หมวดที่ 1 หมวดสาธยายความหมาย
หมวดนี้ เป็นหัวข้อสำคัญของคติพจน์ทั้งบท
อธิบายความหมายของคำว่า ทุกข์ สุข กรรมดี กรรม
ชั่ว เคราะห์กรรมกับบุญวาสนามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ท่านอนุตรเทพไท่สั้งเหล่าจวินตรัสว่า
ทุกข์ สุข เคราะห์กรรม บุญวาสนาล้วนไร้ประตู
บุญวาสนาที่เราได้รับมา หรือเคราะห์กรรมที่ตัวเราเอง
ประสพล้วนแต่เกิดจากตัวเราไปแสวงหาทั้งนั้น
บุญสนองหรือกรรมสนอง กรรมดีหรือกรรมชั่ว ขึ้นอยู่
กับการกระทำของตัวเอง และผลบุญหรือเคราะห์กรรมนี้จะ
ติดตามตัวเรา “ดั่งเงาตามตัว”
หมวดที่ 2 หมวดตักเตือน
หมวดนี้บรรยายถึงเมื่อทำความชั่วแล้ว จะมีกรรม
สนองอย่างไร
ฉะนั้นฟ้าดินได้แต่งตั้งเทพเจ้า ที่มีหน้าที่บันทึกความ
ประพฤติชั่วหรือพฤติกรรมอันมิชอบของมนุษย์
แล้วตรวจดูความผิดของมนุษย์ มีมากน้อยแค่ไหน
ก่อกรรมทำชั่วมาก ตัดทอนอายุขัย
ประพฤติผิดน้อย บันดาลให้เกิดความยากจนถอดถอย
มักประสพเภทภัยวิบัติ ลำบากยากเข็ญ
ผู้คนรังเกียจ ไม่อยากคบค้า
คดีความตามติด ภัยพิบัติถามหา
มงคลชัยหลบหนี จากเคยโชคดีกลายเป็นอับโชคสิริ
มงคลเปลี่ยนเป็นภัยวิบัติ วาสนามลายสูญ
เภทภัย ทุกข์ยากมาเยือน เคราะห์กรรมตามติด จนถึง
อายุขัยถูกตัดทอนจนหมดสิ้น สิ้นชีพอย่างน่าเวทนา
หมวดที่ 3 หมวดควบคุมตรวจตรา
หมวดนี้กล่าวถึงเทพสารวัตรที่อยู่เหนือศีรษะเรา
จะทำการตรวจตรา สอดส่องความประพฤติของคน
เราอยู่ตลอดเวลา
มเี ทพซันไถ (ซันไถคอื เทพท่สี งิ สถติ อยูใ่ นกลุม่ ดาวกฤตกิ า)
เทพเจ้าดาวกฤติกา (คือเทพเจ้าที่ควบคุมชะตาชีวิต
ของมนุษย์)
ถึงพระองค์ท่านอยู่ห่างไกลจากเรา แต่มีบุญญานุภาพ
เหมือน สถิตอยู่เหนือศีรษะเรา
มเี จา้ หนา้ ท่คี อยบันทกึ ความประพฤตทิ ่ชี ั่วรา้ ยของมนุษย์
ประพฤติผิดมาก ตัดทอนอายุขัยหนึ่งรอบ 12 ปี
ประพฤติผิดน้อย ตัดทอนอายุขัย 1 คณนา (1 คณนาคือเวลา
100 วัน)
ทั้งมีเทพซานซือ (เทพซานซือคือ เทพที่เกิดจากสติ
แก่นสาร และพลังของคนเรา คล้ายเทพสารวัตรในกายเรา
มีหน้าที่คอยรายงานความประพฤติต่างๆ ทั้งชอบและมิชอบ
ต่อสวรรค์เบื้องบน) เทพซานซือสิงสถิตอยู่ในตัวคน
เมื่อถึงวันเกิงซิง (วันเกิงซิงคือวันที่เทพเบื้องบน
วิเคราะห์ความดีชั่วของมนุษย์) เทพซานซือจะขึ้นทูลเกล่า
พระผู้เป็นเจ้าของสรวงสวรรค์ รายงานความดีความชั่วของ
มนุษย์คนนั้น และวันแรม 14-15 คํ่าก็เช่นกัน
เพทเจ้าเตาก็ทำหน้าที่เฉกเช่นซานซือ เมื่อถึงวัน
สุดท้ายของเดือน ก็จะรายงานความผิดถูกของเจ้าบ้านต่อ
สวรรค์เบื้องบน ไม่ว่าใครประพฤติมิชอบ หรือก่อกรรมทำชั่ว
ความผิดใหญ่ตัดทอนอายุขัย 1 รอบ (12 ปี)
ความผิดน้อยตัดทอนอายุขัย 1 คณนา (100 วัน)
ความผิดใหญ่น้อยเหล่านี้ รวบรวมแล้วมีหลายร้อย
รายการ (ซึ่งจะบรรยายในหมวดที่ 6)
ผู้ที่อยากมีอายุวัฒนา ควรหลีกเลี่ยงการประพฤติมิ
ชอบ สิ่งที่เคยประพฤติผิดที่แล้วมา ควรละทิ้งและขจัดมัน
ออกไป มีแต่แก้ไขในสิ่งผิด จึงสามารถสร้างสิ่งดีงามขึ้นมา
ความชั่วไม่หยุด ความดีไม่เกิด ผิดไม่ขจัด ชอบไฉนจะมา
หมวดที่ 4 หมวดสร้างกุศล
หมวดนี้กล่าวถึงความประพฤติอันดีงามมีอะไรและ
ควรกระทำอย่างไร
พบธรรมมรรคควรเข้าหา ธรรมมรรคคือธรรมที่คล้อย
ตามฟ้า สอดคล้องกับจิตใจคน เป็นความต้องการของคน
ส่วนใหญ่
พบอธรรมมิจฉาบถควรถอยห่าง เส้นทางนี้เป็นหนทาง
ที่น่ารังเกียจ ฝืนฟ้าขัดหลักธรรม ฉะนั้น...
