เมื่อเจ็ดสิบกว่าปีก่อน ครั้งที่ปรเทศจีนเพิ่งจะเปลี่ยนการปกครองมาเป็นประชาธิปไตยได้ไม่นานนัก หัวเมืองบางแห่งเกิดการจราจลจากอิทธิพลของคนในเครื่องแบบอยู่พักหนึ่ง มีการจี้ปล้นแย่งชิงทรัพย์เงินทองของราษฎรชาวบ้านกันอย่างไม่เกรงอาญาแผ่นดิน พวกมิจฉาชีพ นักเลง อันธพาล ก็ได้โอกาสผสมโรงด้วย เป็นที่ปรีเปรมไปทั่วในหมู่ของคนชั่วร้าย
ที่ย่านท่าเรือหนันปู้ บนเกาะฉงหมิง มณฑลเจียงซู ก็เช่นเดียวกัน ที่แห่งนี้มีโรงงานย้อมผ้ายี่ห้อต้าซิง นายช่างใหญ่เป็นคนเมืองเส้าซิง ใครๆจึงพากันเรียกเขาว่า นายช่างเส้า นายช่างเส้าทำงานที่โรงงานนี้มาหลายปีจนได้เงินเดือนเดือนละสองพันเหรียญทองแดง
วันหนึ่ง ทหารกลุ่มหนึ่งผสมโรงด้วยคนร้ายหลายคนได้บุกเข้าปล้นร้านค้าใหญ่แห่งหนึ่งท้ายตลาด นายช่างเส้าบังเอิญผ่านไปพบเหตุเข้าพอดี แทนที่จะรู้สึกอนาถใจในการกระทำของกลุ่มคนชั่วร้าย และสงสารเห็นใจผู้ประสบเคราะห์กรรมเขากลับเกิดความโลภขึ้นอย่างแรงทันที เขาเฮโลตามคนร้ายกลุ่มนั้นเข้าไปแย่งชิงกับเขาด้วย ได้เงินมายี่สิบก้อน นายช่างเส้าเป็นหนุ่มใหญ่ตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่เมืองนี้ จึงนำเงินที่แย่งชิงมาได้ไปฝากไว้กับเถ้าแก่โรงงานที่เขาทำงานอยู่
จากนั้นมา จิตใจของเขาก็เฝ้าหมกมุ่นวาดภาพถึงความสุขที่จะได้รับจากเงินจำนวนนั้น เขายังคงทำงานอยู่ต่อไปจนสิ้นปี เมื่อเขาลาออกจากงาน เขาจะมีเงินเดือนที่สะสมไว้รวมทั้งเงินที่แย่งชิงมาได้รวามแล้วถึงหนึ่งพันกว่าตำลึงทีเดียว เงินจำนวนนี้มากพอสำหรับที่จะเอาไปซื้อที่นา ปลูกบ้าน แต่งงานหาความสุขได้ชั่วชีวิตที่เมืองเส้าซิง บ้านเกิดของเขา สิ้นปี นายช่างเส้าก็เข้าไปพบเถ้าแก่เพื่อขอลาออกและขอเงินยี่สิบก้อนที่ฝากไว้คืน เถ้าแก่เปิดบัญชีเงินเดือนของนายช่างเส้าออก บวกลบแล้วก็มอบเงินสิบพันเหรียญทองแดงให้นายช่างเส้า พร้อมพูดว่า
"เงินเดือนทั้งปีรวมยี่สิบสี่พันเหรียญทองแดง นายช่างได้เบิกไปสิบสี่พันกับอีกสี่ร้อย ส่วนที่เหลือคือเก้าพันหกร้อย แต่จะยกเศษให้ เอ้า นี่เงินสิบพันเหรียญ รับเอาไป"
"ผมขอเงินยี่สิบก้อนที่ฝากไว้คืนด้วย" นายช่างเส้าเตือน
"แกจะบ้าหรือ" เถ้าแก่ลุกขึ้นเต้าผางแสดงอาการโมโห "แกฝากเงินฉันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แกคิดจะขู่กรรโชกฉันหรือ เงินเดือนหักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือเท่าไหร่ ที่เมืองนี้แกไม่มีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเลย แกจะเอาเงินก้อนมาจากไหนได้ตั้งยี่สิบก้อน ถ้าแกพูดถึงเงินยี่สิบก้อนอีกละก็ ฉันจะเอาแกเข้าคุก"
นายช่างเส้าตกใจนิ่งอึ้ง หาคำพูดโต้ตอบยืนยันอย่างไรไม่ได้เลย เพราะเงินนั้นเป็นเงินที่แย่งชิงเขามา นายช่างเส้าเดินทางกลับบ้านเกิด ด้วยความอาฆาตแค้น เขานอนไม่หลับทุกคืนด้วยความเสียดายรวดร้าว เสียดายเงินยี่สิบก้อนนั้น ความคิดคุมแค้นความเจ็บปวดรวดร้าวความอัดอั้นทำให้เขาแทบจะบ้าคลั่ง
