mindcyber 9 months ago

สรรพสิ่งล้วนว่าง

เหตุต้นผลกรรมไม่ว่าง

        พระสูตรว่า “สิ่งมีรูป ล้วนเป็นมายา” ในชีวิตประจำวันของเราไม่ว่ากับผู้คนเรื่องราวสิ่งของในใจของเราทุกๆ ขณะสกาวะที่มีอยู่ล้วนมายาเป็นรูปปลอมทั้งสิ้น

                ถ้าหากเราเอาสิ่งที่อยู่ต่อหน้าเราผู้คนเรื่องราวสิ่งของมาเป็นของจริงแล้วเช่นนั้นคือหลง เพราะมันมี “อาตมาลักษณ์ บุคคลาลักษณ์ สัตวาลักษณ์และชีวาลักษณ์”ที่กล่าวว่าสรรพธรรมเหตุปัจจัยเกิดขึ้น “เหตุปัจจัย” เกิดขึ้น ไม่มีจากจิตตน ควรเข้าใจว่าล้วนว่าง ที่สุดแล้วเอาไม่ได้!   เพราะฉะนั้นคนทั้งหลาย เรื่องทั้งหลาย ธรรมทั้งหลาย ล้วนเอาไม่ได้ ล้วนเป็นของปลอม

                รูปปลอมมาแต่ไหน พุทธองค์บอกเราว่า “เหตุต้นผลกรรมไม่ว่าง”เป็นเพราะมีวิบากเป็นเหตุผลกรรมตอบสนองติดต่อกันมา คนทั้งจักรวาลล้วนมาจากวิบากเป็นเหตุ ผลกรรมจึงตอบสนองเกิดดับติดต่อกันทุกๆขณะ นี่คือรูปจริงของชีวิตมนุษย์ในจักรวาล จุดความกระจ่างชัดของเหล่าพุทธโพธิสัตว์ก็อยู่ที่ตรงนี้ พวกเขาเข้าใจได้ชัดแจ้ง พวกเราปุถุชนแก่งแย่งชิงดีกันทุกๆวัน ทุบตีกันจนเลือดตกยางออก เจ็บทุกข์เหลือสุดๆพวกเขาที่อยู่ข้างๆ เห็นชัดเจน

                ไม่ว่าพวกเธอจะหาวิธีใดก็ตาม ในที่สุดก็ว่างเปล่า ที่จริงแล้วสักสิ่ง

หนึ่งก็ไม่ได้ มีแต่สร้างเวรกรรม สร้างบาปสร้างวิบากกรรม รูปที่ปรากฏให้

เห็นเป็นผลกรรมตอบสนองจากการสร้างวิบากเป็นเหตุ สร้างเหตุที่ไม่ดี

ใจ รูปที่ปรากฏจึงไม่ดี เพราะฉะนั้นพุทธองค์ว่า “สรรพสิ่งล้วนว่าง เหตุต้น

ผลกรรมไม่ว่าง” เพราะว่าธรรมทั้งหลายล้วนว่าง กายใจก็ไม่ได้รับ ถ้าหากว่า

มีสิ่งที่ได้รับ นั่นคือผิดแล้ว ! หลงแล้ว ! เพราะว่า “เหตุต้นผลกรรมไม่ว่าง”.

0
297

สถิตย์สภาวะสัจจ์

จูเหลียงฮูจื๊อ

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

เศรษฐีขี้เหนียว

1654918052.jpg
mindcyber
3 months ago
video

บทสวดหมีเล่อเจินจิง / 彌勒救苦真經

admin
mindcyber
1 year ago

อริโยวาทหลิวง้วนเอียง

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

กุศลแท้

ตั้งชิวกิ้ม

1654918052.jpg
mindcyber
11 months ago