คนดีมิควรยํ่ากรายเข้าหาอบายมุข มิควรมีมิจฉาบถ
ถึงอยู่ที่ลับ ไร้คนรู้เห็น ก็ควรมีหิริโอตตัปปะ ไม่ควร
ประพฤติผิดในศีลธรรมและคุณธรรม
ความหมั่นสั่งสมกุศล คิดดีทำดี จิตไม่คิดดี กุศลไม่เกิด
กุศลไม่ทำ ผลบุญไม่เกิด กุศลมีแต่หมั่นสร้างหมั่นสะสม
อานิสงส์จึงจะตามมา
ควรมีเมตตาจิตต่อสรรพสิ่ง สรรพชีวิต
ควรซื่อสัตย์ภักดีต่อประเทศชาติ และพระมหากษัตริย์
ควรกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่บุพการี พี่ควรรักน้องและเอาใจ
ใส่น้อง น้องควรรักพี่ และเคารพนับถือพี่
จะอบรมสั่งสอนคนอื่น ตัวเองควรประพฤติดี ประพฤติ
ชอบเป็นเยี่ยงอย่างของผู้อื่น จากนั้นจึงสามารถสั่งสอนอบรม
คนอื่น (โดยเฉพาะผู้นำครอบครัว ครูบาอาจารย์ ผู้นำ
องค์กรและผู้นำประเทศ)
ควรสงสารลูกกำพร้า เวทนาหญิงม่าย
ควรเคารพผู้เฒ่าวัยชรา ควรเอาใจใส่เด็กเล็กเด็กน้อย
ต่อคนสี่จำพวกนี้ สมควรให้ความช่วยเหลือเท่าที่ความ
สามารถของตัวเองจะทำได้
แมลง สัตว์เล็ก ต้นไม้ ผักหญ้า ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิต
ไม่ควรทำลายล้างผลาญ ไม่ควรฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยไม่
จำเป็น
ต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก ต่อคนประสพเคราะห์กรรม ควร
สมเพชเวทนา อย่าไปเยาะเย้ยถากถางหรือไปซํ้าเติมเขา
ต่อผู้ได้ดี ประสพความสำเร็จ เราควรแสดงความยินดี
ต่อคนที่สั่งสมความดี หรือดำริดี เราควรให้การส่งเสริม ให้
กำลังใจสุภาพชนควรช่วยให้ผู้อื่นสมหวัง
ช่วยเหลือคนที่ได้รับความลำบากอย่างแสนสาหัส
ช่วยผู้ประสพภยันตรายอย่างทันท่วงที
เห็นผู้อื่นได้ดี มิควรอิจฉาริษยา
ควรดีใจแทนเขาอย่างเช่นดีใจกับเรา
เห็นผู้อื่นประสพความล้มเหลว ประสพความพ่ายแพ้
ควรเห็นอกเห็นใจเขา ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ไม่ประจานจุดอ่อน จุดด้อยของผู้อื่น เพราะสุภาพชน
ย่อมไม่ทำลายชื่อเสียงของคนอื่น
ไม่ควรโอ้อวดความสามารถ และผลสำเร็จของตนเอง
สุภาพบุรุษย่อมต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน
ควรยับยั้ง ควรขจัดความชั่วร้าย ควรส่งเสริม ควรเผย
แพร่ความดีงามให้คนหมู่มากได้รับรู้
ปฏิเสธมาก รับแต่เพียงพอ สิ่งที่ไม่ใช่เป็นของเราโดย
เฉพาะเงินทอง เราไม่ควรรับเกินคุณค่า ไม่ควรรับเงินโดยใช่เหตุ
ถูกดูถูก ถูกสบประมาท ไม่ย่อท้อ ไม่เคียดแค้น ไม่
อาฆาต เมื่อได้รับรักใคร่โปรดปราน อย่าหยิ่งผยองลำพองใจ
ทำสิ่งใดควรระมัดระวัง เจียมเนื้อเจียมตัว
ทำคุณอย่าหวังผลตอบแทน ทำคุณควรเกิดจากใจจริง
ถ้าทำคุณเพื่อชื่อเสียง คำสรรเสริญ ทำยกยอหรือทำเพื่อผล
บุญผลบุญก็ไม่ปรากฏ
ให้ทานแล้วอย่านึกเสียดาย การช่วยเหลือคนเป็นเรื่อง
คุณธรรมเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ ฉะนั้นเมื่อให้ของเขาแล้วอย่า
เสียใจอย่าไปทวงกลับ
หมวดที่ 5 หมวดบุญสนอง
หมวดนี้พูดถึงผลบุญสนอง ทำดีได้ดี เพื่อให้ผู้อ่าน
ฝักใฝ่ธรรมะ ฝักใฝ่สิ่งที่ดี และผลของการทำดีจะเป็นเช่นใด
คำว่าสาธุชน ทุกคนล้วนเคารพนับถือ แม้น..
ฟา้ ยังคุม้ ครองปกปอ้ ง สวรรคเ์ บอื้ งบนมมิ สี องใจ ไม่
ยึดถือญาติมิตร จะยึดถือแต่คุณงามความดี ฟ้าจะปกป้องแต่
คนดี เมื่อฟ้าปกป้อง บุญวาสนา ลาภยศชื่อเสียงก็จะตามติดมา
สิ่งชั่วร้าย มถุจฉา พวกอธรรมจะหนีห่าง
เหล่าทวยเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะอภิบาลรักษา
คดิ ส่งิ ใดยอ่ มสมใจปรารถนา ประกอบกจิ การใด ยอ่ มได้
รับความสำเร็จ (ต้องเป็นสัมมาทิฐิ และสัมมากับมันตะ) แม้..
อยากมีชีวิตอมตะ คิดเป็นเทวดาก็สามารถบรรลุผล
เนื่องจากผู้สั่งสมความดี หมั่นสร้างกุศล คล้อยตามฟ้า ถูกใจ
คน เมื่อบุญบารมีสั่งสมถึงระดับหนึ่งแล้ว ฟ้าย่อมประทานพร
ให้บรรลุมรรคผล
ผู้หวังเป็นเทพบนสรวงสรรค์
ควรสร้างกุศลได้ถึง 1,300 กุศล
ผู้หวังอยากเป็นเทพเดินดิน (ผู้มีอายุวัฒนะ ร่างกาย
แข็งแรง อยู่ดีมีสุข ไร้ทุกข์ไร้โศก เฉกเช่นเทพก็คือเทพเดินดิน)
อย่างตํ่าต้องประกอบ 300 กุศลขึ้นไปจึงสามารถบรรลุได้
หมวดที่ 6 หมวดอกุศลกรรม
หมวดนี้ ยกตัวอย่างอกุศลกรรมร้อยกว่ารายการมา
แนะนำชาวโลกว่า สิ่งเหล่านี้คือมิจฉาบถ คนดีไม่พึงปฏิบัติ
ถ้าหากประพฤติในสิ่งที่ไร้สัตย์ไร้ศีล ฝืนฟ้าขัดหลัก
ธรรม อย่างเช่น..