คืนวันหนึ่ง เมื่อความกดดันอันรุ่มร้อนพลุ่งพล่านถึงขีดสุด นายช่างเส้าก็ได้ผูกคอตาย ฝ่ายเถ้าแก่ของนายช่างเส้า หลังจากหักคอโกงเงินยี่สิบก้อนของลูกน้องมาได้แล้ว ก็ยิ่งชื่นชมกระหยิ่มใจในความสามารถเฉียบขาดอาจหาญของตนเป็นกำลัง หลังจากนั้นการค้าก็ยิ่งเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกด้วย
เวลาผ่านไปอีกสามปี เช้าวันหนึ่ง ขณะที่เถ้าแก่กำลังถ่ายอุจจาระอยู่ในส้วมริมทาง (สมัยก่อนเขามักสร้างส้วมไว้ริมทาง เป็นส้วมบ่อมุงล้อมด้วยหญ้าคาโปร่งๆ คนที่นั่งส้วมจึงมองเห็นคนที่เดินผ่านไปมาได้ชัดเจน) ทันใดนั้น เถ้าแก่ก็เห็นชายคนหนึ่งเดินผ่านหน้าส้วมไปอย่างรวดเร็ว
"เอ๊ะ นั่นมันนายช่างเส้านี่ มันกลับมาทำอะไรที่นี่"
เถ้าแก่ไม่รู้เลยว่า นายช่างเส้าได้ผูกคอตายไปแล้วเมื่อสามปีก่อน ด้วยความระแวงสงสัย เถ้าแก่รีบนุ่งกางเกงออกจากส้วมเดินตามนายช่างเส้าไปทันที ยิ่งตามเข้าไปใกล้ ก็ยิ่งเห็นชัดว่าเป็นนายช่างเส้าแน่ๆ ไม่ผิด "เฮ้ย มันเดินเข้าไปในบ้านของเราทำไม" เถ้าแก่ตกใจจนเกือบจะร้องตะโกน เถ้าแก่ตามมาจนถึงหน้าประตู แต่กลับเปิดประตูเข้าไปเองไม่ได้ ถามคนงานที่เฝ้าประตู คนงานยืนยันว่ายังไม่ได้เปิดประตูให้ใครผ่านเข้าออกเลย เถ้าแก่เห็นชัดเจนด้วยตาของตนเองว่า นายช่างเส้าเข้ามาแล้วจริง แต่ค้นหาจนทั่วโรงงาน ทั่วบ้านก็ไม่พบแม้แต่เงา
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงร้องอุแว้ อุแว้ ก็ดังขึ้นในบ้าน เมียของเถ้าแก่ได้คลอดลูกชายออกมาในเวลานั้น เถ้าแก่ได้ลูกชายเมื่ออายุเกือบห้าสิบแล้ว จึงตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุดเขาลืมเรื่องนายช่างเส้าไปเสียสิ้น เถ้าแก่โปรดปรานตามใจลูกชายคนเดียวของแกยิ่งนัก เด็กคนนี้มีแววฉลาดตั้งแต่เกิด พออายุได้แปดเก้าขวบก็เล่นการพนันเป็น พออายุได้สิบสองสิบสามก็หนีเรียนโดยเด็ดขาด แล้วมุ่งเล่นการพนันอย่างเดียว ถ้าเสียพนันก็กลับมาขโมยเงินที่บ้านไปเล่นต่อ ขโมยเงินไม่ได้ก็ขโมยข้าวของไปขายไปจำนำ พออายุได้สิบเจ็ดสิบแปด ก็นอนค้างอ้างแรมที่ซ่องโสเภณีเป็นประจำ ทั้งกิน ทั้งเสพ ทั้งซ่อง ทั้งสุม ไม่มีความชั่วใดยกเว้นไว้เลย เถ้าแก่จนปัญญาจะอบรมสั่งสอน ได้แต่ทนทุกข์ถอนใจ ระยะหลังๆลูกชายถึงกับลงมือทุบตีเถ้าแก่และเมียซึ่งเป็นพ่อแม่ที่ให้กำเนิดเขาอย่างไม่ยั้งมือ ถ้าหากพ่อแม่ขัดใจ ไม่ให้เงินทองเขาตามที่ต้องการ
ในที่สุดผู้เป็นแม่ก็ชอกช้ำใจตาย ส่วนเถ้าแก่ผู้เป็นพ่อก็เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย จำต้องเลิกกิจการ ทรัพย์สมบัติที่พอมีเหลืออยู่ก็ถูกลูกชายผลาญไปจนหมดสิ้น ชีวิตบั้นปลายของเถ้าแก่ผู้รู้แต่จะกอบโกยโกงเงินต้องตกสู่สภาพของขอทาน คลุกคลานไปตามทาง
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้พบศพของเขานอนตายแข็งทื่ออยู่ริมทาง เขาจะสำนึกได้หรือเปล่าว่า ผลกรรมนี้คือหนี้ที่นายช่างเส้าตามมาทวง ในชาตินี้ นายช่างเส้าได้ติดตามมาล้างผลาญแก้แค้นแล้ว แต่ผลจากการแก้แค้นที่นายช่างเส้าได้กระทำต่อพ่อแม่(เถ้าแก่) พอเหมาะหรือเกินเลยกว่ากันไปอีกเท่าไร ทั้งกรรมใหม่และกรรมเก่า ที่นายช่างเส้าจะต้องชดใช้ทั้งในชาตินี้และชาติหน้าจึงมีอีกเท่าไร และกรรมนั้นจะถึงกาลสิ้นสุดยุติลงได้เมื่อไร คำตอบนี้มีอยู่ในใจของทุกคน แต่ท่านค้นพบหรือยัง