บางครั้งก็เหมือนอยู่ในขุมนรก มีความร้อนรุ่มร้อยแปด ขอเพียงเราได้สวดพระนามพระโพธิสัตว์ “นโมพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์” แล้วเอาอย่างพระองค์ เอาใจที่อ่อนน้อมถ่อมตนมาต้อนรับสรรพสัตว์ หากยิ่งได้สัมผัสกับใจเมตตาของท่านแล้วก็จะได้ความเย็นสบายเป็นที่สุด
ท่านพระครูกล่าวเสียดสีธรรมะต้องตกไปเป็นสัตว์ เจ้าแม่จิตโพธิสัตว์เตือนไหว้เจ้าต้องใช้มังสว...