ถือผิดเป็นชอบ ทำความชั่วกลับอวดอ้างเป็นการทำดี
บางคนถือการเข่นฆ่าประหัตประหาร ทำลายทรัพย์สินเงิน
ทองปล้นสะดมแย่งชิง ลักเล็กขโมยน้อย ใช้เล่ห์เหลี่ยมลอก
ลวงชาวบ้านเป็นความสามารถของตัวเอง ไม่เพียงไม่สำนึก
ผิด กลับนำไปโอ้อวดในหมู่พวกเดียวกัน
บางคนอิจฉาริษยาคนดี จะทำร้ายซึ่งๆ หน้าก็ไม่กล้า
เลยแกล้งสร้างเหตุการณ์ สร้างหลักฐานเพื่อใส่ร้ายป้ายสีคนดี
บางคนต่อหน้าเบื้องสูง ผู้ใหญ่ เจ้านาย พ่อแม่ทำดีเอา
อกเอาใจ แต่ลับหลังกลับติฉินนินทา ใส่ร้ายใส่ความ ดูถูก
ดูแคลนต่อบุพการี ต่อครูบาอาจารย์ใช้ท่าทีที่ไม่เหมาะสมมิ
เพียงใช้กิริยามารยาทไม่เคารพน้อมนอบ บางทียังใช้วาจา
ถากถางเหน็บแนมต่อผู้บังคับบัญชา ต่อเจ้านาย ต่อนายจ้าง
ต่อสามีไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตัวเองที่พึงจะมี หรือบ่าย
เบี่ยงหลบหลีกหน้าที่ของตัวเอง
หลอกลวงผู้ด้อยความรู้ ผู้ด้อยปัญญา ให้เขาหลงเชื่อ
หลงทำตามในสิ่งผิด
ทำลายชื่อเสียง ใส่ร้ายป้ายสีต่อเพื่อนฝูง เพื่อนนักเรียน
ที่เรามิชมชอบ
พูดพล่อยๆ สร้างหลักฐานเท็จ หรือพูดจาแบบมี
เงื่อนงำเพื่อให้คนเข้าใจผิด หรือ..
แฉโพยความลับ โจมดีจุดอ่อนของญาติมิตร คนใกล้
ชิด สมัครพรรคพวกเพื่อหวังทำลายชื่อเสียง ให้คนเกลียดชัง
การกระทำเช่นนี้เป็นการสูญสิ้นมโนธรรม สูญสิ้นความเป็น
คน เป็นที่น่ารังเกียจที่สุด
กิริยาแข็งกร้าว ใจคอโหดเหี้ยม ขาดความปราณี ขาด
ความเมตตา
ทำตามแต่อำเภอใจตัวเอง
ผิดถูกไม่แยก ชั่วดีไม่แบ่ง กลับดีเป็นชั่ว กลับขาวเป็นดำ
สิ่งดีงามที่พึงกระทำกลับไม่ทำ สิ่งชั่วร้ายที่ควรหลีก
เลี่ยงกลับสรรหา เห็นคนดีกลับหนีห่าง เห็นคนพาลรี่เข้าหา
ทารุณโขกสับลูกน้อง เอาเปรียบผู้ใต้บังคับบัญชา เอา
ดีใส่ตัว ความผิดโยนให้ผู้อื่น
ประจบประแจงเจ้านาย สอพลอผู้ใหญ่ เพื่อหวัง
โปรดปราน รับคุณไม่สำนึก ไม่ทดแทน
รับโทษคิดอาฆาตมาดร้าย
เป็นขุนนางดูแคลนประชาราษฎร์ เป็นเจ้านายดูแคลน
ประชาชี
ทำลายการปกครอง ทำให้การเมือง ประเทศชาติ
ระสํ่าระสาย
ต่อคนเลวให้รางวัล ต่อคนถ่อยให้เลื่อนขั้น
เห็นคนดีเป็นคนร้าย ใช้อาญามุ่งทำลาย
เพื่อทรัพย์สินคิดฆ่าคน เพื่อเงินทอง ปองชีวิ
ทำลายเขา เพื่อตัวเอง เบียดเบียนคน เพื่อลาภยศ
บางที่ใช้วิธีเข่นฆ่าประหัตประหาร ปราบปรามทำร้าย
เพื่อให้คนศิโรราบ
กล่าวโทษ ผลักไสผู้ซื่อสัตย์ภักดี กีดกัน ขจัดผู้เปี่ยม
ด้วยคุณธรรม และความสามารถ
ข่มเหงรังแกเด็กกำพร้า บังคับ ขู่เข็ญหญิงม่าย โลก
มนุษย์ผู้ที่น่าสงสารที่สุดคือเด็กที่ไร้พ่อแม่เลี้ยงดู และหญิง
ม่ายที่ไร้สามีปกป้อง (ในสมัยโบราณ) ผู้ใดไม่ให้การช่วยเหลือ
กลับไปข่มเหงรังแกเขา คือการสร้างบาป
รับสินบน เพื่อทรัพย์สินเงินทอง ละทิ้งหลักธรรมไม่ยึด
หลักกฎหมาย
เวลาพิจารณาคดี วินิจฉัยปัญหา สิ่งที่ถูกกลับวินิจฉัย
เป็นผิด สิ่งผิดกลับวินิจฉัยเป็นถูก กลับขาวเป็นดำ กลับดำ
เป็นขาว
โทษหนักตัดสินให้เป็นโทษเบา โทษเบาติดสินเป็นโทษ
หนัก
การตัดสินโทษเช่นนี้ ถึงลานประหาร ผู้ต้องโทษไม่
เพียงแต่ไม่เกรงกลัว กลับเกิดความอาฆาตเคียดแค้น
พยาบาทไม่มีวันสิ้นสุด
ทำผิดไม่สำนึก รู้ผิดไม่แก้ไข ถึงความผิดที่ตัวเองทำ
อาจเกิดจากการไม่ตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ถ้ารู้ว่าผิด
แล้วยังทำต่อไปอีก ก็คือเท่ากับตั้งใจและจงใจจะทำ
เห็นดีไม่ปฏิบัติ เห็นชอบไม่ยอมทำ กุศลไม่ยอมสร้าง
ตนเองสร้างบาปยังไม่พอ ชักชวนผู้อื่นร่วมแก๊งร่วมทีม
ก่อกรรมทำเข็ญ
ซ่อนเร้น ทำลายหรือขัดขวางไม่ให้เผยแพร่ตำราการ
แพทย์ สูตรยาวิเศษ ศาสตร์แห่งการทำนายเป็นต้น ทำให้
ศาสตร์ศิลป์ที่มีค่าสูญหาย
ติเตียนป้ายร้ายพระอริยเจ้า ลับหลังนินทาปราชญ์และ
มหาบัณฑิต
บั่นทอน ทำลายศีลธรรมและคุณธรรม
ยิงนกล่าสัตว์ เข่นฆ่าชีวิต ไล่ต้อนนกกา ขุดปลวกจับ
แมลง ทำลายรังแก อุดรูสัตว์เล็ก ทำให้สัตว์เล็กสัตว์น้อยอยู่
ไม่เป็นสุข
ทำลายไข่ ทำลายครรภ์ ซึ่งเป็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเช่น
กัน
จิตใจอิจฉาริษยา อยากให้ผู้อื่นประสพความพ่ายแพ้
เกิดผลเสีย
กลัวผู้อื่นประสพผลสำเร็จแล้วเกินหน้าเกินตาตัวเอง
เลยพยายามหาทางทำลาย ทำให้เกิดความล้มเหลว
เบียดเบียนผู้อื่น ทำให้คนอื่นตกที่นั่งลำบาก แต่ตัวเอง
ปลอดภัย อยู่อย่างสบาย
เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ทำลายผู้อื่น
เอาความดีไว้กับตัว ความผิดโยนให้คนอื่น หรือเอา
ของด้อยของตัวเอง ไปแอบแลกเปลี่ยนกับของดีของผู้อื่น
เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ยอมทำลาย ละทิ้งประโยชน์ส่วนรวม
แอบอ้างความสามารถ ความสำเร็จของผู้อื่นมาเป็น
ความสามารถ ความสำเร็จของตนเอง
ปกปิดความดี ปกปิดความสามารถ ปกปิดผลงานของ
ผู้อื่น แต่โพนทะนาความเลว จุดอ่อน จุดด้อยของเขา
เปิดโปงความลับ เอาเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นออกแฉโพย
ถลุงทรัพย์สิน ล้างผลาญสมบัติของคนอื่น
ยุแยงคนรักให้เกลียดชังกัน พรากลูกพรากเมียเขามิให้
อยู่ใกล้ชิดกัน
แย่งชิงของรักของหวงของผู้อื่น
ยุยงส่งเสริมคนทำในสิ่งที่ผิด
สำแดงความโอหัง อวดศักดาบารมี
เย้ยหยัน ถากถางผู้อื่น เพื่อให้ตัวเองได้รับชัย
ทำลายต้นกล้า พืชไร่ชาวบ้าน
ทำลายการสมรส มุ่งร้ายงานวิวาห์ ทำให้คู่รัก
พลัดพรากจากกัน
หากได้รํ่ารวย จองหองพองขน
หากได้แคล้วคลาด ไม่รู้สำนึก
แอบอ้างความดี หวงบุญทวงคุณ ความชั่วผลักใส โยน
ให้ผู้อื่น
ตัวเองทำชั่ว ป้ายสีผู้อื่น โยนบาปขายบาป ไม่อายใจตน
หลอกลวงเสแสร้ง เพื่อเอาชื่อเสียง ผักชีโรยหน้าสร้าง
ภาพลวงคน
ใจคอเคี้ยวคด เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
ทำลายคนดี ให้เขาหายเด่น
เพื่อหวังปกป้อง ความชั่วของตน
อาศัยอำนาจ ข่มเหงคนอื่น อาศัยตำแหน่ง ยํ่ายีใจคน
เข่นฆ่าทำร้ายผู้ขัดขวางผลประโยชน์ตน ปราบปราม
ทำลายแม้ประชาชน
ตัดเย็บเสื้อผ้าโดยใช่เหตุ (สมัยก่อน เนื่องจากกำลัง
ผลิตยังล้าหลัง มนุษย์จะตัดเย็บเสื้อผ้าชุดใหม่ต่อเมื่อมีความ
จำเป็นต้องใช้เช่นขึ้นปีใหม่ หรือเข้าร่วมพิธีมงคล หรือได้รับ
การเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง หรือเสื้อผ้าชุดเก่าชำรุดเสียหาย
จะไม่มีเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าอย่างพร่ำเพรื่อ อย่างตามใจฉัน
เหมือนสมัยปัจจุบัน)
ถ้าไม่ใช่พิธีเส้นไหว้บวงสรวง ไม่ควรฆ่าหมู แพะ แกะ เป็ด
ไกม่ าปรุงเปน็ อาหารโดยไมจ่ ำเปน็ และไมค่ วรทงิ้ ขวา้ งธัญ
เบญจก เพราะธัญชาติทั้ง 5 แต่ละเมล็ดล้วนได้มาด้วยความ
ยากลำบาก ผูก้ นิ ผูใ้ ชค้ วรทะนุถนอม ไมค่ วรกนิ ทงิ้ กนิ ขวา้ ง
เป็นผู้ปกครองไม่ควรให้ประชาชนราษฎรต้องทำงาน
เหนื่อยยาก ตรากตรำลำบากเพื่อความสุข เพื่อประโยชน์ชอง
ตัวผู้ปกครอง หรือขูดรีดภาษีประชาชนจนประชาชนมีชีวิต
ความเป็นอยู่ลำบาก
ทำลายความสุขของครอบครัวผู้อื่น
ลิดรอน แย่งชิงทรัพย์สินเงินทองของชาวบ้านประชาชี
พังเขื่อน วางเพลิง
ทำให้ประชาราษฎร์ต้องได้รับความทุกข์ยากลำบาก
เพื่อประโยชน์ของตนเอง อาศัยอำนาจที่มีอยู่
เปลี่ยนแปลงกฎบัตรอันดีงาม ทำให้ระเบียบยุ่งเหยิง กฎหมาย
เลวทราม เพื่อทำร้ายหรือทำลายผลงานคู่ต่อสู้ ทำให้เขาได้
รับความเสียหาย
ทำลายข้าวของเครื่องมือ เครื่องใช้ของผู้อื่นหรือคู่แข่ง
ทำใหเ้ ขาไมม่ เี คร่อื งมอื เคร่อื งใชท้ ่จี ะใชแ้ ขง่ ขันกับตัวเอง
เห็นเขาเลื่อนยศหรือได้รับยศลาภสรรเสริญ ก็อยากให้
เขาถูกลดขั้นหรือถูกเนรเทศ
เห็นเขารํ่ารวย มีสุข ก็อยากให้เขาอับจนข้นแค้น หรือ
ครอบครัวแตกแยกพลัดพรากจากกัน
เห็นภรรยาผู้อื่นโฉมงาม ก็
เกิดจิตละโมบ อยากช่วงชิงมาเป็นของตน
คิดค้างหนี้สิน ไม่คิดจะคืน อยากให้เจ้าหนี้ตายเร็วๆ
ขอร้องผู้อื่นให้ช่วยเหลือ ไม่ว่าเรื่องการเงิน เลื่อน
ตำแหน่งยศศักดิ์ไม่สำเร็จ ก็เกิดความอาฆาต ด่าทอสาปแช่ง
เห็นเขาเพลี่ยงพลํ้า ก็ฉวยโอกาส
นินทาลับหลัง ขุดคุ้ยความผิดหรือจุดอ่อนเอามา
ประจาน
เห็นคนไม่สมประกอบหรือหน้าตาอัปลักษณ์ก็นำมาล้อ
เล่น พูดจาถากถางให้เขาอับอาย
เห็นเขามีความสามารถแทนที่จะยกย่องส่งเสริม กลับ
ใช้วิธีต่างๆ นาๆ กดให้ตกตํ่าเพื่อไม่ให้เขาเด่นกว่าตนเอง
เสกมนต์ดำ ทำคุณไสยเพื่อให้คนที่ตนรังเกียจ วายวอด
ฉิบหาย
ใช้ยาหรือสารเคมีลาดต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้ตายพราย
โกรธเคืองครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์เป็นผู้ประสิทธิ
ประสาทวิชาความรู้แก่เรา และสั่งสอนให้เราเป็นคนดี เรา
ควรให้ความเคารพน้อมนอบ ถึงบางเวลาเพื่อบรรลุเป้าหมาย
ในการสอน มีการตำหนิติเตียน เคี่ยวเขนทำโทษ เราก็ไม่ควร
ถือโทษโกรธเคือง อาฆาตเคียดแค้น
ขัดขืน ฝ่าฝืนคำสั่งของคุณพ่อและพี่ชาย ใช้วาจาที่ไม่
สุภาพ ก้าวร้าว ทำให้คุณพ่อผู้บังเกิดเกล้าและพี่ชายที่เคย
ดูแลเราเสียใจ
หยิบฉวยสิ่งที่ไม่ใช่เป็นเของเรา เรียกร้องสิ่งที่ไม่
สมควรจะได้
ชอบแสดงอำนาจบาดใหญ่ เที่ยวรุกรานแย่งชิง และ
ปล้นสะดมจนทำให้ตัวเองรํ่ารวย
ไม่พอใจตำแหน่งหน้าที่การงาน ใช้เล่ห์เหลี่ยม กลลวง
แม้กระทั่งวิ่งเต้นติดสินบน เพื่อให้ตัวเองได้รับการโยกย้าย
เลื่อนขั้น
ปูนบำเหน็จ ให้รางวัลหรือลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา
อย่างไม่ยุติธรรม
เสวยสุข เริงโลกีย์จนเกินความพอเพียง การเสวยสุข
เกินความพอเพียง จะทำให้คนเสียสติสัมปชัญญะและเป็นผล
ร้ายต่อร่างกายและครอบครัว
ทารุณโขกสับต่อผู้ใต้บังคับบัญชา บ่าวไพร่บริวาร
ชอบข่มขู่ผู้อื่น ทำให้เขาเกิดการระทึก อกสั่นขวัญเสีย
เมื่อทำสิ่งใดไม่สมปรารถนาหรือเกิดความเสียหาย ไม่
สำรวจตัวเอง กลับโทษแต่ผู้อื่น แม้กระทั่งเพทยดาฟ้าดิน
เกิดพายุก็โกรธลม เห็นฝนตกก็ด่าฝน
ชอบการทะเลาะวิวาท ขึ้นโรงขึ้นศาล หรือชอบยุแยง
ตะแคงรั่ว
ไม่แบ่งแยกดีชั่ว เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง สบโอกาสก็
ป้ายสีคนดีว่าเป็นสมัครพรรคพวกหรือเป็นกลุ่มก๊วนคนร้าย
ฟังแต่คำพูดของภรรยา ไม่ว่าเมียหลวงหรือเมียน้อย จน
ขัดใจพอ่ แม ่ หรอื ไมป่ ฏบิ ัตติ ามคำสั่งสอนของผูบั้งเกดิ เกลา้
ได้ใหม่ลืมเก่า คนได้ใหม่ลืมเก่า ไม่ว่าภรรยา เพื่อนฝูง
หรือผู้ร่วมงาน ล้วนแสดงถึงเป็นคนใจจืดใจดำ ไร้ศีลไร้สัตย์
ไร้นํ้าใจ
ปากอย่างใจอย่าง ปากดีใจร้าย ปากปราศรัยใจเชือดคอ
เพ่อื ผลประโยชนท์ รัพยส์ นิ เงนิ ทอง ใชเ้ ลห่ เ์ หล่ยี มกลลวง
ปกปิดมดเท็จ หลอกลวงเบื้องสูง หลอกลวงผู้บังคับ
บัญชา
สรา้ งหลักฐานเท็จ ใชว้ าจา เขยี นบทความ สรา้ งมตเิ พ่อื
ใส่ร้ายคนดี หรือทำลายผู้ไม่มีความผิด
ใส่ร้ายผู้อื่นแล้วยังถือการใส่ร้ายใส่ความนี้ว่าเป็นสิ่ง
ถูกต้อง
ด่าทอเทพดา เย้ยฟ้าท้าดิน และยังถือการกระทำนี้เป็น
สิ่งถูกต้อง
ละทิ้งคุณธรรม สวามิภักดิ์อธรรม
ต่อพ่อแม่ไม่กตัญญู ต่อพี่น้องไม่รักใคร่ ต่อผู้อื่นกลับ
อวดดี อวดรํ่าอวดรวย ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง ชอบดึงฟ้าดึงเทพเป็น
พยาน หรือสาบทสาบานเพื่ออำพรางความชั่วของตัวเอง
ดึงพระดึงเจ้า มายืนยันการกระทำ (ที่ผิดหรือตํ่าช้า)
การกระทำเช่นนี้เป็นความผิดมหันต์ ทำให้ฟ้าดินเทพยดา
ต้องเปรอะเปื้อน
ทำบุญทำทานแล้วกลับนึกเสียดาย เมื่อสร้างกุศลแล้ว
มานึกเสียใจ กลายเป็นตระหนี่ถี่เหนี่ยว
ติดหนี้ติดสิน หรือหยิบยืมข้าวของแล้วไม่ยอมใช้คืน
เรียกร้อง คิดหาวิธี หวังในสิ่งที่มิใช่ตัวเองสมควรจะได้
บ้านช่อง เครื่องเรือน ของกินของใช้ แม้แต่ยานพาหนะ
พยายามตบแต่งให้หรูเลิศจนเกินควรจำเป็น เพื่ออวดรํ่าอวด
รวย
หลงราคะตัณหา เมามัวโลกีย์จนผิดคุณธรรมศีลธรรม
รูปลักษณ์เมตตา ใจคอโหดเหี้ยม
นำของตํ่า ของสกปรกให้คนอื่นกิน
ใข้วิชาอาคม ไสยเวทโอ้อวดชาวบ้าน ทำให้ขาวบ้าน
หลงเชื่อ
ค้าขายไม่ซื่อตรง เช่นขายผ้าโกงความยาว โกงความกว้าง
ชั่งสินค้า โกงตาชั่ง ตวงของขาย ลดปริมาณ
ใช้ของปลอมแทนของจริง เอาสินค้าคุณภาพตํ่าปน
สินค้าคุณภาพสูง เพื่อ
หวังผลกำไรสูงๆ โดยผิดจรรยาบรรณการค้า
กดขี่ รังแกกุลสตรี ใช้อำนาจบีบบังคับให้กุลสตรีไปเป็น
บ่าวไพร่หรือเป็นโสเภณี
หลอกลวงผู้ด้อยการศึกษา หลอกใช้คนเหล่านี้เป็น
เครื่องมือในการหาผลประโยชน์ใส่ตัว
ละโมบ มักมากจนไม่รู้จักเพียงพอ คนเช่นนี้ถึงสามารถ
กอบโกยจนรํ่ารวยเป็นเศรษฐี แต่ก็จะเสวยสุขได้ไม่นาน
เมื่อตัวทำในสิ่งผิด แต่กลับสาปแช่งคนอื่น เพื่อยืนยัน
ว่าสิ่งที่ตนกระทำเป็นเรื่องถูกต้อง
ขี้เหล้าเมายา จนเสียการควบคุมสติ ทำให้ตัวเองตก
เป็นทาสของสุรา
ก่อศึกสายเลือด การแย่งชิงระหว่างพ่อลูก พี่น้องเครือ
ญาติเป็นการแย่งชิงที่ผิดหลักธรรมแห่งฟ้าที่สุด ไม่สมควร
ปรากฏ
เกิดเป็นชายไม่ซื่อสัตย์ภักดีต่อประเทศชาติ และพระ
มหากษัตริย์
เกิดเป็นหญิงไม่อ่อนโยนคล้อยตามสามี
เกิดเป็นชายไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยา ทำให้ครอบครัวไม่
เป็นสุขหรือแม้กระทั่งทำให้ครอบครัวแตกสลาย
เกิดเป็นหญิงไม่น้อมนอบเคารพสามี ทำให้ครอบครัว
อยู่ไม่เป็นสุข
เกิดเป็นชาย ชอบถือว่าเป็นขาย วางอำนาจบาตรใหญ่
ข่มเหงรังแกภรรยา
เกิดเป็นหญิงใจคอคับแคบ อิจฉาตาร้อน
เกิดเป็นชาย ผิดต่อภรรยาและไม่อบรมสั่งสอนลูกให้
เป็นคนดี การปฏิบัติดีต่อภรรยา และอบรมสั่งสอนลูกเป็น
หน้าที่ที่พึงมีของผู้ชายทุกคน ถ้าทำในสองสิ่งนี้ไม่ได้ ก็เท่ากับ
ไม่ได้ทำหน้าที่ที่ดีของผู้เป็นพ่อและสามี
เกิดเป็นหญิง เมื่อแต่งงานแล้ว ต้องเคารพ น้อมนอบ
และดูแลพ่อแม่สามี ถ้าไม่ปฏิบัติเช่นนี้ ก็เป็นการไม่ทำหน้าที่
สะใภ้ที่ดี
เสียมารยาท หรือไม่เคารพสักการะบรรพชน บรรพชน
ผู้ล่วงลับไปแล้ว ถึงแม้จะเหลือแต่รูปภาพหรือป้ายวิญญาณ
เราก็ควรให้ความเคารพ ถึงวันตรุษสารทหรือวันคล้ายวันเสีย
ชีวิต เราควรมีพิธีเซ่นไหว้สักการะ มิเช่นนั้นก็ไม่ใช่เป็นลูก
หลานที่กตัญญู
ฝ่าฝืนคำสั่งหรือคำสั่งสอนของเบื้องสูง ผู้บังคับบัญชา
ครูบาอาจารย์ พ่อแม่
กระทำในสิ่งที่ไร้ประโยชน์ เช่นกินเหล้าเมายา หลงใน
ลำแสงสีเสียง หลงใหลอบายมุข เพราะสิ่งเหล้านี้จะทำให้เรา
เสียความเป็นคน มีโทษต่อร่างกาย ต่อการศึกษา ต่อการงาน
และอนาคต บางครั้งกระทบถึงครอบครัว
เอาใจออกห่าง เกิดเป็นคนควรซื่อสัตย์ภักดี ไม่ว่าชาย
หรือหญิงควรมีใจเดียว เป็นขุนนางถ้ามีใจออกห่าง ถือไม่
ซื่อตรงต่อเหนือหัว เป็นข้าทาสบริวาร เอาใจออกห่างคือไม่
ซื่อตรงต่อเจ้านาย ลูกมีใจออกห่างคือเนรคุณต่อพ่อแม่
ภรรยามีใจออกห่างก็ผิดต่อสามี พี่น้องและเพื่อนถ้ามีใจออก
ห่างก็ไม่เป็นเพื่อนและพี่น้อง
แช่งเขาแช่งเรา คนบางคนเพื่อจะยืนยันว่าตัวทำถูก
ต้อง เอะอะก็ใช้วาจาสาปแช่ง สาปแช่งตัวเองเพื่ออวดอ้างว่า
คนพูดจริงสาปแช่งผู้อื่นเพื่อระบายความแค้น
ลำเอียงรักเกลียด บางคนเมื่อรักก็รักอย่างหัวปรักหัว
ปรำ เมื่อเกลียดก็เกลียดจนเข้าไส้เข้ากระดูก ท่าทีสองอย่างนี้
ล้วนเกิดจากอคติ ลำเอียงหลงใหล จนไม่คำนึงถึงเหตุถึงผล
ใดๆ ทั้งสิ้น
กระโดดข้ามบ่อนํ้า ก้าวข้ามเตาไฟ บ่อนํ้าและเตาไฟ
ล้วนมีสิ่งศักด์ิสิทธ์ิสิงสถิต จึงควรให้ความเคารพ ไม่ควรก้าว
ข้ามหรือกระโดดข้าม
กระโดดข้ามอาหารของกิน ก้าวข้ามร่างคน อาหาร
เป็นสิ่งบริโภคหล่อเลี้ยงร่างกาย ร่างคนก็คือเผ่าพันธุ์เดียวกัน
ทั้งสองนี้ควรให้เกียรติ การก้าวข้ามหรือกระโดดข้าม คือการ
เหยียบหยามไม่ให้เกียรติ
ทำแท้งรีดลูก เข่นฆ่าทารก
มุบมิบแอบแฝง อำพรางซ่อนเร้น เกิดเป็นคนไม่ว่าทำ
สิ่งใด ควรสง่าผ่าเผย ไม่ควรต่อหน้าอย่าง ลับหลังทำอีก
อย่าง พยายามอำพราง ซ่อนเร้นความชั่วของตัวเอง นึกว่า
ไมม่ ใี ครรูใ้ ครเห็น อยา่ ลมื วา่ เลยหัวสามฟุตก็มสี ่งิ ศักด์สิ ทิ ธ์สิ ถติ
อยู ่ ความชั่วท่กี อ่ ในท่ลี ับ สุดทา้ ยตอ้ งถูกเปดิ เผย ถูกคดิ บัญชี
ร้องรำทำเพลงในวันสิ้นเดือนและสิ้นปี สองวันนี้เป็นวัน
ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันทึกและสรุปความดีชั่วของมนุษย์ เราควรให้
ความยำเกรง ควรนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม ไม่ควรหลงระเริงใน
แสงสีเสียง
เอะอะมักทึ่ง เสียงดังโวยวายในวันขึ้น 1 คํ่า และถาม
ฟ้าสาง ฟ้าสางเป็นการเริ่มต้นของวันใหม่ วันขึ้น 1 ค่ำเป็นวัน
เริ่มต้นของเดือนใหม่ ถ้าเรามีกิริยามักทึ่ง วาจาโวยวาย การ
เริ่มงานของวันๆ นั้น หรือการเริ่มงานของเดือนๆ นั้นก็จะไม่ดี
ไม่ราบรื่น
ปัสสาวะหรือถ่มนํ้าลายไปทางทิศเหนือ ทิศเหนือเป็น
ทิศสถิตของเทพไป่โส่ว ซึ่งเป็นเทพควบคุมชะตาชีวิตของ
มนุษย์ เราควรให้ความเคารพนับถือ ไม่ควรแสดงกิริยาหยาบ
คายเช่นนั้น
ร้องเพลงหรือร้องไห้ต่อหน้าเตาไฟ เตาไฟมีเทพเจ้าเตา
สิงสถิตอยู่ ฉะนั้น เราไม่ควรแสดงกิริยาวาจาที่ไม่ให้ความ
เคารพ
ใช้ไฟในเตาจุดธูป การจุดธูปไหว้เจ้าต้องทำด้วยจิตที่
เคารพน้อมนอบ ต้องใช้ไฟในตะเกียงหรือเปลวเทียนจุด ไม่ใช่
สักแต่ไฟอะไรก็ได้ ขอให้จุดติดก็แล้วกัน การกระทำเช่นนี้
ถือว่าไม่เคารพเทพเจ้า
ใช้ไม้สกปรก เปรอะเปื้อนมาเป็นฟืนหุงหาอาหาร ใช้ไม้
ฟืนสกปรกหุงอาหาร ควันไอที่โสโครกลอยขึ้นสูงไปกระทบ
ปะทะกับเทพเจ้า ซึ่งเป็นการรังควาน มิให้เกียรติแก่เทพเจ้า
นอนเปลือยกายในยามคํ่าคืน บางคนถือเวลาคํ่าคืน
ไม่มีผู้คนเห็นเรา เลยนิยมเปลือยกายเดินเหินหรือเปลือยกาย
เข้านอน หารู้ไม่ว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดต่อสิ่ง
ศักด์ิสิทธ์ิ เพราะสิ่งศักด์ิสิทธ์ิมักจะออกสำรวจความประพฤติ
ของมนุษย์ในยามคํ่าคืน
ลงทัณฑ์หรือทำการประหารในวันตรุษสาทร วันตรุษ
สาทรเป็นวันสำคัญของฟ้าดิน ฉะนั้นจึงควรละเว้นในกิจกรรม
เหล่านี้
ถ่มนํ้าลายดาวตก นิ้วชี้สายรุ้ง
มักชี้เทวรูปหรือรูปภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนสักการบูชา
เพ่งจ้องสุรียันจันทรา (การกระทำทั้งสี่นี้ ล้วนเป็นกิริยา
ที่ไม่เคารพต่อสิ่งศักด์ิสิทธ์ิ)
ล่าสัตว์เผาป่าในฤดูวสันต์ ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูขยาย
พันธุ์ เผยแพร่พันธุ์ของสรรพชีวิต ถ้าเราไล่ล่า เผาป่า จะ
ทำให้สรรพชีวิตสูญพันธุ์เร็วขึ้น
ชี้ด่าทอไปทางทิศเหนือ ซึ่งข้างต้นได้กล่าวมาแล้วว่า
ทิศเหนือเป็นทิศสถิตของเทพไป่โส่ว เราควรให้ความเคารพ
ไม่ควรแสดงกริยาหยาบคาย
ฆ่างูฆ่าเต๋าโดยใช่เหตุ งูและเต๋าเป็นสัตว์จำศีลเป็นสัตว์
ที่สัญชาตญาณเป็นคนอยู่ในตัว จึงควรสงวน ไม่ควรฆ่าโดย
ใช่เหตุ
หมวดที่ 7 หมวดกรรมสนองอกุศลกรรม
หลักธรรมของการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เราได้กล่าว
อย่างละเอียด ณ ข้างต้นแล้ว หมวดที่ 7 นี้จะยํ้าถึงผลของ
กรรมชั่วว่าจะสาหัสสากรรจ์เช่นใด ให้ทุกท่านอ่านแล้วพึง
ควรระลึก ว่าผลของ โลภ โกรธ หลงจะเป็นเช่นใด
โทษที่กล่าวไว้ในหมวดที่ 6 นั้น เทพชะตาจะบันทึกโทษ
ฐานของมนุษย์ทั้งปวง วิเคราะห์ตามความผิดใหญ่ เล็ก มาก
น้อย แค่ไหน แล้วบั่นทอนโชคลาภ ตัดทอนอายุขัย เมื่ออายุขัย
หมด ก็ต้องจบชีวิตเมื่อนั้น เมื่อจบชีวิตแล้ว ความผิดที่ก่อไว้
ยังไม่หมดสิ้น เวรกรรมนั้นๆ ก็จะตกทอดถึงลูกหลาน
อย่างเช่นผู้ที่หลอกลวง แย่งชิง ใช้อำนาจบีบบังคับ
หรือปล้นสะดมทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่เพียงแต่ครอบครัวของ
ตัวเองต้องรับโทษแล้ว โทษทัณฑ์นั้น
ยังจะลามถึงครอบครัวของภรรายาให้ต้องรับกรรมด้วย
ทำให้คนในครอบครัวภรรยา ค่อยๆ เกิดการเจ็บป่วย
จนถึงเสียชีวิต มิเช่นนั้น
ก็เกิดอัคคีภัย อุทกภัยหรือโจรขโมยเข้าบ้านหรือ
ทรัพย์สินข้าวของสูญหาย หรือ
เกิดโรคภัยไข้เจ็บ เกิดการทะเลาะวิวาท หรือ เกิดคดี
ความเพื่อขอใช้ความผิดที่ไปเอาทรัพย์สินคนอื่นมาโดยมิชอบ
ผู้ที่เข่นฆ่าคนโดยไร้ความผิด จะพบกับดาบนั้นคืน
สนอง นอกจากต้องตกนรกหมกไหม้แล้ว ตัวเองก็ต้องพบกับ
ชะตากรรมที่ถูกฆ่า การฆ่าคนที่ไร้ความผิด นอกจาก
วิญญาณผู้ตายจะกลายเป็นผีอาฆาต ไม่ยอมไปผุดเกิด จะ
คอยมารังควานฆาตกรตลอดเวลาแล้ว ยังมีญาติมิตรพี่น้อง
ของผู้ถูกฆ่าจะผูกใจเจ็บ คอยหาช่องทางแก้แค้น และยังหนี
ไม่พ้นช่องทางกฎหมาย ต้องถูกจับลงทัณฑ์ บางครั้งถึงขั้น
ประหารชีวิต
ผู้ที่ได้ทรัพย์ด้วยวิธีการมิชอบนั้น
เฉกเช่นนำเนื้อที่มีสารพิษเจือปนมากินเพื่อประทังชีวิต
ดื่มเหล้าพิษเพื่อแก้กระหายนํ้า
กินเข้าไปท้องไม่ทันอิ่ม ความกระหายยังไม่ทันลด
ตัวเองก็ต้องมาจบชีวิตเสียก่อน
หมวดที่ 8 หมวดชี้แนะ ว่าทำการใดต้องคอยระมัดระวัง
แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ
หมวดนี้ชี้ให้เห็นว่า เพียงแต่ใจเรานึกคิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็
รับรู้ทันที ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ต้องพึงสังวร การกระ
ทำการปฏิบัติ กับกรรมสนอง เสมือนดั่งเงาตามตัว ตัวไปถึง
ไหน เงาก็ตามไปถึงที่นั่น ร้อยชาติก็หลีกหนีไม่พ้น
โอ้ มนุษย์เรา เมื่อใจบังเกิดกุศล
การกุศลนั้นยังไม่ทันปฏิบัติ
แค่เทพมงคลก็คอยอภิบาลติดตามตัวเรา
หรือใจเกิดความนึกคิดชั่วร้าย
ความชั่วถึงยังไม่ลงมือกระทำ
เทพอัปมงคลก็ติดตามอยู่ข้างกายเราแล้ว
หมวดที่ 9 หมวดสำนึก
หมวดนเี้ ขยี นถงึ มนุษยเ์ ราถา้ ทำผดิ แลว้ รูส้ ำนกึ และแกไ้ ข
ในส่งิ ผดิ กลับมาสรา้ งความดี ก็สามารถโนม้ นา้ วใจฟา้ ใหล้ ด
หย่อนผ่อนโทษ จากหนักกลายเป็นเบา จากร้ายกลายเป็นดี
มนุษย์ที่เคยทำความผิด
ต่อมารู้สำนึก และแก้ไขในสิ่งที่ผิด
และละเว้นการก่อกรรมทำชั่วใดๆ ทั้งสิ้น
ปฏิบัติแต่สิ่งถูกต้อง เดินแต่กุศลมรรค
เวลาผ่านไปนานวันเข้า ก็จะได้รับมงคลชัย
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “จากร้ายกลายเป็นดี จากวิบัติ
กลายเป็นวาสนา”
หมวดที่ 10 หมวดทำความดี สร้างกุศล ต้องยืนหยัด
หมั่นเพียร แน่วแน่
หมวดนี้กล่าวถึงเมื่อรู้ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแล้วต้อง
ยืนหยัดแน่วแน่สร้างความดี จึงจะได้ดี ถ้าทำความดีไม่กี่วัน
ก็ไปก่อกรรมทำชั่วอีก วิบัติก็จะวกกลับมาอีก
ฉะนั้น สาธุชนที่มีกุศลจิตต้องมี “สัมมาวาจา สัมมา
เวทนา สัมมากัมมันตะ” พูดจาแต่ในสิ่งที่ดี รับรู้แต่ในสิ่งที่ดี
และกระทำแต่ในสิ่งที่ดี
วันหนึ่งสามารถสร้างกุศล
ดำเนินเช่นนี้ติดต่อไปเป็นเวลา 3 ปี ฟ้าย่อมประทาน
วาสนาสุขให้แก่เรา
คนชั่วที่พูดจามีแต่ความชั่ว รับรู้แต่เรื่องชั่วๆ ก่อกรรม
ทำเข็ญไม่หยุดหย่อน
หนึ่งวันทำชั่วสามประการ คนเช่นนี้
เวลาผ่านไปสามปี เคราะห์กรรม สิ่งเลวร้ายต้องมา
เยือนอย่างแน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงขอให้ทุกท่านพึงระวัง และจดจำนำไป
ปฏิบัติ